อิทธิพลพายุ “โพดุล” ฝนถล่มอีสาน-เหนืออ่วม

อีสาน-เหนือ 31 ส.ค.- อิทธิพลพายุ “โพดุล” อุบลฯ น้ำท่วมหนักสุดในรอบ 10 ปี ตายแล้ว 1 ที่บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น น้ำท่วมสูง ชาวบ้านหนีขึ้นหลังคารอความช่วยเหลือ ส่วนอำนาจเจริญระทึกน้ำล้นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ไหลทะลักท่วมบ้านเรือน


พายุโพดุลถล่มร้อยเอ็ดหนักสุด

ร้อยเอ็ดฝนเริ่มเทกระหน่ำตั้งแต่ช่วงตี 3 เมื่อวานนี้และตกต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังสูงครอบคลุมในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ดเกือบทั้งหมด อยู่ในสภาพเป็นอัมพาตทั้งเมือง เช่นเดียวกับอำเภอโพนทอง น้ำได้ทะลักเข้าท่วมโรงเรียนอนุบาลโพนทองที่มีนักเรียนกว่า 1,000 คน ต้องให้ผู้ปกครองทยอยไปรับบุตรหลานกลับบ้านตั้งแต่เที่ยง และสามารถอพยพนักเรียนกลับบ้านได้อย่างปลอดภัยในช่วงเย็น


นายสมพงษ์ ศิริบาล ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาร้อยเอ็ด กล่าวว่า ฝนตกหนักและลมแรงมาตั้งแต่เย็นวานนี้ วัดปริมาณน้ำฝนได้ 168 มิลลิเมตร โดยคาดว่าจังหวัดร้อยเอ็ดจะมีฝนตกต่อเนื่องไปถึงวันที่ 1 กันยายน 2562 จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังลมกรรโชกแรง ขับรถระวังอุบัติเหตุจากถนนลื่นส่วนประชาชนริมฝั่งแม่น้ำชีและแม่น้ำยังระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำไหลหลาก

กั้นกระสอบทรายป้องกันน้ำท่วมเรือนจำร้อยเอ็ด

และฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง และไม่มีทางระบายน้ำ เอ่อท่วมบริเวณเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด เต็มพื้นที่ เส้นทางเรือนจำ ได้นำผู้ต้องขังออกมาแก้ไขปัญหา ด้วยการนำรถบรรทุกทรายมาจอดอยู่กลางน้ำที่ท่วมอยู่หน้าเรือนจำ แล้วใช้ผู้ต้องขังชาย มาช่วยบรรจุกระสอบทราย นำไปกั้นแนวประตูทางเข้าเรือนจำ พร้อมกับ เร่งใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ สูบน้ำออกจากเรือนจำ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้ต้องขังภายในเรือนจำกว่า 300 คน และมีการแก้ไขปัญหาภายในเรือนจำ ด้วยการย้ายผู้ต้องขังชายขึ้นไปบนเรือนนอนชั้น 2 เพื่อหนีน้ำเป็นการชั่วคราว โดยแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่เรือนจำ กล่าวว่า นอกเหนือจากการย้ายผู้ต้องขังชายขึ้นไปบนเรือนนอนทั้งหมดเพื่อหนีน้ำ ซึ่งพื้นที่อาจจะไม่เพียงพอก็จะมีการลำเลียงย้ายผู้ต้องขังหญิงออกไปในจุดอื่นที่ปลอดภัย


อุบลฯ โดนพายุถูกน้ำท่วมหนักสุดในรอบ 10 ปี ตายแล้ว 1 

นายชอบ กาญจนสาร อายุ 66 ปี เกษตรกรบ้านกุดข้าวปุ้น อำเภอกุดข้าวปุ้น จังหวัดอุบลราชธานี ขนย้ายแม่พันธุ์หมูพร้อมลูกเล็กกว่า 10 ตัวมาไว้หน้าบ้านเพื่อหนีน้ำท่วมจากห้วยตาเทียว อย่างเร่งด่วนหลังจากน้ำในลำห้วยทะลักท่วมเล้าหมูด้านหลังบ้านอย่างรวดเร็ว 

