ชลบุรี 11 ก.ย. – คงจำกันได้เหตุการณ์ใหญ่ คดีล้มการประชุมผู้นำอาเซียน ที่พัทยา เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ในที่สุดวันนี้ศาลฎีกาได้ตัดสินแล้ว โดยพิพากษายืน สั่งจำคุกนายอริสมันต์ พร้อมพวกรวม 12 คน เป็นเวลา 4 ปี ไม่รอลงอาญา
จำเลยในคดีนี้ ประกอบด้วย นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง, นายนิสิต สินธุไพร, นายพายัพ ปั้นเกตุ, นายวรชัย เหมะ, นายวันชนะ เกิดดี, นายพิเชฐ สุขจินดาทอง, นายศักดา นพสิทธิ์, พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภารัตน์, นายนพพร นามเชียงใต้, นายสำเริง ประจำเรือ, นายสมยศ พรหมมา, นพ.วัลลภ ยังตรง และนายสิงห์ทอง บัวชุม วันนี้มีเพียงนายศักดา นพสิทธิ์ ปัจจุบันเป็นรองเลขาธิการพรรคเพื่อชาติ มาฟังคำพิพากษา นายศักดา บอกว่า จำเลยคนอื่นไม่มา เพราะมีเหตุผลส่วนตัว และตนได้ยื่นเอกสารยืนยันว่า พยานที่ให้ปากคำเป็นพยานเท็จ
คดีนี้พนักงานอัยการจังหวัดพัทยา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ข้อหาร่วมกันขัดขืนคำสั่งเจ้าพนักงานที่ไม่ให้มีการชุมนุมเกินกว่า 10 คนขึ้นไป และผิด พ.ร.บ.จราจร จากเหตุการณ์เมื่อเดือนเมษายน 2552 โดยนายอริสมันต์ และแกนนำ นปช. นำกลุ่มคนเสื้อแดงไปชุมนุมปิดล้อมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา เพื่อกดดันรัฐบาลสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จนทำให้ต้องเลื่อนการประชุมออกไป
ที่สุดศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ให้จำคุก 12 จำเลย เป็นเวลา 4 ปี โดยยกฟ้องนายสมยศ พรหมมา เพราะเป็นมวลชนธรรมดา ไม่ใช่แกนนำ
ทนายความของกลุ่ม นปช. เปิดเผยว่า พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ซึ่งปัจจุบันเป็น ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ นายสำเริง ประจำเรือ และนายวรชัย เหมะ ที่ไม่ได้รับหมายเรียกให้มาฟังคำพิพากษา ศาลจะออกหมายเรียกให้มารับฟังคำพิพากษาอีกครั้ง ในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ส่วนจำเลยที่ไม่มาฟังคำพิพากษาวันนี้ ศาลจะออกหมายจับ เพื่อให้มารายงานตัวต่อศาลและเข้าสู่เรือนจำทันที
ด้านทนายความส่วนตัวนายอริสมันต์ บอกสาเหตุที่นายอริสมันต์ไม่มา เพราะป่วย เวียนศีรษะ บ้านหมุน รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสนามจันทร์ จ.นครปฐม หลังทราบคำพิพากษาได้โทรศัพท์ไปบอกนายอริสมันต์แล้ว แต่จะมารายงานตัวกับศาลเมื่อใดนั้น ไม่สามารถเปิดเผยได้. – สำนักข่าวไทย