อิทธิพลพายุ “โพดุล” ฝนถล่มอีสาน-เหนืออ่วม

อีสาน-เหนือ 31 ส.ค.- อิทธิพลพายุ “โพดุล” อุบลฯ น้ำท่วมหนักสุดในรอบ 10 ปี ตายแล้ว 1 ที่บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น น้ำท่วมสูง ชาวบ้านหนีขึ้นหลังคารอความช่วยเหลือ ส่วนอำนาจเจริญระทึกน้ำล้นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ไหลทะลักท่วมบ้านเรือน


พายุโพดุลถล่มร้อยเอ็ดหนักสุด

ร้อยเอ็ดฝนเริ่มเทกระหน่ำตั้งแต่ช่วงตี 3 เมื่อวานนี้และตกต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังสูงครอบคลุมในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ดเกือบทั้งหมด อยู่ในสภาพเป็นอัมพาตทั้งเมือง เช่นเดียวกับอำเภอโพนทอง น้ำได้ทะลักเข้าท่วมโรงเรียนอนุบาลโพนทองที่มีนักเรียนกว่า 1,000 คน ต้องให้ผู้ปกครองทยอยไปรับบุตรหลานกลับบ้านตั้งแต่เที่ยง และสามารถอพยพนักเรียนกลับบ้านได้อย่างปลอดภัยในช่วงเย็น


นายสมพงษ์ ศิริบาล ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาร้อยเอ็ด กล่าวว่า ฝนตกหนักและลมแรงมาตั้งแต่เย็นวานนี้ วัดปริมาณน้ำฝนได้ 168 มิลลิเมตร โดยคาดว่าจังหวัดร้อยเอ็ดจะมีฝนตกต่อเนื่องไปถึงวันที่ 1 กันยายน 2562 จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังลมกรรโชกแรง ขับรถระวังอุบัติเหตุจากถนนลื่นส่วนประชาชนริมฝั่งแม่น้ำชีและแม่น้ำยังระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำไหลหลาก

กั้นกระสอบทรายป้องกันน้ำท่วมเรือนจำร้อยเอ็ด

และฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง และไม่มีทางระบายน้ำ เอ่อท่วมบริเวณเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด เต็มพื้นที่ เส้นทางเรือนจำ ได้นำผู้ต้องขังออกมาแก้ไขปัญหา ด้วยการนำรถบรรทุกทรายมาจอดอยู่กลางน้ำที่ท่วมอยู่หน้าเรือนจำ แล้วใช้ผู้ต้องขังชาย มาช่วยบรรจุกระสอบทราย นำไปกั้นแนวประตูทางเข้าเรือนจำ พร้อมกับ เร่งใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ สูบน้ำออกจากเรือนจำ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้ต้องขังภายในเรือนจำกว่า 300 คน และมีการแก้ไขปัญหาภายในเรือนจำ ด้วยการย้ายผู้ต้องขังชายขึ้นไปบนเรือนนอนชั้น 2 เพื่อหนีน้ำเป็นการชั่วคราว โดยแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่เรือนจำ กล่าวว่า นอกเหนือจากการย้ายผู้ต้องขังชายขึ้นไปบนเรือนนอนทั้งหมดเพื่อหนีน้ำ ซึ่งพื้นที่อาจจะไม่เพียงพอก็จะมีการลำเลียงย้ายผู้ต้องขังหญิงออกไปในจุดอื่นที่ปลอดภัย


อุบลฯ โดนพายุถูกน้ำท่วมหนักสุดในรอบ 10 ปี ตายแล้ว 1 

นายชอบ กาญจนสาร อายุ 66 ปี เกษตรกรบ้านกุดข้าวปุ้น อำเภอกุดข้าวปุ้น จังหวัดอุบลราชธานี ขนย้ายแม่พันธุ์หมูพร้อมลูกเล็กกว่า 10 ตัวมาไว้หน้าบ้านเพื่อหนีน้ำท่วมจากห้วยตาเทียว อย่างเร่งด่วนหลังจากน้ำในลำห้วยทะลักท่วมเล้าหมูด้านหลังบ้านอย่างรวดเร็ว 

