อิทธิพลพายุ “โพดุล” ฝนถล่มอีสาน-เหนืออ่วม

อีสาน-เหนือ 31 ส.ค.- อิทธิพลพายุ “โพดุล” อุบลฯ น้ำท่วมหนักสุดในรอบ 10 ปี ตายแล้ว 1 ที่บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น น้ำท่วมสูง ชาวบ้านหนีขึ้นหลังคารอความช่วยเหลือ ส่วนอำนาจเจริญระทึกน้ำล้นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ไหลทะลักท่วมบ้านเรือน


พายุโพดุลถล่มร้อยเอ็ดหนักสุด

ร้อยเอ็ดฝนเริ่มเทกระหน่ำตั้งแต่ช่วงตี 3 เมื่อวานนี้และตกต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังสูงครอบคลุมในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ดเกือบทั้งหมด อยู่ในสภาพเป็นอัมพาตทั้งเมือง เช่นเดียวกับอำเภอโพนทอง น้ำได้ทะลักเข้าท่วมโรงเรียนอนุบาลโพนทองที่มีนักเรียนกว่า 1,000 คน ต้องให้ผู้ปกครองทยอยไปรับบุตรหลานกลับบ้านตั้งแต่เที่ยง และสามารถอพยพนักเรียนกลับบ้านได้อย่างปลอดภัยในช่วงเย็น


นายสมพงษ์ ศิริบาล ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาร้อยเอ็ด กล่าวว่า ฝนตกหนักและลมแรงมาตั้งแต่เย็นวานนี้ วัดปริมาณน้ำฝนได้ 168 มิลลิเมตร โดยคาดว่าจังหวัดร้อยเอ็ดจะมีฝนตกต่อเนื่องไปถึงวันที่ 1 กันยายน 2562 จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังลมกรรโชกแรง ขับรถระวังอุบัติเหตุจากถนนลื่นส่วนประชาชนริมฝั่งแม่น้ำชีและแม่น้ำยังระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำไหลหลาก

กั้นกระสอบทรายป้องกันน้ำท่วมเรือนจำร้อยเอ็ด

และฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง และไม่มีทางระบายน้ำ เอ่อท่วมบริเวณเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด เต็มพื้นที่ เส้นทางเรือนจำ ได้นำผู้ต้องขังออกมาแก้ไขปัญหา ด้วยการนำรถบรรทุกทรายมาจอดอยู่กลางน้ำที่ท่วมอยู่หน้าเรือนจำ แล้วใช้ผู้ต้องขังชาย มาช่วยบรรจุกระสอบทราย นำไปกั้นแนวประตูทางเข้าเรือนจำ พร้อมกับ เร่งใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ สูบน้ำออกจากเรือนจำ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้ต้องขังภายในเรือนจำกว่า 300 คน และมีการแก้ไขปัญหาภายในเรือนจำ ด้วยการย้ายผู้ต้องขังชายขึ้นไปบนเรือนนอนชั้น 2 เพื่อหนีน้ำเป็นการชั่วคราว โดยแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่เรือนจำ กล่าวว่า นอกเหนือจากการย้ายผู้ต้องขังชายขึ้นไปบนเรือนนอนทั้งหมดเพื่อหนีน้ำ ซึ่งพื้นที่อาจจะไม่เพียงพอก็จะมีการลำเลียงย้ายผู้ต้องขังหญิงออกไปในจุดอื่นที่ปลอดภัย


อุบลฯ โดนพายุถูกน้ำท่วมหนักสุดในรอบ 10 ปี ตายแล้ว 1 

นายชอบ กาญจนสาร อายุ 66 ปี เกษตรกรบ้านกุดข้าวปุ้น อำเภอกุดข้าวปุ้น จังหวัดอุบลราชธานี ขนย้ายแม่พันธุ์หมูพร้อมลูกเล็กกว่า 10 ตัวมาไว้หน้าบ้านเพื่อหนีน้ำท่วมจากห้วยตาเทียว อย่างเร่งด่วนหลังจากน้ำในลำห้วยทะลักท่วมเล้าหมูด้านหลังบ้านอย่างรวดเร็ว 

