นครปฐม 9 ส.ค. – “สีสันเศรษฐกิจ” วันนี้จะพาไปทำความรู้จักกับ “หุ่นขี้ผึ้ง” งานศิลปะที่กลายมาเป็นธุรกิจ จะมีความน่าสนใจขนาดไหน และสามารถปรับตัวในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัวได้อย่างไร ติดตามจากรายงาน
ที่เห็นอยู่นี้ไม่ใช่องค์จริง แต่เป็นหุ่นขี้ผึ้งที่ถ่ายทอดความมีชีวิตชีวาผ่านงานศิลปะออกมาในทุกตารางนิ้ว
ปัจจุบันหุ่นขี้ผึ้งปั้นด้วยไฟเบอร์กลาส เพราะขี้ผึ้งละลายง่าย เวลาเจออากาศร้อนจัด หรือมีความชื้นสูง แต่ไฟเบอร์กลาสมีความคงทน ให้เนื้องานที่นวลเนียนสวยงาม และดูแลรักษาง่ายกว่า
กว่าจะมาเป็นหุ่นขี้ผึ้งแต่ละตัว ใช้เวลา 4-6 เดือน เพราะต้องศึกษาบุคลิกลักษณะของบุคคลต้นแบบให้ถี่ถ้วน ก่อนขึ้นโครงหุ่น ทำพิมพ์ หล่อและตกแต่งหุ่น ปลูกผมกันทีละเส้น หลังจากนั้นจึงมาลงรายละเอียดผิวพรรณและเสื้อผ้า ก่อนนำออกแสดงจริง
งานที่ได้รับความนิยมส่วนใหญ่เป็นองค์เทพ เกจิอาจารย์ และบุคคลสำคัญ ช่วงเทศกาลเข้าพรรษาและวันสำคัญทางศาสนาจะเป็นช่วงที่ขายดีที่สุด พร้อมต่อยอดธุรกิจสร้างองค์พระและวัตถุมงคล โดยคิดราคาตามขนาดและความละเอียดของงาน หากสั่งทำขนาดเล็กจำนวนมาก ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 2 บาท ถึงหลักล้านกันเลยทีเดียว สร้างรายได้เฉลี่ยมากกว่า 1 ล้านบาท/เดือน ส่วนตลาดก็มีตลาดทั้งในประเทศและส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงจีนและยุโรปบ้างแล้ว ขณะที่วัตถุดิบส่วนใหญ่ยังต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ทำให้ต้องเผชิญกับราคาวัตถุดิบที่ผันผวน และต้องปรับกลยุทธ์บ่อยครั้ง
การแข่งขันที่รุนแรง ทั้งการตัดราคาและแย่งตลาด ประกอบกับการที่มีลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ทำให้ที่นี่ต้องมีการปรับตัว โดยเฉพาะการเพิ่มไลน์สินค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น มุ่งเน้นคุณภาพและการบริการ เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดในยามที่เศรษฐกิจซบเซา. – สำนักข่าวไทย