อีสานอ่วมท่วมหนัก ร้อยเอ็ดยังน่าห่วง

ภูมิภาค 2 ก.ย. – ฤทธิ์พายุ “โพดุล” ส่งผลกระทบหลายพื้นที่ ทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมหลายแห่งในภาคอีสาน และที่เขตเทศบาลเมืองขอนแก่นฝนตกหนักกลางดึกที่ผ่านมา ท่วมถนนมิตรภาพ ส่วนที่ อ.บ้านไผ่ ระดับน้ำลดลงแล้ว แต่ที่ร้อยเอ็ด สถานการณ์ยังน่าห่วง 


สถานการณ์ที่ จ.ร้อยเอ็ด หลังจากพนังกั้น “ลำน้ำยัง” ถูกน้ำกัดเซาะขาดบริเวณบ้านท่าเยี่ยมและใกล้เคียง ใน ต.วังหลวง รวม 5 จุด ส่งผลให้น้ำไหลทะลักขยายวงกว้างเข้าท่วม 90 หมู่บ้าน  ประชาชนเดือดร้อนกว่า 44,000 คน พื้นที่การเกษตรเสียหายเกือบ 200,000 ไร่ 


ขณะที่ภาพรวมทั้งจังหวัดมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 3 อำเภอ คือ เสลภูมิ โพธิ์ชัย และเมยวดี รวมทั้งพื้นที่เขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ขณะนี้ระดับในลำน้ำยังสูงกว่าตลิ่งประมาณ 1.50 เมตร เจ้าหน้าที่สำนักชลประทานที่ 6 คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม ระดับน้ำจะเท่ากับตลิ่งในวันที่ 3 กันยายนนี้  


ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ขับเครื่องบินส่วนตัวลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ที่บ้านท่าเยี่ยม ต.วังหลวง จุดที่พนังกั้นลำน้ำยังขาด พร้อมกับบอกกับผู้ประสบภัยว่า มาด้วยความห่วงใยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และกำชับให้ใช้ชีวิตอยู่กับน้ำด้วยความระมัดระวัง โดยได้แจกเบอร์โทรส่วนตัวให้ผู้ประสบภัย นอกจากนี้ยังลงพื้นที่บ้านไค่นุ่น ต.นาแซง และเดินเท้าฝ่ากระแสน้ำกว่า 200 เมตร สอบถามสารทุกข์สุกดิบชาวบ้าน และตรวจดู รพ.สต.นาแซง ซึ่งถูกน้ำเข้าท่วม

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ล่าสุดระดับน้ำลดลงแล้ว เหลือเพียงน้ำที่ยังท่วมขังในที่ลุ่มต่ำ ส่วนถนนมิตรภาพ ช่วงสี่แยกบ้านไผ่-ชนบท ซึ่งถูกน้ำท่วมสูงเมื่อวานนี้ ลดระดับลงเข้าสู่ภาวะปกติ รถทุกชนิดสัญจรได้แล้ว

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่ขอนแก่น พบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 คน เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 ส.ค. และมีผู้เผยแพร่คลิปขณะชาวบ้านกำลังนำร่างของนายสราวุธ จันโทแพง อายุ 20 ปี ผู้เสียชีวิต ออกมาจากบ้านที่ถูกน้ำท่วมขังในชุมชนบ้านไผ่เก่าพัฒนา อ.บ้านไผ่ นายสราวุธถูกไฟช็อตขณะช่วยเพื่อนบ้านขนของหนีน้ำท่วม ก่อนถูกนำตัวส่ง รพ.โนนศิลา แต่เสียชีวิตที่โรงพยาบาล

ขณะที่เมื่อวานนี้ (1 ก.ย.) ญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตจัดสถานที่เพื่อประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลท่ามกลางความโศกเศร้า แต่ครอบครัวยังต้องรอให้ระดับน้ำลดทั้งหมด จึงจะติดต่อไปยังโรงพยาบาล เพื่อขอรับศพกลับมา ด้านแม่ผู้เสียชีวิตตั้งคำถามว่า ในระหว่างที่เกิดน้ำท่วม เหตุใดภาครัฐจึงไม่ตัดกระแสไฟฟ้า จนทำให้ลูกชายตนเองเสียชีวิต

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา เพจ Facebook “เครือข่ายเพื่อนเตือนภัยจังหวัดขอนแก่น” โพสต์คลิปจากสมาชิกเครือข่าย แจ้งเตือนว่าเกิดฝนตกหนักในเขตเทศบาลเมืองขอนแก่นเมื่อเวลา 00.39 น.ที่ผ่านมา และมีน้ำรอระบายบนถนนมิตรภาพ สูงประมาณ 10-20 เซนติเมตร นอกจากนี้ผู้โพสต์คลิปยังมีการบรรยายว่าเกิดฝนตกหนักมาร่วม 2 ชั่วโมง ไม่มีทีท่าจะหยุด

นอกจากนี้ในเพจ Facebook เดียวกันยังแจ้งเตือนว่า หลายอำเภอของจังหวัดต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักและลมแรงในบางพื้นที่ พร้อมระบุว่ามีน้ำท่วมขังในเขตเทศบาลนครขอนแก่นหลายจุด อาทิ สามแยกตลาดจอมพล รถเล็กควรหลีกเลี่ยง แยกโรงเรียนคุ้มหนองคู สามแยกมิตรภาพตัด ถ.กัลปพฤกษ์ (ทางเข้ากังสดาล) หน้าสนามกีฬากลาง ถ.เส้นบ้านกอก ริมบึงแก่นนครฝั่งวัดหนองแวง ถนนศรีจันทร์ หน้าหมู่บ้านพฤกษานารา รถเล็กผ่านไม่ได้ และแยกโรงพยาบาลกรุงเทพ กังสดาล อดุลยราม ซ.7 นอกจากนี้ เมื่อเวลา 01.27 น. ยังโพสต์ขอการสนับสนุนขนย้ายสิ่งของโรงเรียนการศึกษาคนตาบอดขอนแก่น หลังมีน้ำท่วมสูงภายในโรงเรียน 

ส่วนที่ จ.อำนาจเจริญ ปริมาณน้ำในลำเซบาย ซึ่งไหลผ่านหมู่บ้านนาหมอม้า ต.นาหมอม้า อ.เมืองอำนาจเจริญ เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้น้ำเอ่อล้นและไหลทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านทั้ง 2 แห่ง และจากเหตุน้ำท่วมใน จ.อำนาจเจริญครั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 คน เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายช่วยกันเข้าไปอพยพและขนย้ายสิ่งของขึ้นมาที่ศูนย์อพยพผู้ประสบภัยชั่วคราว รวมกว่า 500 คน พร้อมทั้งได้จัดเครื่องอุปโภคบริโภค ให้กับผู้ประสบภัยในครั้งนี้เป็นการชั่วคราวแล้ว เพื่อรอน้ำที่ท่วมสูงกว่า 2 เมตร ลดระดับลงเข้าสู่ภาวะปกติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมหลายแห่งในพื้นที่เริ่มทรงตัวแล้ว และมีแน้วโน้มที่จะลดลงอย่างต่อเนื่อง หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม มีเพียงหมู่บ้านดอนว่าน อ.หัวตะพาน และหมู่บ้านนาหมอม้า ที่ยังคงต้องเฝ้าจับตาสถานการณ์ 24 ชั่วโมง เนื่องจากมวลน้ำในลำเซบายที่ไหลมาจาก จ.ยโสธร ยังคงไหลมาสมทบอยู่เรื่อยๆ ทำให้ระดับน้ำในลำเซบายยังไม่คงที่ และมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดรายชื่อทหาร 3 นาย บาดเจ็บ เหยียบกับระเบิด

สุรินทร์ 27 ส.ค.-เปิดรายชื่อทหาร 3 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บ เหยียบกับระเบิด บริเวณเนิน 350 ใกล้ปราสาทตาควาย ขณะออกลาดตระเวน เมื่อวันที่ 27 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการที่ หน่วยทหารจาก พัน.ร.22 ได้จัดกำลังพลออกลาดตระเวนระหว่างฐานปฏิบัติการ บริเวณหน้าบังเกอร์ 11-12 ด้านทิศตะวันตกของปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ได้เหยียบกับระเบิดแสวงเครื่องชนิด PMN-2 ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1.พลทหาร อดิสร ป้อมกลาง สังกัดสนาม มว.3 ร้อย.ร.221 บาดเจ็บข้อเท้าขวาขาด ขณะนี้อยู่ระหว่างลำเลียงทางอากาศจาก รพ.พนมดงรัก ไปยัง รพ.สุรินทร์ พร้อมชุด Sky Doctor2.จ.ส.อ. ณัฐพงศ์ สีชิน สังกัดสนาม มว.3 ร้อย.ร.221 ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่แผ่นหลัง อาการบาดเจ็บเล็กน้อย ส่งกลับเข้ารับการรักษาที่ รพ.พนมดงรัก3.พลทหาร ธรรณ์ณธร เทากระโทก สังกัดสนาม มว.3 […]