นายชอบ เล่าว่าน้ำปีนี้มาเร็ว และแรงกว่าทุกปีขนย้ายหมูเกือบไม่ทัน มีลูกหมูบางตัวโดนน้ำพัดออกไป แต่โชคดีที่ตนว่ายน้ำออกไปเอากลับเข้ามาได้ทัน ส่วนที่เหลือต้องใช้วิธีการอุ้มลูกมาล่อแม่ให้เดินตามขึ้นมายังที่สูงและหน้าบ้านบางตัวต้องเลี้ยงบนรถไปก่อน เพราะไม่มีพื้นที่ ส่วนความเสียหายตอนนี้จะอยู่ที่เครื่องสูบน้ำ อุปกรณ์การเลี้ยงหมูบางส่วนที่ลอยไปกับน้ำ

ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วมในอำเภอกุดข้าวปุ้นแล้ว 1 ราย ตรวจสอบทราบชื่อ นายสมร สู่ขวัญ อายุ 67 ปี ราษฎร บ.โนนหอม ตำบลข้าวปุ้น เหตุเกิดขณะออกไปหาแมลง ขณะฝนตกทำให้ถูกน้ำพัดสูญหายหลังจากการค้นหาพบร่างนายสมรติดอยู่ก่อไผ่ใกล้จุดเกิดเหตุ

บ้านไผ่น้ำท่วมสูง ชาวบ้านหนีขึ้นหลังคารอความช่วยเหลือ

ที่ขอนแก่น น้ำจากลำห้วยจิกได้ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนเมื่อเวลา 04.00น.ที่ผ่านมา ทำให้บ้านเรือนกว่า 100 หลังคาเรือน ถูกน้ำท่วมสูง รวมทั้งบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ใกล้ลำห้วยจิก น้ำได้ล้นท่วมถนนสูงกว่า 1.5 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องปิดถนน เนื่องจากน้ำที่ท่วมสูง และน้ำพัดแรง นอกจากนี้ ยังพบว่ายังมีประชาชนอยู่หลายคนยังคงหนีออกมาไม่ได้ต้องขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้าน รอความช่วยเหลือ ซึ่งการช่วยเหลือทำได้ด้วยความลำบาก เพราะเรือที่ใช้เป็นเรือท้องแบนของเทศบาลเมืองบ้านไผ่ แต่ไม่มีเครื่องยนต์ ไม่สามารถต้านกระแสน้ำเข้าไปช่วยเหลือได้ ขณะนี้ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดขอนแก่น ได้ส่งเรือท้องแบนจำนวน 5 ลำ เพื่อมาช่วยเหลือแล้ว

นายรุจน์ รังษี นายอำเภอบ้านไผ่ กล่าวว่า หลังจากที่เกิดน้ำท่วมเมื่อเช้าตรู่ที่ผ่านมา ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานเข้าให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนทันที แต่เนื่องจากน้ำที่มีปริมาณมาก เพราะก่อนหน้านี้อำเภอบ้านไผ่ ได้มีฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุโพดุล ทำให้น้ำจากอำเภอโนนศิลา อำเภอหนองสองห้อง ซึ่งเป็นต้นน้ำของลำห้วยจิก ได้ไหลมาปริมาณมากจนทำให้เกิดน้ำท่วมหนักในครั้งนี้ เบื้องต้นได้ประสานไปยังหน่วยงานต่างๆ เพื่อเข้าช่วยเหลือแล้ว พร้อมให้กิ่งกาชาดและจิติอาสาอำเภอบ้านไผ่ ได้ทำข้าวกล่องจำนวน 1 พันกล่อง มาแจกให้กับประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อน

น้ำล้นอ่างเก็บน้ำทะลักท่วมบ้านเรือนกลางดึกกว่า 100 หลัง

จากอิทธิพลของพายุโพดุล ทำให้เกิดฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาจนถึงเย็นวันนี้ ทำให้อ่างเก็บพุทธอุทยาน ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำหลักขนาดใหญ่ มีปริมาณน้ำเกินกว่าความจุของอ่างเก็บน้ำ ทำให้น้ำไหลล้นสปิลเวย์ ทำให้น้ำที่ไหลล้นอ่างเก็บน้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน ชุมชุนศรีสำราญเขตเทศบาลเมืองอำนาจเจริญ กว่า 100 หลังคา ที่อยู่ใต้อ่างเก็บน้ำดังกล่าว ประชาชนต้องอพยพและขนทรัพย์สินออกจากบ้านเรือนมาอยู่ในพื้นที่สูง