นายชอบ เล่าว่าน้ำปีนี้มาเร็ว และแรงกว่าทุกปีขนย้ายหมูเกือบไม่ทัน มีลูกหมูบางตัวโดนน้ำพัดออกไป แต่โชคดีที่ตนว่ายน้ำออกไปเอากลับเข้ามาได้ทัน ส่วนที่เหลือต้องใช้วิธีการอุ้มลูกมาล่อแม่ให้เดินตามขึ้นมายังที่สูงและหน้าบ้านบางตัวต้องเลี้ยงบนรถไปก่อน เพราะไม่มีพื้นที่ ส่วนความเสียหายตอนนี้จะอยู่ที่เครื่องสูบน้ำ อุปกรณ์การเลี้ยงหมูบางส่วนที่ลอยไปกับน้ำ

ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วมในอำเภอกุดข้าวปุ้นแล้ว 1 ราย ตรวจสอบทราบชื่อ นายสมร สู่ขวัญ อายุ 67 ปี ราษฎร บ.โนนหอม ตำบลข้าวปุ้น เหตุเกิดขณะออกไปหาแมลง ขณะฝนตกทำให้ถูกน้ำพัดสูญหายหลังจากการค้นหาพบร่างนายสมรติดอยู่ก่อไผ่ใกล้จุดเกิดเหตุ

บ้านไผ่น้ำท่วมสูง ชาวบ้านหนีขึ้นหลังคารอความช่วยเหลือ

ที่ขอนแก่น น้ำจากลำห้วยจิกได้ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนเมื่อเวลา 04.00น.ที่ผ่านมา ทำให้บ้านเรือนกว่า 100 หลังคาเรือน ถูกน้ำท่วมสูง รวมทั้งบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ใกล้ลำห้วยจิก น้ำได้ล้นท่วมถนนสูงกว่า 1.5 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องปิดถนน เนื่องจากน้ำที่ท่วมสูง และน้ำพัดแรง นอกจากนี้ ยังพบว่ายังมีประชาชนอยู่หลายคนยังคงหนีออกมาไม่ได้ต้องขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้าน รอความช่วยเหลือ ซึ่งการช่วยเหลือทำได้ด้วยความลำบาก เพราะเรือที่ใช้เป็นเรือท้องแบนของเทศบาลเมืองบ้านไผ่ แต่ไม่มีเครื่องยนต์ ไม่สามารถต้านกระแสน้ำเข้าไปช่วยเหลือได้ ขณะนี้ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดขอนแก่น ได้ส่งเรือท้องแบนจำนวน 5 ลำ เพื่อมาช่วยเหลือแล้ว

นายรุจน์ รังษี นายอำเภอบ้านไผ่ กล่าวว่า หลังจากที่เกิดน้ำท่วมเมื่อเช้าตรู่ที่ผ่านมา ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานเข้าให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนทันที แต่เนื่องจากน้ำที่มีปริมาณมาก เพราะก่อนหน้านี้อำเภอบ้านไผ่ ได้มีฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุโพดุล ทำให้น้ำจากอำเภอโนนศิลา อำเภอหนองสองห้อง ซึ่งเป็นต้นน้ำของลำห้วยจิก ได้ไหลมาปริมาณมากจนทำให้เกิดน้ำท่วมหนักในครั้งนี้ เบื้องต้นได้ประสานไปยังหน่วยงานต่างๆ เพื่อเข้าช่วยเหลือแล้ว พร้อมให้กิ่งกาชาดและจิติอาสาอำเภอบ้านไผ่ ได้ทำข้าวกล่องจำนวน 1 พันกล่อง มาแจกให้กับประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อน

น้ำล้นอ่างเก็บน้ำทะลักท่วมบ้านเรือนกลางดึกกว่า 100 หลัง

จากอิทธิพลของพายุโพดุล ทำให้เกิดฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาจนถึงเย็นวันนี้ ทำให้อ่างเก็บพุทธอุทยาน ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำหลักขนาดใหญ่ มีปริมาณน้ำเกินกว่าความจุของอ่างเก็บน้ำ ทำให้น้ำไหลล้นสปิลเวย์ ทำให้น้ำที่ไหลล้นอ่างเก็บน้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน ชุมชุนศรีสำราญเขตเทศบาลเมืองอำนาจเจริญ กว่า 100 หลังคา ที่อยู่ใต้อ่างเก็บน้ำดังกล่าว ประชาชนต้องอพยพและขนทรัพย์สินออกจากบ้านเรือนมาอยู่ในพื้นที่สูง

ขณะที่นางสุจริต มีทองแสน ชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตรทั้งหลัง เผยว่า ตนไม่คิดว่าน้ำที่ไหลล้นอ่างเก็บมากขนาดนี้ ทุกครั้งน้ำระบายออกมาจะล้นอ่างเก็บน้ำไม่มากเหมือนครั้งนี้ เพราะคิดว่าฝนหยุดตกแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่าอ่างเก็บน้ำระบายน้ำไม่ทัน จึงทำให้น้ำไหลมารวมกันอย่างรวดเร็วและไหลเข้าท่วมบ้านเพียงแค่ไม่กี่อึดใจ ชาวบ้านต้องพากันหากระสอบทรายมากั้นน้ำกันเอาเอง บ้านเรือนบางหลังที่ขนข้าวของหนีทันก็โชคดีไป แต่บ้านของตนอยู่ใกล้กับอ่างเก็บน้ำมาก ทำให้ไม่สามารถเก็บข้าวของได้ทัน ทำได้แค่เพียงขนข้าวของบางส่วนขึ้นไปบนบ้านชั้น 2 เท่านั้น

ส่วนบ้านหนองสามสี บ้านไร่สีสุก บ้านนาไร่ใหญ่ อ.เสนางคนิคม บ้านกุดน้ำกิน,บ้านนาวัง, บ้านโคกสูง อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ บ้านห้วยทม อ.ชานุมาน บ้านดอนหว่าน อ.หัวตะพาน ซึ่งขณะนี้ยังคงจมอยู่ใต้บาดาล ชาวบ้านได้พากันอพยพไปอยู่ที่สูงแล้วในขณะนี้

ฤทธิ์โพดุลทำน้ำทะลักท่วมหลายชุมชนกาฬิสนธุ์

สถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ยังไม่คลี่คลายผลพวงจากพายโพดุล ระดับน้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงปริมาณน้ำที่เกินการกักเก็บของอ่างเก็บน้ำห้วยสีทนที่ยังเพิ่มระดับสูงขึ้นตลอดทั้งคืน ทั้งนี้ มวลน้ำก้อนแรก 2 ล้าน ลบ.ม. เอ่อล้นเข้าท่วมชุมชนติดกับสวนสาธารณะแก่งดอนกลางมีผู้ได้รับผลกระทบไม่น้อยกว่า 300 ครัวเรือน โดยชาวบ้านได้เร่งอพยพสิ่งของมีค่าออกจากบ้านไปไว้ที่วัดหอไตร ซึ่งเป็นจุดอำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์

ทั้งนี้ มวลน้ำได้เอ่อล้นแผ่ขยายวงกว้างจากเดิมที่ส่งผลให้ 4 ชุมชนมีท่วมบ้านเรือน เช้านี้ขายวงกว้างเป็น 10 ชุมชน ที่ประกอบด้วย ชุมชนริมแก่งดอนกลาง  ชุมชนดอนกลอย ชุมชนหัวโนนโก ชุมชนคุ้มห้วย ชุมชนทุ่งสระ หมู่บ้านมั่นคง  บ้านมั่นคงเมืองใหม่ ชุมชนวัดสว่างคงคา ชุมชนดอนสวรรค์ ชุมชนซอยน้ำทิพย์และชุมชนท่าสินค้า โดยได้ระดมเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย  เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ออกบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนอย่างเร่งด่วน

อย่างไรก็ตาม ทางเทศบาลได้ทำการปิดถนนอนรรฆนาคแล้ว เนื่องจากมีน้ำไหลล้นเอ่อเข้าท่วมถนน พร้อมตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่วัดหอไตรปฏิการาม 

