กทม. 27 ส.ค.-อดีต ผอ.โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการการส่งเสริมการศึกษาเอกชน พิจารณาให้ความเห็นทางกฏหมายเกี่ยวกับคำสั่งพักงานและคำสั่งย้ายงาน ขัดต่อกฏหมายหรือไม่อย่างไร โดยขอรับฟังความเห็นภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
นายศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ ทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการส่งแสริมการศึกษาเอกชน ลงวันที่ 27 สิงหาคม 2019 เรื่องขอความกรุณาพิจารณาคำสั่งพักงานและคำสั่งให้ย้ายงานว่าผิดกฏหมายหรือไม่ อ้างถึง หนังสือที่ กท.ก.986/2019 เรื่องขอความกรุณาพิจารณาให้ความเห็นทางกฏหมายเกี่ยวกับคำสั่งพักงาน ลงวันที่ 13 สิงหาคม 2019
โดยข้อความในหนังสือ ระบุว่า ตามที่ข้าพเจ้า นายศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ได้มีหนังสือฉบับที่อ้างถึง เรียนสอบถามขอให้ท่านพิจารณาให้ความเห็นทางกฏหมายเกี่ยวกับคำสั่งพักงานของคณะกรรมการบริหารโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยที่ให้พักงานผู้จัดการและข้าพเจ้า ผู้อำนวยการโรงเรียนในขณะนั้น ถึงท่านแล้วนั้น
ข้าพเจ้าขอเรียนให้ท่านทราบว่าในขณะนี้ คณะกรรมการบริหารโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยและสภาคริสตจักรในประเทศไทยได้มีคำสั่งพักงานข้าพเจ้า และผู้จัดการโรงเรียนไปแล้ว และได้มีคำสั่งย้ายไปทำงานที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่ยังต้องเข้ารับการสอบสวนจากคณะกรรมการสอบสวนของสภาคริสตจักรในประเทศไทยที่กรุงเทพมหานครอยู่ ข้าพเจ้าเห็นว่าคำสั่งและการดำเนินการสอบสวนดังกล่าวนั้น เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย และขัดต่อระเบียบของคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน และขัดต่อกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับโรงเรียนเอกชน และขัดต่อหลักธรรมาภิบาลและหลักความเป็นกลางในการสอบสวน ซึ่งขณะนี้มีผลกระทบต่อการดำเนินการด้านการศึกษาของโรงเรียนที่ต้องให้บริการทางการศึกษาแก่นักเรียนอย่างต่อเนื่องแล้ว
ด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้าในฐานะบุคลากรของโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยในฐานะตัวแทนของบุคลากรและนักเรียนของโรงเรียนทุกคน จึงมีความจำเป็นที่ต้องขอความกรุณาจากท่านได้โปรดพิจารณาให้ความเห็นทางกฏหมายเกี่ยวกับคำสั่งพักงาน และคำสั่งให้ย้ายงานนั้น มีผลทางกฏหมายและกฏระเบียบของคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน หรือไม่อย่างไร สามารถปฏิบัติได้หรือไม่ หรือขัดต่อกฏหมายหรือไม่อย่างไร และขอให้ท่านได้โปรดเข้ามาตรวจสอบการดำเนินการดังกล่าวของคณะกรรมการบริหารโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนและสภาคริสตจักรในประเทศไทยด้วย ทั้งนี้ขอท่านได้โปรดพิจารณาให้ความแห็นและแจ้งให้ข้าพเจ้าได้ทราบภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ท่านได้รับหนังสือฉบับนี้ต่อไปด้วย” .-สำนักข่าวไทย
