กาญจนบุรี 16 ก.ย. – แรงงานเมียนมาและไทยกว่า 300 คน ลูกจ้างบริษัทแห่งหนึ่งใน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เดือดร้อนหนัก ถูกนายจ้างเบี้ยงค่าแรงตั้งแต่เดือนมิถุนายน วันนี้จึงรวมตัวฟ้องศาลแรงงานภาค 7
แรงงานเมียนมาและไทยกว่า 300 คน รวมตัวร้องศาลแรงงานภาค 7 หลังถูกนายจ้างเบี้ยวค่าจ้างเป็นเวลาหลายเดือน บางคนเป็นลูกจ้างรายวัน บางคนเป็นลูกจ้างรายเหมา บางรายยังไม่ได้รับค่าแรงตั้งแต่เดือนมิถุนายน รวมเป็นเงินตั้งแต่กว่า 10,000-30,000 บาท
นายอาใหม่ อายุ 48 ปี ชาวบ้านไล่โว่ อ.สังขละบุรี เล่าว่า เข้าทำงานตั้งแต่ปี 2546 ปัจจุบันเป็นหัวหน้าคนงานได้ค่าจ้างวันละ 315 บาท ปกติรับเงินค่าจ้างเดือนละ 2 งวด ทว่าตั้งแต่เดือนมิถุนายน จนถึงวันนี้ยังไม่ได้รับค่าจ้าง 7 งวด รวมเป็นเงินกว่า 30,000 บาท เคยสอบถามบริษัท ได้รับแจ้งว่าบริษัทมีเงินไม่พอ ให้รอก่อน ทำให้ต้องใช้ชีวิตลำบาก ไม่มีเงินส่งกลับไปให้ที่บ้านใช้จ่าย ค่ากินค่าอยู่ทุกวันนี้ต้องติดหนี้ร้านค้าเกือบ 4,000 บาท หากได้ค่าจ้างสิ่งแรกที่จะทำคือนำไปชำระหนี้
เช่นเดียวกับนายตาทวย อายุ 25 ปี ชาวทวาย หัวหน้าคนงาน บอกว่า หลังถูกเบี้ยวค่าจ้าง ตนและลูกน้องนับร้อยเดือดร้อนหนัก ขาดเงินจ่ายค่าอยู่ค่ากิน ตัวเองยังถือว่าโชคดีที่เจ้าของห้องพักให้ติดค้างค่าเช่า ขณะที่ลูกน้องอีกหลายคนต้องอาศัยเงินกู้รายวันเป็นที่พึ่ง
ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เผยว่า จากการรับฟังปัญหาของแรงงานพบว่าที่ผ่านมามักถูกนายจ้างเอาเปรียบ จ่ายเงินช้า ไม่ตรงงวด ได้รับความเดือดร้อนมานานหลายเดือน ทั้งที่คนกลุ่มนี้น่าสงสาร มีรายได้น้อย แต่ก็ยังถูกกดขี่ วันนี้ศาลแรงงานภาค 7 รับฟ้องจากลูกจ้างทั้งต่างด้าวและไทยจำนวน 270 คน หลังจากนี้ศาลจะเรียกนายจ้างกับลูกจ้างมาเจรจาเพื่อจ่ายเงินที่ค้างไว้ภายใน 15 วัน รวมเป็นเงินทั้งหมดประมาณ 10 ล้านบาท หากนายจ้างไม่ยอมจ่ายก็ต้องดำเนินคดี
จากการตรวจสอบเบื้อต้นพบว่า ทั้ง 4 บริษัทมีเจ้าของเดียวกัน และตั้งอยู่ในละแวกเดียวกันในหมู่ 7 ต. แสนตอ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ขณะที่ช่วงบ่ายแรงงานได้รับแจ้งจากตัวแทนว่าจะมีการทยอยจ่ายค่าจ้างที่คงค้างในบางงวด แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับ. – สำนักข่าวไทย