กรุงเทพฯ 4 ก.ย.- ตำรวจแจ้งข้อหาหนัก หญิงเจ้าของรถกระบะ ขับรถเฉี่ยวชนรถ จยย.ลูกจ้างกรมแพทย์ทหารบาดเจ็บสาหัส ก่อนหลบหนี เจ้าตัวยินดีชดใช้ค่าเสียหาย และไม่มีเจตนาหลบหนี
หลังมีการแชร์คลิป ววจรปิดและภาพนิ่งผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์รถกระบะเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์แล้วหลบหนี บนถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า ก่อนถึง สำนักงานเขตจตุจักร เมื่อกลางดึกวันที่ 14 สิงหาคม ที่ผ่านมา
ล่าสุดนาง ทิพย์สุคนธ์ แก้วบุญเป็ง เจ้าของรถกระบะ ทะเบียน 6กญ197 กรุงเทพมหานคร เข้าขอโทษ นางวรัชยา ชัยจินดา ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นลูกจ้าง กรมการแพทย์ทหารอากาศและได้รับบาดเจ็บจากการถูกนางทิพย์ขับเฉี่ยวชนก่อนขับรถหลบหนี โดยไม่หยุดให้การช่วยเหลือ ทำให้ นางวรัชยา บาดเจ็บสาหัส ตามใบหน้าและร่างกาย ซี่โครงหัก 30 ซี่ ไปทิ่มม้ามและมีเลือดออกในสมอง ม้ามแตก พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเปาโล ก่อนถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลภูมิพล รวมเวลาเกือบ 10 วัน
นางทิพย์สุคนธ์ ยอมรับผิดพร้อมยกมือไหว้และกล่าวขอโทษนางวรัชยา ยืนยันจะชดใช้ค่าเสียหายให้ทุกอย่าง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและไม่ได้ตั้งใจ แต่คนมองไม่เห็น ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถไปส่งลูกที่คลองเตย และเมื่อมาถึงจุดดังกล่าวได้ยินเสียงสะดุด แต่ก็ไม่เห็นสิ่งผิดปกติ จึงไม่ได้จอดรถหยุดดู กระทั่งลูกชายมาบอกหลังเกิดเหตุอีก3วัน มีคลิปปรากฎในโลกโซเชียล จึงได้ติดต่อมายังตำรวจ ยืนยัน ไม่รู้จริงๆ ว่าขับเฉี่ยวชน
ขณะที่ นางวรัชยา พร้อมยกโทษให้และขอให้ เพิ่มความระมัดระวังในการขับรถ จะได้ไม่ทำให้คนอื่นได้รับความเดือดร้อน เพราะอย่างกรณีของตนได้รับความเดือดร้อนทั้งครอบครัว และคนไข้เนื่องจากไม่สามารถนำอาหารไปส่งได้
ด้าน นาย ชัยพฤกษ์ ปัญญาสิทธิ์ สามีคนเจ็บ กล่าวว่า มีคนขับรถคันหนึ่งและเห็นเหตุการณ์ นำภาพขณะเกิดเหตุ มาส่งให้ จึงตัดสินใจโพสต์ลงโซเชียลเพื่อช่วยตามหาคนขับรถคู่กรณี ผ่านมา 3-4 วัน คู่กรณีจึงติดต่อมา แต่ยังไม่ได้คุย เพราะแฟนอาการยังไม่ดีขึ้น ต้องไปทำกายภาพ และเดินไม่สะดวกต้องใข้เครื่องช่วยพยุง หมดค่ารักษา ที่โรงพยาบาลเปาโลเกษตร 39,000 บาท โดยวันนี้จะนัดคู่กรณีมาตกลงค่าเสียหาย คือเงินที่ติดค้าง ค่ารักษ่าพยาบาล เงินซ่อมรถจักรยานยนต์
พ.ต.ท มานิตย์ จันทร์ประดิษฐ์ รองผู้กำกับสอบสวน สน.วิภาวดี เปิดเผยว่าตำรวจจะเป็นตัวกลางในการเจรจาระหว่างคู่กรณีทั้งสองฝ่ายทั้งในเรื่องค่าเสียหาย ค่ารักษาพยาบาล ขณะเดียวกันได้แจ้งข้อหา ขับรถประมาทเป็นเหตุให้ ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ทรัพย์สินเสียหาย และ ไม่หยุดให้การช่วยเหลือตามสมควร กับ นางทิพย์สุคนธ์ .-สำนักข่าวไทย