นายชอบ เล่าว่าน้ำปีนี้มาเร็ว และแรงกว่าทุกปีขนย้ายหมูเกือบไม่ทัน มีลูกหมูบางตัวโดนน้ำพัดออกไป แต่โชคดีที่ตนว่ายน้ำออกไปเอากลับเข้ามาได้ทัน ส่วนที่เหลือต้องใช้วิธีการอุ้มลูกมาล่อแม่ให้เดินตามขึ้นมายังที่สูงและหน้าบ้านบางตัวต้องเลี้ยงบนรถไปก่อน เพราะไม่มีพื้นที่ ส่วนความเสียหายตอนนี้จะอยู่ที่เครื่องสูบน้ำ อุปกรณ์การเลี้ยงหมูบางส่วนที่ลอยไปกับน้ำ

ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วมในอำเภอกุดข้าวปุ้นแล้ว 1 ราย ตรวจสอบทราบชื่อ นายสมร สู่ขวัญ อายุ 67 ปี ราษฎร บ.โนนหอม ตำบลข้าวปุ้น เหตุเกิดขณะออกไปหาแมลง ขณะฝนตกทำให้ถูกน้ำพัดสูญหายหลังจากการค้นหาพบร่างนายสมรติดอยู่ก่อไผ่ใกล้จุดเกิดเหตุ

บ้านไผ่น้ำท่วมสูง ชาวบ้านหนีขึ้นหลังคารอความช่วยเหลือ

ที่ขอนแก่น น้ำจากลำห้วยจิกได้ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนเมื่อเวลา 04.00น.ที่ผ่านมา ทำให้บ้านเรือนกว่า 100 หลังคาเรือน ถูกน้ำท่วมสูง รวมทั้งบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ใกล้ลำห้วยจิก น้ำได้ล้นท่วมถนนสูงกว่า 1.5 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องปิดถนน เนื่องจากน้ำที่ท่วมสูง และน้ำพัดแรง นอกจากนี้ ยังพบว่ายังมีประชาชนอยู่หลายคนยังคงหนีออกมาไม่ได้ต้องขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้าน รอความช่วยเหลือ ซึ่งการช่วยเหลือทำได้ด้วยความลำบาก เพราะเรือที่ใช้เป็นเรือท้องแบนของเทศบาลเมืองบ้านไผ่ แต่ไม่มีเครื่องยนต์ ไม่สามารถต้านกระแสน้ำเข้าไปช่วยเหลือได้ ขณะนี้ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดขอนแก่น ได้ส่งเรือท้องแบนจำนวน 5 ลำ เพื่อมาช่วยเหลือแล้ว

นายรุจน์ รังษี นายอำเภอบ้านไผ่ กล่าวว่า หลังจากที่เกิดน้ำท่วมเมื่อเช้าตรู่ที่ผ่านมา ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานเข้าให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนทันที แต่เนื่องจากน้ำที่มีปริมาณมาก เพราะก่อนหน้านี้อำเภอบ้านไผ่ ได้มีฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุโพดุล ทำให้น้ำจากอำเภอโนนศิลา อำเภอหนองสองห้อง ซึ่งเป็นต้นน้ำของลำห้วยจิก ได้ไหลมาปริมาณมากจนทำให้เกิดน้ำท่วมหนักในครั้งนี้ เบื้องต้นได้ประสานไปยังหน่วยงานต่างๆ เพื่อเข้าช่วยเหลือแล้ว พร้อมให้กิ่งกาชาดและจิติอาสาอำเภอบ้านไผ่ ได้ทำข้าวกล่องจำนวน 1 พันกล่อง มาแจกให้กับประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อน

น้ำล้นอ่างเก็บน้ำทะลักท่วมบ้านเรือนกลางดึกกว่า 100 หลัง

จากอิทธิพลของพายุโพดุล ทำให้เกิดฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาจนถึงเย็นวันนี้ ทำให้อ่างเก็บพุทธอุทยาน ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำหลักขนาดใหญ่ มีปริมาณน้ำเกินกว่าความจุของอ่างเก็บน้ำ ทำให้น้ำไหลล้นสปิลเวย์ ทำให้น้ำที่ไหลล้นอ่างเก็บน้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน ชุมชุนศรีสำราญเขตเทศบาลเมืองอำนาจเจริญ กว่า 100 หลังคา ที่อยู่ใต้อ่างเก็บน้ำดังกล่าว ประชาชนต้องอพยพและขนทรัพย์สินออกจากบ้านเรือนมาอยู่ในพื้นที่สูง

ขณะที่นางสุจริต มีทองแสน ชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตรทั้งหลัง เผยว่า ตนไม่คิดว่าน้ำที่ไหลล้นอ่างเก็บมากขนาดนี้ ทุกครั้งน้ำระบายออกมาจะล้นอ่างเก็บน้ำไม่มากเหมือนครั้งนี้ เพราะคิดว่าฝนหยุดตกแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่าอ่างเก็บน้ำระบายน้ำไม่ทัน จึงทำให้น้ำไหลมารวมกันอย่างรวดเร็วและไหลเข้าท่วมบ้านเพียงแค่ไม่กี่อึดใจ ชาวบ้านต้องพากันหากระสอบทรายมากั้นน้ำกันเอาเอง บ้านเรือนบางหลังที่ขนข้าวของหนีทันก็โชคดีไป แต่บ้านของตนอยู่ใกล้กับอ่างเก็บน้ำมาก ทำให้ไม่สามารถเก็บข้าวของได้ทัน ทำได้แค่เพียงขนข้าวของบางส่วนขึ้นไปบนบ้านชั้น 2 เท่านั้น

ส่วนบ้านหนองสามสี บ้านไร่สีสุก บ้านนาไร่ใหญ่ อ.เสนางคนิคม บ้านกุดน้ำกิน,บ้านนาวัง, บ้านโคกสูง อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ บ้านห้วยทม อ.ชานุมาน บ้านดอนหว่าน อ.หัวตะพาน ซึ่งขณะนี้ยังคงจมอยู่ใต้บาดาล ชาวบ้านได้พากันอพยพไปอยู่ที่สูงแล้วในขณะนี้

ฤทธิ์โพดุลทำน้ำทะลักท่วมหลายชุมชนกาฬิสนธุ์

สถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ยังไม่คลี่คลายผลพวงจากพายโพดุล ระดับน้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงปริมาณน้ำที่เกินการกักเก็บของอ่างเก็บน้ำห้วยสีทนที่ยังเพิ่มระดับสูงขึ้นตลอดทั้งคืน ทั้งนี้ มวลน้ำก้อนแรก 2 ล้าน ลบ.ม. เอ่อล้นเข้าท่วมชุมชนติดกับสวนสาธารณะแก่งดอนกลางมีผู้ได้รับผลกระทบไม่น้อยกว่า 300 ครัวเรือน โดยชาวบ้านได้เร่งอพยพสิ่งของมีค่าออกจากบ้านไปไว้ที่วัดหอไตร ซึ่งเป็นจุดอำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์

ทั้งนี้ มวลน้ำได้เอ่อล้นแผ่ขยายวงกว้างจากเดิมที่ส่งผลให้ 4 ชุมชนมีท่วมบ้านเรือน เช้านี้ขายวงกว้างเป็น 10 ชุมชน ที่ประกอบด้วย ชุมชนริมแก่งดอนกลาง  ชุมชนดอนกลอย ชุมชนหัวโนนโก ชุมชนคุ้มห้วย ชุมชนทุ่งสระ หมู่บ้านมั่นคง  บ้านมั่นคงเมืองใหม่ ชุมชนวัดสว่างคงคา ชุมชนดอนสวรรค์ ชุมชนซอยน้ำทิพย์และชุมชนท่าสินค้า โดยได้ระดมเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย  เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ออกบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนอย่างเร่งด่วน

อย่างไรก็ตาม ทางเทศบาลได้ทำการปิดถนนอนรรฆนาคแล้ว เนื่องจากมีน้ำไหลล้นเอ่อเข้าท่วมถนน พร้อมตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่วัดหอไตรปฏิการาม 

