กทม.17 ก.ย.-ปอท.เรียกเจ้าของบัญชีและผู้เกี่ยวข้องที่แอบอ้างรับโอนเงินบริจาค”บิณ บันลือฤทธิ์”ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมมาให้การ 24 ก.ยนี้
ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือ บก.ปอท.อาคารบี ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ในฐานะโฆษก บก.ปอท. เปิดเผยกรณี “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นักแสดงและอาสาสมัครกู้ภัย ไลฟ์สดเปิดเผยความเป็นอยู่ของผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่ จ.อุบลราชธานี เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา(14 ก.ย.) ผ่านแฟนเพจ”บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” ก่อนประกาศจะนำเงินส่วนตัว 1 ล้านบาท ไปช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนจากน้ำท่วม พร้อมระบุว่า หากใครที่จะร่วมกับตนสามารถโอนเข้าบัญชีได้จากนั้นมีผู้สนใจโอนเงินช่วยเหลือกระทั่งยอดเงินทะลุ 100 ล้านบาท และมีเพจดัง Drama-addict ออกมาแจ้งเตือนผู้บริจาคพร้อมเผยเลขบัญชีของบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ หลังเจ้าตัวเปิดรับบริจาค แต่กลับมีมิจฉาชีพอาศัยช่วงวิกฤตปลอมแปลงเลขบัญชีเป็นของตนหวังโกยเงินก่อนถูกชาวเน็ตจับได้ว่าเป็นเลขบัญชีปลอม ซึ่งต่อมาทางธนาคารออมสิน ได้ออกมาโพสต์ผ่าน GSB Society ว่า หลังทางธนาคารได้รับแจ้งข่าวว่ามีการนำภาพและข้อความของบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ มาทำการแอบอ้างเพื่อขอรับบริจาคเงินนั้น ทางธนาคาร ได้ประสานตำรวจตรวจสอบเลขบัญชีและเชิญเจ้าของบัญชีดังกล่าวมาพบพร้อมอายัดบัญชีทำให้ไม่สามารถฝาก-ถอน หรือทำธุรกรรมใดๆได้อีก และขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งนี้ บก.ปอท.ได้เฝ้าระวังและตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ถ้าผู้กระทำมีเจตนาให้ประชาชนหลงเชื่อว่าบัญชีที่โพสต์และมีรูป”บิณฑ์ บันลือฤทธิ์”เป็นบัญชีรับบริจาคช่วยน้ำท่วมจริง จะเข้าข่ายความผิดฐาน ฉ้อโกงประชาชน ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และยังจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(1) โดยทุจริตนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันจะทำให้ประชาชนเกิดความเสียหาย ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 1 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
กรณีข่าวปลอมบัญชีธนาคารรับเงินบริจาคน้ำท่วมของ”บิณฑ์ บันลือฤทธิ์” มีประชาชนสนใจเป็นจำนวนมาก พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น ผบก.ปอท.ได้สั่งการมาให้พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอท.เชิญตัวผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งเจ้าของบัญชี, ธนาคารออมสิน ผู้โพสต์เฟซบุ๊ค ให้มาพบพนักงานสอสวนวันที่ 24 ก.ย.นี้ เวลา 10.00 น. ที่บก.ปอท. เบื้องต้นจะให้ชี้แจงเรื่องทั้งหมดที่เกี่ยวข้องตามความเป็นจริงก่อน ในส่วนของฝ่ายสืบสวน บก.ปอท.ก็จะรวบรวมพยานหลักฐานประกอบการดำเนินคดีต่อไป พร้อมเตือนว่าอย่าการกระทำลักษณะนี้เลย พี่น้องที่ประสบอุทกภัยก็ได้รับความเดือดร้อนยากลำบากมากพอดูอยู่แล้ว การมีคนที่มีจิตอาสาเสียสละลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือพี่น้องที่ประสบอุทกภัย เปิดรับบริจาคนำเงินไปช่วยเหลือเป็นเรื่องที่ดี ขออย่าใช้ช่องทางนี้ฉกฉวยประโยชน์ นอกจากจะมีโทษทางกฎหมายที่ค่อนข้างสูงแล้วยังเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรมอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย
