กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – กรมประมงกำชับประมงจังหวัดพื้นที่ประสบอุทกภัย คุมเข้มฟาร์มให้ระวังและป้องกันจระเข้หลุดจากบ่อเลี้ยง ส่งทีมไกรทองลงพื้นที่เฝ้าระวังและช่วยเหลือผู้ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง
นายวิชาญ อิงศรีสว่าง รองอธิบดีกรมประมง กล่าวว่า ได้เร่งสำรวจความเสียหายด้านการประมงจากอุทกภัย ล่าสุดพบเพิ่มขึ้นเป็น 19 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ ลำปาง พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย พิจิตร กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ขอนแก่น นครพนม มหาสารคาม อุดรธานี อุบลราชธานี ยโสธร อำนาจเจริญ ร้อยเอ็ด ศรีษะเกษ และกระบี่ ทุกจังหวัดมีฟาร์มเพาะเลี้ยงจระเข้จึงเกรงว่าหากไม่ป้องกันให้ดีจระเข้อาจหลุดไปตามน้ำได้ ที่ผ่านมาได้ให้ประมงจังหวัดทำหนังสือเตือนและคำแนะนำในการป้องกันจระเข้หลุดทั้งนำตะแกรงมาปิดปากบ่อ เสริมความแข็งแรงของบ่อ และอุดท่อระบายน้ำ
นายวิชาญ กล่าวต่อว่า ได้ตรวจเยี่ยมฟาร์มไชยยนต์หาทรัพย์ ซึ่งเป็นฟาร์มเลี้ยงจระเข้รายใหญ่จังหวัดอุบลราชธานี พบว่าบ่อเพาะเลี้ยงมั่นคงแข็งแรงเป็นไปตามมาตรฐานที่กรมประมงกำหนดไว้ การเฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมให้ฟาร์มจระเข้ทำมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมก่อนที่จะเกิดอุทกภัยและเมื่อน้ำท่วมจึงกำชับเจ้าหน้าที่ให้เฝ้าระวังมากขึ้นเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ยังตั้งเครือข่ายไกรทองเพื่อเฝ้าค้นหาและจับจระเข้หากได้รับแจ้งว่าพบจระเข้ในแหล่งน้ำธรรมชาติ โดยเครือข่ายดังกล่าวมีทั้งหมด 8 ศูนย์ และ 43 เครือข่ายย่อยทั่วประเทศ โดยมีเจ้าหน้าที่ปฎิบัติงาน 80 นาย ซึ่งล้วนได้รับการอบรมและชำนาญในการจับจระเข้ในธรรมชาติเป็นอย่างดี ขอให้ประชาชนสบายใจได้
สำหรับความเสียหายด้านประมงจากอุทกภัย เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคมจนถึงปัจจุบันมีพื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้รับผลกระทบประมาณ 32,241.58 ไร่ เกษตรกรได้รับความเสียหาย 27,762 ราย รวมมูลค่า 450 ล้านบาท โดยคาดการณ์ว่าจากสถานการณ์น้ำที่ยังท่วมขังสูงหลายพื้นที่จะเกิดผลกระทบต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งกรมประมงจะเร่งวางมาตรการช่วยเหลือและฟื้นฟูอาชีพให้เกษตรกรกลับมามีรายได้โดยเร็วที่สุด.-สำนักข่าวไทย