ขณะที่นางสุจริต มีทองแสน ชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตรทั้งหลัง เผยว่า ตนไม่คิดว่าน้ำที่ไหลล้นอ่างเก็บมากขนาดนี้ ทุกครั้งน้ำระบายออกมาจะล้นอ่างเก็บน้ำไม่มากเหมือนครั้งนี้ เพราะคิดว่าฝนหยุดตกแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่าอ่างเก็บน้ำระบายน้ำไม่ทัน จึงทำให้น้ำไหลมารวมกันอย่างรวดเร็วและไหลเข้าท่วมบ้านเพียงแค่ไม่กี่อึดใจ ชาวบ้านต้องพากันหากระสอบทรายมากั้นน้ำกันเอาเอง บ้านเรือนบางหลังที่ขนข้าวของหนีทันก็โชคดีไป แต่บ้านของตนอยู่ใกล้กับอ่างเก็บน้ำมาก ทำให้ไม่สามารถเก็บข้าวของได้ทัน ทำได้แค่เพียงขนข้าวของบางส่วนขึ้นไปบนบ้านชั้น 2 เท่านั้น

ส่วนบ้านหนองสามสี บ้านไร่สีสุก บ้านนาไร่ใหญ่ อ.เสนางคนิคม บ้านกุดน้ำกิน,บ้านนาวัง, บ้านโคกสูง อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ บ้านห้วยทม อ.ชานุมาน บ้านดอนหว่าน อ.หัวตะพาน ซึ่งขณะนี้ยังคงจมอยู่ใต้บาดาล ชาวบ้านได้พากันอพยพไปอยู่ที่สูงแล้วในขณะนี้

ฤทธิ์โพดุลทำน้ำทะลักท่วมหลายชุมชนกาฬิสนธุ์

สถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ยังไม่คลี่คลายผลพวงจากพายโพดุล ระดับน้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงปริมาณน้ำที่เกินการกักเก็บของอ่างเก็บน้ำห้วยสีทนที่ยังเพิ่มระดับสูงขึ้นตลอดทั้งคืน ทั้งนี้ มวลน้ำก้อนแรก 2 ล้าน ลบ.ม. เอ่อล้นเข้าท่วมชุมชนติดกับสวนสาธารณะแก่งดอนกลางมีผู้ได้รับผลกระทบไม่น้อยกว่า 300 ครัวเรือน โดยชาวบ้านได้เร่งอพยพสิ่งของมีค่าออกจากบ้านไปไว้ที่วัดหอไตร ซึ่งเป็นจุดอำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์

ทั้งนี้ มวลน้ำได้เอ่อล้นแผ่ขยายวงกว้างจากเดิมที่ส่งผลให้ 4 ชุมชนมีท่วมบ้านเรือน เช้านี้ขายวงกว้างเป็น 10 ชุมชน ที่ประกอบด้วย ชุมชนริมแก่งดอนกลาง  ชุมชนดอนกลอย ชุมชนหัวโนนโก ชุมชนคุ้มห้วย ชุมชนทุ่งสระ หมู่บ้านมั่นคง  บ้านมั่นคงเมืองใหม่ ชุมชนวัดสว่างคงคา ชุมชนดอนสวรรค์ ชุมชนซอยน้ำทิพย์และชุมชนท่าสินค้า โดยได้ระดมเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย  เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ออกบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนอย่างเร่งด่วน

อย่างไรก็ตาม ทางเทศบาลได้ทำการปิดถนนอนรรฆนาคแล้ว เนื่องจากมีน้ำไหลล้นเอ่อเข้าท่วมถนน พร้อมตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่วัดหอไตรปฏิการาม 

วังโป่ง เพชรบูรณ์น้ำท่วมหนักสุดในรอบ 30 ปี 

จังหวัดเพชรบูรณ์ได้รับอิทธิพลจากพายุโพดุล ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักสะสม ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงเย็น ล่าสุดพบว่าได้เกิดน้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ไหลหลากลงมาสมทบกับมวลน้ำในคลองซับเปิบ จนเอ่อล้นไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ 3 ตำบล ของอำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ ประกอบด้วย ตำบลวังหิน ตำบลซับเปิบ และตำบลท้ายดง โดยเฉพาะตำบลวังหิน พบว่าหนักที่สุด ถูกมวลน้ำสีแดงขุ่นไหลเชี่ยวกรากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร และพื้นที่การเกษตรเป็นบริเวณกว้าง รวมทั้งถนนสายหลัก ถนนภายในหมู่บ้าน ถูกน้ำท่วมสูง ราว 30-40 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ รถใหญ่ต้องใช้ความระมัดระวัง บางจุดภายในซอยที่ลุ่มต่ำ ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1.20 เมตร ข้าวของเครื่องใช้บางส่วนถูกน้ำท่วมเสียหาย เนื่องจากชาวบ้านไม่สามารถขนย้ายได้ทัน เพราะน้ำป่ามาเร็ว และไหลเชี่ยวกรากมาก

ล่าสุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กู้ภัยวังโป่งรวมใจ ได้เร่งออกสำรวจ พร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบเบื้องต้น อีกทั้งได้นำอุปกรณ์ส่องสว่าง ออกติดตั้งตามจุดเสี่ยง เพื่ออำนวยความสะดวก พร้อมทั้งแจ้งเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์น้ำป่าอย่างใกล้ชิด เนื่องจากในพื้นที่ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง

น้ำท่วมสูงเร่งอพยพชาวเนินมะปรางออกจากพื้นที่เสี่ยง

อิทธิพลพายุ “โพดุล” ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง หลากลงสู่ลุ่มน้ำชมพูท่วมในพื้นที่ ต.บ้านมุง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก และตลอดทั้งวันได้เกิดฝนตกหนัก ทำให้คลองชมพูปริมาณน้ำสูงกว่า 7 เมตร ทำให้กว่า 4 ตำบล ใน อ.เนินมะปราง ถูกน้ำท่วมขังและน้ำป่าไหลหลากเฉียบพลัน ทำให้บ้านเรือนเสียหายจำนวนมาก

นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้นำเรือและอุปกรณ์ในการช่วยเหลือและเร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงที่ถูกน้ำท่วมฉับพลัน โดยเฉพาะในหมู่ที่ 1 บ้านมุงเหนือ หมู่ที่ 4 บ้านลำภาศ หมู่ที่ 7 บ้านเนินสว่าง น้ำท่วมถนนสายลำภาศ-วังยาง ระดับน้ำสูง 50 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ และในตำบลวังยาง มีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำป่าหลากท่วม ได้แก่ หมู่ที่ 1 บ้านคลองตะเคียน หมู่ที่ 2 บ้านไทรดงยั้ง หมู่ที่ 3 บ้านวังดินเหนียว หมู่ที่ 6 บ้านวังยางเหนือ หมู่ที่ 7 บ้านวังยางใต้ ขณะที่ถนนสายไทรดงยั้ง-วังโป่ง ระดับน้ำสูง 50 เซนติเมตร รถเล็กสัญจรผ่านไม่ได้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ต้องลุยน้ำนำสิ่งของไปช่วยเหลือชาวบ้านเป็นการเบื้องต้น 

นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานว่ามีประชาชนที่ขับรถอยู่ก็ถูกน้ำป่าไหลหลากจนรถตกคูน้ำจนได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่กู้ภัยรีบน้ำส่งโรงพยาบาลอีก 4 ราย อีกทั้งในพื้นที่ลุ่มต่ำมีประชาชนที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง เจ้าหน้าที่ลำเลียงมาอยู่บนพื้นที่สูง เพื่อความปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

สส.เพื่อไทย ให้กำลังใจ “แพทองธาร” ผ่านอุปสรรคกลับมารับใช้ประชาชน

รัฐสภา 15 ส.ค.-สส.เพื่อไทย ให้กำลังใจ “แพทองธาร” ผ่านอุปสรรคกลับมารับใช้ประชาชน ด้านเจ้าตัวยิ้มสู้-ยังเข้มแข็ง กำชับ สส.ทำงานสภาเต็มที่ ลงพื้นที่ดูแลประชาชนใกล้ชิด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร​ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วาระที่สอง วันสุดท้าย ซึ่ง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้ามาติดตามการประชุม ตลอด 3 วันที่ผ่านมา โดยในช่วงเช้า สส.พรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ สส.เขต ได้มีการเข้าพบหารือกับนางสาวแพทองธาร ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อปรึกษาปัญหาในพื้นที่ รวมถึงเรื่องการผลักดันนโยบายต่างๆ ที่จะลงในพื้นที่ เนื่องจากในหลายจังหวัดมีโครงสร้างพื้นฐานพร้อมทุกด้าน แต่ยังขาดเรื่องการประชาสัมพันธ์ จึงอยากให้นางสาวแพทองธาร ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมผลักดันเกี่ยวกับซอฟพาวเวอร์ และจัดกิจกรรมอีเวนท์ต่างๆเพื่อ ให้จังหวัดนั้นๆเป็นที่รู้จักมากขึ้น นอกจากนี้ บรรดา สส. ของพรรคยังได้ให้กำลังใจนางสาวแพทองธาร เนื่องจากกลัวว่า อาจมีความเครียดและกังวลเรื่องคดีความ พร้อมขอให้นายกฯสู้ๆ เข้มแข็ง ผ่านอุปสรรคไปได้และได้กลับมาทำงานเพื่อประชาชน ขณะที่นางสาวแพทองธาร ยังคงยิ้มแย้ม แสดงความเข้มแข็ง และขอให้ สส.ทุกคน เดินหน้าทำหน้าทำงานในสภาอย่างเข้มแข็งเช่นกัน […]

ภาพเขมรรื้อถอน “ลวดหนาม-ธงชาติ” เป็นเฟคนิวส์

กทม. 15 ส.ค.-“ทบ.-ทภ.2” ยืนยันภาพเขมรรื้อถอน “ลวดหนาม-ธงชาติ” เป็นเฟคนิวส์ คาดฝ่ายกัมพูชาทำคอนเทนต์สร้างกระแส ให้เห็นว่าไม่ยอมฝ่ายไทย เตรียมประท้วงขัดข้อตกลง “จีบีซี” แม่ทัพภาค 2 ยันทุกอย่างอยู่ที่เดิม เมื่อวันที่ 15 ส.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีคลิปทหารกัมพูชาอ้างถึงการรื้อลวดหนามหีบเพลงใกล้ฐานปฏิบัติการซำแต ใกล้ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ว่า อาจจะเป็นการทำภาพวิดีโอ เพื่อนำเสนอให้คนกัมพูชาเห็นการปฏิบัติการตอบโต้ไทยตามแนวชายแดน แต่หลายอย่างไม่ได้ตรงกับพื้นที่จริง อาจจะเป็นเรื่องของการใช้กราฟิกในเรื่องของสีธง ซึ่งไม่ใช่พื้นที่ตรงนั้น มุ่งหวังสร้างขวัญกำลังใจกับฝ่ายกัมพูชามากกว่า เพื่อแสดงท่าทีว่าได้ทำอย่างหนึ่งอย่างใด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลวดหนาม หรือธง ในพื้นที่บริเวณแนวชายแดน เมื่อดูจากสภาพแวดล้อม ไม่ใช่พื้นที่ที่มีการอ้างถึง “อาจจะมาทำเป็นลักษณะของการทำคอนเทนต์ ให้คนกัมพูชาเห็นว่ามีปฏิกิริยาที่ไม่เอารั้วลวดหนาม ไม่ใช่ภาพที่อยู่ในพื้นที่ของประเทศไทย ยืนยันไม่ใช่ภาพจริงที่เขาอ้างถึง ส่วนการละเมิดข้อตกลงจีบีซี ในเรื่องการบิดเบือนข่าวสารนั้น เราก็คงต้องประท้วงและแสดงให้เห็นว่าไม่ควรเกิดขึ้น” พล.ต.วินธัย ระบุ พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพบกชี้แจงกรณีสื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ภาพอ้างว่าเป็นการรื้อถอนลวดหนามในพื้นที่จุ๊บตะโมก บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ โดยจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับหน่วยทหารในพื้นที่ประจำปราสาทตาเมือนธม ยืนยันว่าไม่ปรากฏเหตุการณ์หรือการปฏิบัติใดๆ ของทหารกัมพูชาตามที่มีการกล่าวอ้าง ทั้งนี้ […]

