“หุ่นยนต์สำรวจใต้น้ำ-ตรวจดีเอ็นเอแบบใหม่” วิทยาศาสตร์ช่วยไขคดี “บิลลี่”

กรุงเทพฯ 6 ก.ย.- การค้นหาหลักฐานสำคัญการหายตัวไป 5 ปี ของ “บิลลี่” นอกจากเบาะแสของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอแล้ว ยังมีการนำวิทยาศาสตร์ และนวัตกรรมมาช่วยคลี่คลายคดี เช่น ใช้หุ่นยนต์สำรวจ และการตรวจดีเอ็นเอแบบใหม่ แม้วัตถุพยานที่พบจะหลงเหลืออยู่น้อยมาก


หุ่นยนต์สำรวจใต้น้ำของคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ถูกนำมาใช้ในการค้นหาวัตถุพยานในคดีการหายตัวไปของ “บิลลี่” ที่ป่าแก่งกระจาน เพชรบุรี


ปกติเทคโนโลยีนี้ใช้สำรวจโครงสร้างใต้น้ำ ด้านวิศวกรรมโยธา แต่ครั้งนี้ถือเป็นการใช้เพื่อประโยชน์ทางคดีครั้งแรกในไทย หลักการทำงานจะมีกล้อง และตัวส่งสัญญาณคลื่นโซนาร์ เพื่อสแกนวัตถุใต้น้ำ ในรัศมีระยะ 50 เมตร และในระดับน้ำลึกสูงสุด 120 เมตร หรือราวตึก 10 ชั้น


หัวหน้าศูนย์วิจัยฯ ผู้ควบคุมหุ่นยนต์ให้ข้อมูลว่า การค้นหามุ่งเน้นที่ใต้สะพานแขวนเขื่อนแก่งกระจาน โดยใช้คลื่นโซนาร์แกสนหาวัตถุใต้น้ำ ก่อนจะแสดงผลบนจอเรดาห์ ตลอด 6 ชั่วโมง พบวัตถุต้องสงสัย 4 ชิ้น โดย 3 ชิ้นแรกเป็นท่อนไม้ แต่ชิ้นสุดท้ายในความลึกก้นอ่าง 15 เมตร เป็นถังน้ำมัน 200 ลิตร เมื่อนักประดาน้ำเก็บกู้ขึ้นมาพบข้างในมีเหล็กเส้น ท่อนไม้ และชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์ 2 ชิ้น

แม้หุ่นยนต์สำรวจใต้น้ำจะช่วยค้นหาวัตถุพยานได้ แต่สิ่งสำคัญคือ การระบุพิกัดของบริเวณที่จะค้นหา ซึ่งมาจากเบาะแส และการชี้เป้าของดีเอสไอที่มุ่งไปที่จุดใต้สะพานแขวน และขั้นตอนต่อไปหลังพบวัตถุพยานคือ การตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์

กระดูกศีรษะข้างซ้าย ที่มีรอยไหม้ และแตกร้าวที่พบในถังน้ำมัน ที่เก็บกู้มาจากใต้สะพานเขื่อนแก่งกระจาน ถูกส่งต่อมาที่กองสารพันธุกรรม สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรมทันที การตรวจพิสูจน์ไมโทคอนเดรียดีเอ็นเอ ซึ่งเป็นดีเอ็นเอที่ถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกเท่านั้น โดยผลพบดีเอ็นเอตรงกับแม่ของบิลลี่ จึงเชื่อว่าเป็นกระดูกของบิลลี่จริง

ผอ.กองสารพันธุกรรม ระบุว่า แม้กระดูกทั้ง 2 ชิ้น จะผ่านการเผาไหม้ในอุณหภูมิ 200-300 องศาเซลเซียส และทำให้ดีเอ็นเอแตกหัก แต่การตรวจพิสูจน์ในห้องปฏิบัติการสามารถทำได้ ซึ่งเป็นการตรวจแบบใหม่ที่เพิ่งมีมา 3 ปี โดยจะสกัดดีเอ็นเอออกจากกระดูก แล้วนำมาเทียบคล้ายต่อจิ๊กซอว์ เพื่อให้ยืนยันได้ว่าเป็นชิ้นส่วนของบุคคลนั้นจริง

มันจะต้องมีข้อมูลที่ตรงกันที่มาซ้อนทับกันอย่างน้อยระดับพัน หรือระดับหมื่น เพราะชิ้นส่วนของร่างกายมีเซลล์ส่วนประกอบเยอะมาก ชิ้นส่วนเพียงแค่เศษชิ้นเนื้อ หรือกระดูก 1×1 นิ้ว ก็อาจจะมีเซลล์ประกอบหลายแสนล้านเซลล์ ก็จะทำให้ดีเอ็นเอที่เรานำมาเป็นท่อนๆ แล้วนำมาประกอบ มันสามารถยืนยันได้จริง 

คดีอุ้มหายเป็นคดีที่หาพยานหลักฐานยากมากที่สุด บิลลี่หายตัวไป 5 ปี การใช้นวัตกรรมและวิทยาศาสตร์มาคลี่คลายคดี ทั้งหุ่นยนต์สำรวจใต้น้ำ และการตรวจพิสูจน์ไมโทคอนเดรียดีเอ็นเอ ทำให้ยืนยันได้ว่า บิลลี่ เสียชีวิตแล้ว และถูกนำมาเผาเพื่ออำพรางคดี โดยหลักฐานเหล่านี้จะช่วยตามหาผู้กระทำความผิด.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้