มทภ.2 ประณามกัมพูชา หลังทหารไทยเหยียบกับระเบิด

กทม. 27 ส.ค.- มทภ.2 ประณามกัมพูชา ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง-อนุสัญญาออตตาวาไม่หยุด หลังทหารไทยเหยียบกับระเบิดข้อเท้าขาด 1 นาย ชี้ทุ่นระเบิดมีโครงสร้างพลาสติก เครื่องตรวจหาไม่เจอ เมื่อวันที่ 26 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวประณามกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและอนุสัญญาออตตาวา ต่อเนื่อง หลังวันนี้ เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว พล.ท.บุญสิน ระบุว่า เนิน 350 ปราสาทตาควาย เป็นพื้นที่ที่ทหารกัมพูชาวางกำลังหนาแน่น และมีทุ่นระเบิดรอบพื้นที่ โดยวันนี้ทหารไทยออกลาดตระเวน ซึ่งเครื่องตรวจวัตถุระเบิดตรวจหาไม่เจอ เนื่องจากทุ่นระเบิดดังกล่าวโครงสร้างเป็นพลาสติก คาดเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่ เบื้องต้นได้ทำหนังสือประท้วงไปทางฝ่ายกัมพูชาแล้ว และเตรียมกำหนดแผนทางการทหารต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

“อดีต ผอ.ขนมจีนน้ำปลา” นอนคุก 20 ปี 60 เดือน หลังศาลฎีกายกคำร้องลดโทษ

สุราษฎร์ธานี 27 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้องลดโทษ ปิดคดีอดีต ผอ.โรงเรียนบ้านท่าใหม่ จ.สุราษฎร์ธานี ปมให้เด็กอนุบาลกินขนมจีนราดน้ำปลา หลังสู้นาน 5 ปี สุดท้ายรับโทษจำคุก 20 ปี 60 เดือน นายสุชาติ กรวยกิตานนท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 8 เป็นประธานแถลงผลคดีที่กล่าวหาอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่าใหม่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ทุจริตเงินอุดหนุนค่าอาหารกลางวันนักเรียนของโรงเรียนบ้านท่าใหม่ ให้เด็กอนุบาลกินขนมจีนราดน้ำปลา และจัดทำเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการจัดซื้อวัสดุเครื่องบริโภคเพื่อประกอบอาหารกลางวันเป็นเท็จ ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2563 และได้ส่งไปให้อัยการสูงสุด ฟ้องผู้ถูกกล่าวหาต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 และมีคำพิพากษาให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิด รวม 77 กระทง จำคุก 192 ปี 6 เดือน เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว คงจำคุก 50 ปี ซึ่งอดีต ผอ.คนดังกล่าว ได้ยื่นอุทรณ์ขอลดโทษ ภายหลังศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาแก้เป็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน […]

ยังไม่พบผู้เสียหายและทำผิดกฎหมาย จากกรณีสแกนม่านตาแลกรับเงิน

ทำเนียบ 27 ส.ค.-รองโฆษกรัฐบาล เผยตรวจสอบล่าสุดยังไม่พบผู้เสียหายและทำผิดกฎหมาย จากกรณีสแกนม่านตาแลกรับเงิน เตือนประชาชนอย่าประมาท นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีที่ได้ระบุถึงจากข้อมูลของสภาองค์กรของผู้บริโภคที่มีการรายงานว่าพบการชักชวนให้ประชาชนสแกนม่านตาแลกรับเงิน 500-1,000 บาท ในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศไทย โดยอ้างถึงว่าจะไปแลกเหรียญคริปโต ซึ่งผู้ที่สแกนม่านตาจะได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินรายละ 1,000 บาท ภายใน 24 ชั่วโมง ขณะที่ผู้แนะนำสมาชิกจะได้รับเงิน 500 บาทต่อราย สูงสุดไม่เกิน 10 ราย ล่าสุดมีความคืบหน้าว่า สำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPC) ตรวจสอบของตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า การดำเนินงานของผู้ให้บริการในปัจจุบันถูกต้องตามกฎหมาย และคล้ายกับการดำเนินการในหลายประเทศ ในปัจจุบัน และได้มีการเตรียมประสานกระทรวงดีอีและหน่วยงานอื่นหามาตราการควบคุมข้อมูลอ่อนไหว และยังไม่พบผู้เสียหายหรือกระทำผิดกฎหมาย ทั้งนี้หากพบการละเมิดหรือนำข้อมูลไปใช้ในทางมิชอบ จะดำเนินคดีทันที นายอนุกูล กล่าวว่า เพื่อสร้างความตระหนักรู้เท่าทันต่อความสำคัญของความปลอดภัยที่เหมาะสม รัฐบาลขอย้ำว่า ข้อมูลส่วนบุคคลทางชีวภาพ ถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลขั้นสูงสุด การยินยอมให้เก็บ หรือสแกนจึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงความเสี่ยง ดังนี้ 1. การรั่วไหลของข้อมูล หากข้อมูลรหัส Iris Code […]

ข่าวแนะนำ

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย