กรุงเทพฯ 4 ก.ย.- นายกฯ เปิดการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ขออาเซียนจับมือกันผลักดันยุทธศาสตร์ด้านพลังงาน ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ให้มีพลังงานใช้ราคาถูกและมีประสิทธิภาพ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 37 ภายใต้แนวคิดหลัก “Advancing Energy Transition Through Partnership and Innovation ร่วมมือร่วมใจเพื่อพัฒนานวัตกรรมพลังงานอาเซียนในยุคเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานให้เข้าสู่ยุคพลังงานที่มีความยั่งยืน” โดยมีรัฐมนตรีพลังงานจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศคู่เจรจา รองเลขาธิการอาเซียน ผู้อำนวยการทบวงการพลังงานระหว่างประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศ เข้าร่วม
นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งว่า พลังงานเป็นปัจจัยสำคัญ และเป็นความท้าทายอย่างมาก ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ขณะเดียวกันอาเซียนต้องการพลังงานมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงคาดการณ์ว่าพลังงานทดแทนจะเป็นพลังงานหลักต่อไปในอนาคตอันใกล้ ดังนั้น การพัฒนาตลาดพลังงาน การลงทุนด้านพลังงาน และการพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงาน จึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งต่อการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้แก่ภูมิภาค
นายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่า พลังงานเพื่อทุกคน (Energy for All) จะช่วยสนับสนุนแผนงานและเป้าหมายของภาครัฐให้บรรลุเป้าหมาย และช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้ และเห็นว่า จำเป็นต้องลงทุนในเรื่องของเทคโนโลยีพลังงานที่ก้าวหน้า และสะอาด และขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จของโครงการซื้อขายไฟฟ้าข้ามพรมแดนในระดับพหุภาคีระหว่าง สปป.ลาว – ไทย – มาเลเซีย ภายใต้โครงการพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าอาเซียน และยืนยันจะขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานเข้าสู่อนาคตพลังงานสะอาดของภูมิภาค และยกระดับโครงข่ายพลังงานอัจฉริยะ เพื่อเชื่อมต่อระบบพลังงานในภูมิภาค ผ่านโครงข่ายอัจฉริยะความเร็วสูง เพื่อความมั่นคง ยั่งยืน
“การประชุมในวันนี้ จะได้ข้อสรุปที่เป็นยุทธศาสตร์ด้านพลังงานในอนาคต และร่วมกันเดินหน้าไปด้วยกันอย่างเข้มแข็ง เพราะประชาชนยังรอที่จะใช้พลังงานราคาถูก มีความมั่นคงและมีประสิทธิภาพ” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ มีภารกิจที่จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการปฎิบัติงานช่วยเหลือ ในพื้นที่ จ.พิษณุโลก และ จ.สุโขทัย ซึ่งผลกระทบนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงของโลก และมีผลต่อพลังงานในอนาคต โดยเฉพาะพลังงานน้ำ ซึ่งรัฐบาลพยายามแก้ปัญหาให้เกิดความยั่งยืน และดูแลอย่างเต็มที่โดยให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ประเทศมีปัญหาเศรษฐกิจ เชื่อว่า ทุกประเทศก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน ขอให้อาเซียนและประเทศหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ช่วยดูแลด้านเศรษฐกิจร่วมกัน และช่วยเพิ่มมูลค่าตามแนวชายแดนให้สูงขึ้น เพื่อลดผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลก . – สำนักข่าวไทย