วังโป่ง เพชรบูรณ์น้ำท่วมหนักสุดในรอบ 30 ปี 

จังหวัดเพชรบูรณ์ได้รับอิทธิพลจากพายุโพดุล ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักสะสม ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงเย็น ล่าสุดพบว่าได้เกิดน้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ไหลหลากลงมาสมทบกับมวลน้ำในคลองซับเปิบ จนเอ่อล้นไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ 3 ตำบล ของอำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ ประกอบด้วย ตำบลวังหิน ตำบลซับเปิบ และตำบลท้ายดง โดยเฉพาะตำบลวังหิน พบว่าหนักที่สุด ถูกมวลน้ำสีแดงขุ่นไหลเชี่ยวกรากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร และพื้นที่การเกษตรเป็นบริเวณกว้าง รวมทั้งถนนสายหลัก ถนนภายในหมู่บ้าน ถูกน้ำท่วมสูง ราว 30-40 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ รถใหญ่ต้องใช้ความระมัดระวัง บางจุดภายในซอยที่ลุ่มต่ำ ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1.20 เมตร ข้าวของเครื่องใช้บางส่วนถูกน้ำท่วมเสียหาย เนื่องจากชาวบ้านไม่สามารถขนย้ายได้ทัน เพราะน้ำป่ามาเร็ว และไหลเชี่ยวกรากมาก

ล่าสุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กู้ภัยวังโป่งรวมใจ ได้เร่งออกสำรวจ พร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบเบื้องต้น อีกทั้งได้นำอุปกรณ์ส่องสว่าง ออกติดตั้งตามจุดเสี่ยง เพื่ออำนวยความสะดวก พร้อมทั้งแจ้งเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์น้ำป่าอย่างใกล้ชิด เนื่องจากในพื้นที่ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง

น้ำท่วมสูงเร่งอพยพชาวเนินมะปรางออกจากพื้นที่เสี่ยง

อิทธิพลพายุ “โพดุล” ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง หลากลงสู่ลุ่มน้ำชมพูท่วมในพื้นที่ ต.บ้านมุง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก และตลอดทั้งวันได้เกิดฝนตกหนัก ทำให้คลองชมพูปริมาณน้ำสูงกว่า 7 เมตร ทำให้กว่า 4 ตำบล ใน อ.เนินมะปราง ถูกน้ำท่วมขังและน้ำป่าไหลหลากเฉียบพลัน ทำให้บ้านเรือนเสียหายจำนวนมาก

นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้นำเรือและอุปกรณ์ในการช่วยเหลือและเร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงที่ถูกน้ำท่วมฉับพลัน โดยเฉพาะในหมู่ที่ 1 บ้านมุงเหนือ หมู่ที่ 4 บ้านลำภาศ หมู่ที่ 7 บ้านเนินสว่าง น้ำท่วมถนนสายลำภาศ-วังยาง ระดับน้ำสูง 50 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ และในตำบลวังยาง มีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำป่าหลากท่วม ได้แก่ หมู่ที่ 1 บ้านคลองตะเคียน หมู่ที่ 2 บ้านไทรดงยั้ง หมู่ที่ 3 บ้านวังดินเหนียว หมู่ที่ 6 บ้านวังยางเหนือ หมู่ที่ 7 บ้านวังยางใต้ ขณะที่ถนนสายไทรดงยั้ง-วังโป่ง ระดับน้ำสูง 50 เซนติเมตร รถเล็กสัญจรผ่านไม่ได้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ต้องลุยน้ำนำสิ่งของไปช่วยเหลือชาวบ้านเป็นการเบื้องต้น 

นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานว่ามีประชาชนที่ขับรถอยู่ก็ถูกน้ำป่าไหลหลากจนรถตกคูน้ำจนได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่กู้ภัยรีบน้ำส่งโรงพยาบาลอีก 4 ราย อีกทั้งในพื้นที่ลุ่มต่ำมีประชาชนที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง เจ้าหน้าที่ลำเลียงมาอยู่บนพื้นที่สูง เพื่อความปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ลอบวางระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่งเมืองปัตตานี

ปัตตานี 8 มิ.ย. – คนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.68 เวลา 20.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก โดยจุดแรก วางระเบิดในถังขยะ หน้าร้านทอง บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และจุดที่ 2 วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรม หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต การก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลข่าวสารที่หน่วย ส.จว.ปัตตานี ได้ออกข่าวแจ้งเตือนไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 15.00 น. ปรากฏข่าวสารว่า นายมะกอเซ็ง หม้าแอ สมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ และสมาชิกจำนวน […]

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้