เร่งแกะรอยวงจรปิดเส้นทางหนีโจรชิงทอง 163 บาท

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ตำรวจเร่งแกะรอยเส้นทางหลบหนีของคนร้ายสวมชุดไรเดอร์บุกเดี่ยวชิงทอง ร้านทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทองคำ 163 บาท มูลค่ากว่า 8.6 ล้านบาท เช้าวันนี้ (15 ส.ค.) ทีมสืบสวน สภ.บางบ่อ ประชุมชุดและไล่ดูกล้องวงจรปิดตามเส้นทางหลบหนี บนถนนเทพรัตน (บางนา-ตราด) มุ่งหน้า จ.ชลบุรี เน้นจุดเสี่ยงตลอดแนวถนนเทพรัตน รวมถึงเส้นทางรองที่เชื่อมต่อออกพื้นที่ โดยวางแนวทางสอบสวนที่จะนำไปสู่การพิสูจน์ตัวผู้ก่อเหตุ โดยเฉพาะประเด็นชุดไรเดอร์ที่สวมใส่ขณะก่อเหตุ พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า ได้เชิญพยานแวดล้อม พนักงานร้านทอง สอบปากคำอย่างละเอียด ขอเวลาตำรวจทำงาน พร้อมกำชับหากพบตัวคนร้ายให้ใช้ยุทธวิธีจากเบาไปหาหนักด้วยความรอบคอบ เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืน.-สำนักข่าวไทย

กต.เชิญรัฐภาคีออตตาวาบรรยายสรุป เรียกร้องกัมพูชาร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด

ก.ต่างประเทศ 15 ส.ค.-กต.เชิญรัฐภาคีออตตาวาบรรยายสรุป เรียกร้องกัมพูชาร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด เผย 1 เดือน ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดแล้ว 5 ครั้ง มีหลักฐานเชิงประจักษ์ชัดเป็นทุ่นใหม่ ไม่ใช่มรดกสงคราม ย้ำไทยมุ่งใช้กลไกทวิภาคี แก้ปมชายแดน จี้หยุดบิดเบือนเฟกนิวส์ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงหลังการบรรยายสรุปแก่คณะทูต องค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านทุ่นระเบิดว่า การบรรยายสรุปในวันนี้ (15 ส.ค.) มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ข้อเท็จจริงกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลให้พหารไทยหลายท่านได้รับบาดเจ็บถึงขั้นทุพพลภาพถาวร และสร้างความเสี่ยงต่อชีวิตของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายแดน และเพื่อชี้แจงข้อมูลและเหตุผลเกี่ยวกับการดำเนินการของไทยในเรื่องนี้ โดยได้เชิญคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนและรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรือ อนุสัญญาออตตาวา รวมทั้งผู้แทนองค์การระหว่างประเทศและองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเข้าร่วม โดยมีผู้เข้าร่วมรับฟัง 67 คน จาก 41 ประเทศ 1 องค์กร และ 4 องค์การ นายนิกรเดช กล่าวว่า นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้กล่าวเปิดผ่านวิดีโอคลิป เนื่องจากขณะนี้ท่านติดการกิจอยู่ระหวางเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (MLC) ที่เมืองอันหนิง ประเทศจีน ซึ่งประเทศไทยทำหน้าที่ประธานการประชุมร่วมกับจีน หลังจากนั้นเป็นการบรรยายของนายรัศม์ […]