กทม. 14 ก.ย.-ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ใช้ไบโอเมตริก ตรวจจับความผิดปกติของพาสปอร์ต 3 วัน ได้ผู้ต้องหาปลอมหนังสือเดินทาง 8 ราย ส่วนใหญ่หวังลี้ภัยในประเทศที่ 3
พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. แถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรม และกวดขันจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายหรือที่มีพฤติกรรมจะเข้ามากระทำความผิดทางอาญาหรือก่อความเดือดร้อนวุ่นวายให้บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยระหว่างวันที่ 11-13 กันยายน กองกำกับการสืบสวนปราบปราม กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 มีผลการจับกุมคดีสำคัญๆ จำนวน 8 ราย อาทิ จับกุมพ่อแม่ลูกชาวอิหร่าน 3 ราย ใช้หนังสือเดินทางประเทศกรีซปลอม เพื่อเดินทางไปขอลี้ภัยที่ประเทศอังกฤษ โดยผู้เป็นพ่ออ้างว่า ติดต่อนายหน้าชาวอิหร่านจัดหาเอกสารเดินทาง ค่าใช้จ่าย 50,000 ยูโร หรือประมาณ 1,700,000 บาท โดยต้องชำระล่วงหน้า 20,000 ยูโร ที่ประเทศอิหร่าน และเดินทางมารับหนังสือเดินทางที่ประเทศตุรกี ได้ชำระส่วนที่เหลืออีก 30,000 ยูโร ก่อนจะเดินทางมาประเทศไทย โดยใช้หนังสือเดินทางปลอมเล่มดังกล่าวในการเดินทาง ก่อนเดินทางต่อไปประเทศที่ 3
นอกจากนี้ยังจับกุม 3 หญิงชาวปาเลสไตน์ โดยสารเครื่องบินมาจากกรุงอาบูดาบี ใช้หนังสือเดินทางประเทศสวีเดนหน้าเหมือน ในการเดินทางเข้าประเทศไทย เพื่อแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยว ก่อนที่จะใช้หนังสือเดินทางหน้าเหมือนเดินทางไปขอลี้ภัยยังประเทศที่ 3 โดยทั้ง 3 ราย ติดต่อนายหน้าที่ประเทศอิหร่าน โดยระบบไบโอแมทริกซ์ อ่านค่าความเหมือนเปรียบเทียบภาพถ่ายจากชิพที่ฝังอยู่ในหนังสือเดินทางอีพาสปอร์ตกับภาพผู้โดยสาร พบว่ามีเปอร์เซ็นต์ความเหมือนกันนั้นมีค่าต่ำ ผู้โดยสารมีใบหน้า หู ตา จมูก และปาก แตกต่างจากภาพที่จัดเก็บในชิพ ทางตำรวจ จึงจับกุมผู้ต้องหา พร้อมแจ้งข้อหาใช้หนังสือเดินทางของผู้อื่นโดยมิชอบฯ นำส่ง สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิดำเนินคดี
ด้านพล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้นั้นมีพฤติการณ์เหมือนกัน โดยเดินทางเข้าประเทศไทยเพื่อเข้าไปยังประเทศที่ 3 ส่วนใหญ่ไปประเทศฝั่งยุโรป ซึ่งจะใช้หนังสือเดินทางปลอมที่ซื้อมาจากนายหน้าต่างประเทศ ในราคา 18,000-1,700,000 บาท เรทราคานั้นขึ้นอยู่กับระยะต้นทางที่จะเดินทางไปยังประเทศปลายทาง โดยระบบไบโอเมทริกซ์ได้อ่านค่าจากชิพที่ฝังอยู่ในหนังสือเดินทางกับภาพผู้โดยสาร หากไม่พบฐานข้อมูลในระบบ ก็จะคาดว่าเข้าข่ายเป็นพาสปอร์ตปลอม หรือบุคคลต่างด้าว และในระยะเวลาวันที่ 11 ก.ย.-13 ก.ย. จับกุมได้ 8 ราย.-สำนักข่าวไทย