วังโป่ง เพชรบูรณ์น้ำท่วมหนักสุดในรอบ 30 ปี 

จังหวัดเพชรบูรณ์ได้รับอิทธิพลจากพายุโพดุล ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักสะสม ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงเย็น ล่าสุดพบว่าได้เกิดน้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ไหลหลากลงมาสมทบกับมวลน้ำในคลองซับเปิบ จนเอ่อล้นไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ 3 ตำบล ของอำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ ประกอบด้วย ตำบลวังหิน ตำบลซับเปิบ และตำบลท้ายดง โดยเฉพาะตำบลวังหิน พบว่าหนักที่สุด ถูกมวลน้ำสีแดงขุ่นไหลเชี่ยวกรากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร และพื้นที่การเกษตรเป็นบริเวณกว้าง รวมทั้งถนนสายหลัก ถนนภายในหมู่บ้าน ถูกน้ำท่วมสูง ราว 30-40 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ รถใหญ่ต้องใช้ความระมัดระวัง บางจุดภายในซอยที่ลุ่มต่ำ ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1.20 เมตร ข้าวของเครื่องใช้บางส่วนถูกน้ำท่วมเสียหาย เนื่องจากชาวบ้านไม่สามารถขนย้ายได้ทัน เพราะน้ำป่ามาเร็ว และไหลเชี่ยวกรากมาก

ล่าสุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กู้ภัยวังโป่งรวมใจ ได้เร่งออกสำรวจ พร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบเบื้องต้น อีกทั้งได้นำอุปกรณ์ส่องสว่าง ออกติดตั้งตามจุดเสี่ยง เพื่ออำนวยความสะดวก พร้อมทั้งแจ้งเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์น้ำป่าอย่างใกล้ชิด เนื่องจากในพื้นที่ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง

น้ำท่วมสูงเร่งอพยพชาวเนินมะปรางออกจากพื้นที่เสี่ยง

อิทธิพลพายุ “โพดุล” ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง หลากลงสู่ลุ่มน้ำชมพูท่วมในพื้นที่ ต.บ้านมุง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก และตลอดทั้งวันได้เกิดฝนตกหนัก ทำให้คลองชมพูปริมาณน้ำสูงกว่า 7 เมตร ทำให้กว่า 4 ตำบล ใน อ.เนินมะปราง ถูกน้ำท่วมขังและน้ำป่าไหลหลากเฉียบพลัน ทำให้บ้านเรือนเสียหายจำนวนมาก

นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้นำเรือและอุปกรณ์ในการช่วยเหลือและเร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงที่ถูกน้ำท่วมฉับพลัน โดยเฉพาะในหมู่ที่ 1 บ้านมุงเหนือ หมู่ที่ 4 บ้านลำภาศ หมู่ที่ 7 บ้านเนินสว่าง น้ำท่วมถนนสายลำภาศ-วังยาง ระดับน้ำสูง 50 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ และในตำบลวังยาง มีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำป่าหลากท่วม ได้แก่ หมู่ที่ 1 บ้านคลองตะเคียน หมู่ที่ 2 บ้านไทรดงยั้ง หมู่ที่ 3 บ้านวังดินเหนียว หมู่ที่ 6 บ้านวังยางเหนือ หมู่ที่ 7 บ้านวังยางใต้ ขณะที่ถนนสายไทรดงยั้ง-วังโป่ง ระดับน้ำสูง 50 เซนติเมตร รถเล็กสัญจรผ่านไม่ได้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ต้องลุยน้ำนำสิ่งของไปช่วยเหลือชาวบ้านเป็นการเบื้องต้น 

นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานว่ามีประชาชนที่ขับรถอยู่ก็ถูกน้ำป่าไหลหลากจนรถตกคูน้ำจนได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่กู้ภัยรีบน้ำส่งโรงพยาบาลอีก 4 ราย อีกทั้งในพื้นที่ลุ่มต่ำมีประชาชนที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง เจ้าหน้าที่ลำเลียงมาอยู่บนพื้นที่สูง เพื่อความปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย