ภูมิภาค 2 ก.ย. – ฤทธิ์พายุ “โพดุล” ส่งผลกระทบหลายพื้นที่ ทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมหลายแห่งในภาคอีสาน และที่เขตเทศบาลเมืองขอนแก่นฝนตกหนักกลางดึกที่ผ่านมา ท่วมถนนมิตรภาพ ส่วนที่ อ.บ้านไผ่ ระดับน้ำลดลงแล้ว แต่ที่ร้อยเอ็ด สถานการณ์ยังน่าห่วง
สถานการณ์ที่ จ.ร้อยเอ็ด หลังจากพนังกั้น “ลำน้ำยัง” ถูกน้ำกัดเซาะขาดบริเวณบ้านท่าเยี่ยมและใกล้เคียง ใน ต.วังหลวง รวม 5 จุด ส่งผลให้น้ำไหลทะลักขยายวงกว้างเข้าท่วม 90 หมู่บ้าน ประชาชนเดือดร้อนกว่า 44,000 คน พื้นที่การเกษตรเสียหายเกือบ 200,000 ไร่
ขณะที่ภาพรวมทั้งจังหวัดมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 3 อำเภอ คือ เสลภูมิ โพธิ์ชัย และเมยวดี รวมทั้งพื้นที่เขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ขณะนี้ระดับในลำน้ำยังสูงกว่าตลิ่งประมาณ 1.50 เมตร เจ้าหน้าที่สำนักชลประทานที่ 6 คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม ระดับน้ำจะเท่ากับตลิ่งในวันที่ 3 กันยายนนี้
ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ขับเครื่องบินส่วนตัวลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ที่บ้านท่าเยี่ยม ต.วังหลวง จุดที่พนังกั้นลำน้ำยังขาด พร้อมกับบอกกับผู้ประสบภัยว่า มาด้วยความห่วงใยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และกำชับให้ใช้ชีวิตอยู่กับน้ำด้วยความระมัดระวัง โดยได้แจกเบอร์โทรส่วนตัวให้ผู้ประสบภัย นอกจากนี้ยังลงพื้นที่บ้านไค่นุ่น ต.นาแซง และเดินเท้าฝ่ากระแสน้ำกว่า 200 เมตร สอบถามสารทุกข์สุกดิบชาวบ้าน และตรวจดู รพ.สต.นาแซง ซึ่งถูกน้ำเข้าท่วม
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ล่าสุดระดับน้ำลดลงแล้ว เหลือเพียงน้ำที่ยังท่วมขังในที่ลุ่มต่ำ ส่วนถนนมิตรภาพ ช่วงสี่แยกบ้านไผ่-ชนบท ซึ่งถูกน้ำท่วมสูงเมื่อวานนี้ ลดระดับลงเข้าสู่ภาวะปกติ รถทุกชนิดสัญจรได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่ขอนแก่น พบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 คน เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 ส.ค. และมีผู้เผยแพร่คลิปขณะชาวบ้านกำลังนำร่างของนายสราวุธ จันโทแพง อายุ 20 ปี ผู้เสียชีวิต ออกมาจากบ้านที่ถูกน้ำท่วมขังในชุมชนบ้านไผ่เก่าพัฒนา อ.บ้านไผ่ นายสราวุธถูกไฟช็อตขณะช่วยเพื่อนบ้านขนของหนีน้ำท่วม ก่อนถูกนำตัวส่ง รพ.โนนศิลา แต่เสียชีวิตที่โรงพยาบาล
ขณะที่เมื่อวานนี้ (1 ก.ย.) ญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตจัดสถานที่เพื่อประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลท่ามกลางความโศกเศร้า แต่ครอบครัวยังต้องรอให้ระดับน้ำลดทั้งหมด จึงจะติดต่อไปยังโรงพยาบาล เพื่อขอรับศพกลับมา ด้านแม่ผู้เสียชีวิตตั้งคำถามว่า ในระหว่างที่เกิดน้ำท่วม เหตุใดภาครัฐจึงไม่ตัดกระแสไฟฟ้า จนทำให้ลูกชายตนเองเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา เพจ Facebook “เครือข่ายเพื่อนเตือนภัยจังหวัดขอนแก่น” โพสต์คลิปจากสมาชิกเครือข่าย แจ้งเตือนว่าเกิดฝนตกหนักในเขตเทศบาลเมืองขอนแก่นเมื่อเวลา 00.39 น.ที่ผ่านมา และมีน้ำรอระบายบนถนนมิตรภาพ สูงประมาณ 10-20 เซนติเมตร นอกจากนี้ผู้โพสต์คลิปยังมีการบรรยายว่าเกิดฝนตกหนักมาร่วม 2 ชั่วโมง ไม่มีทีท่าจะหยุด
นอกจากนี้ในเพจ Facebook เดียวกันยังแจ้งเตือนว่า หลายอำเภอของจังหวัดต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักและลมแรงในบางพื้นที่ พร้อมระบุว่ามีน้ำท่วมขังในเขตเทศบาลนครขอนแก่นหลายจุด อาทิ สามแยกตลาดจอมพล รถเล็กควรหลีกเลี่ยง แยกโรงเรียนคุ้มหนองคู สามแยกมิตรภาพตัด ถ.กัลปพฤกษ์ (ทางเข้ากังสดาล) หน้าสนามกีฬากลาง ถ.เส้นบ้านกอก ริมบึงแก่นนครฝั่งวัดหนองแวง ถนนศรีจันทร์ หน้าหมู่บ้านพฤกษานารา รถเล็กผ่านไม่ได้ และแยกโรงพยาบาลกรุงเทพ กังสดาล อดุลยราม ซ.7 นอกจากนี้ เมื่อเวลา 01.27 น. ยังโพสต์ขอการสนับสนุนขนย้ายสิ่งของโรงเรียนการศึกษาคนตาบอดขอนแก่น หลังมีน้ำท่วมสูงภายในโรงเรียน
ส่วนที่ จ.อำนาจเจริญ ปริมาณน้ำในลำเซบาย ซึ่งไหลผ่านหมู่บ้านนาหมอม้า ต.นาหมอม้า อ.เมืองอำนาจเจริญ เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้น้ำเอ่อล้นและไหลทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านทั้ง 2 แห่ง และจากเหตุน้ำท่วมใน จ.อำนาจเจริญครั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 คน เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายช่วยกันเข้าไปอพยพและขนย้ายสิ่งของขึ้นมาที่ศูนย์อพยพผู้ประสบภัยชั่วคราว รวมกว่า 500 คน พร้อมทั้งได้จัดเครื่องอุปโภคบริโภค ให้กับผู้ประสบภัยในครั้งนี้เป็นการชั่วคราวแล้ว เพื่อรอน้ำที่ท่วมสูงกว่า 2 เมตร ลดระดับลงเข้าสู่ภาวะปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมหลายแห่งในพื้นที่เริ่มทรงตัวแล้ว และมีแน้วโน้มที่จะลดลงอย่างต่อเนื่อง หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม มีเพียงหมู่บ้านดอนว่าน อ.หัวตะพาน และหมู่บ้านนาหมอม้า ที่ยังคงต้องเฝ้าจับตาสถานการณ์ 24 ชั่วโมง เนื่องจากมวลน้ำในลำเซบายที่ไหลมาจาก จ.ยโสธร ยังคงไหลมาสมทบอยู่เรื่อยๆ ทำให้ระดับน้ำในลำเซบายยังไม่คงที่ และมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น. – สำนักข่าวไทย