สทนช.เตรียมรับมือพายุเข้าไทย 31 ส.ค.-1 ก.ย.นี้

กรุงเทพฯ 27 ส.ค. – สทนช.ชี้ช่วง ส.ค.น้ำไหลเข้าอ่างฯ กว่า 7 พันล้าน ลบ.ม. ลดพื้นที่เสี่ยงขาดน้ำ 30 จังหวัด พร้อมรับมือพายุเข้าไทย 31 ส.ค.-1 ก.ย.นี้


นายสมเกียรติ  ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า วันนี้ (27 ส.ค.) สทนช.ได้เสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบสถานการณ์น้ำปัจจุบัน ซึ่งจากการติดตามสถานการณ์ฝนและปริมาณน้ำที่ไหลลงแหล่งน้ำต่าง ๆ พบว่าฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักเพิ่มขึ้น และปริมาณน้ำในแหล่งน้ำต่าง ๆ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกัน ประกอบกับจากการติดตามสภาพอากาศโดยศูนย์อำนวยการน้ำเฉพาะกิจ พบว่า ขณะนี้เกิดพายุทางทิศตะวันออกของฟิลิปปินส์ และคาดการณ์เส้นทางพายุจะเข้าทางตอนเหนือของประเทศไทยในช่วงวันที่ 31 สิงหาคม – 1 กันยายน ซึ่งศูนย์ฯ จะมีการติดตามประเมินสถานการณ์ใกล้ชิดร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพื่อวิเคราะห์เส้นทางที่พายุผ่าน เพื่อแจ้งเตือนพื้นที่ที่อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน รวมถึงพิจารณาแหล่งน้ำที่มีปริมาณน้ำเก็กกักมาก ซึ่งอาจจะต้องพิจารณาปรับแผนการระบายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ด้วย

ทั้งนี้ จากการติดตามสถานการณ์น้ำในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ 38 แห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่ 1 ส.ค. 62 – ปัจจุบัน (ณ  26 ส.ค.62) พบว่า มีน้ำไหลเข้าแหล่งน้ำขนาดใหญ่  35 แห่ง ปริมาณน้ำรวม 7,110 ล้าน ลบ.ม. แบ่งเป็น ภาคเหนือ 2,272 ล้าน ลบ.ม. ภาคอีสาน 750 ล้าน ลบ.ม. ภาคกลาง 9 ล้าน ลบ.ม. ภาคตะวันออก 117 ล้าน ลบ.ม. ภาคตะวันตก 3,554 ล้าน ลบ.ม. และภาคใต้ 409 ล้าน ลบ.ม. โดยมีแหล่งน้ำที่น้ำไหลเข้ามากกว่า 100 ล้าน ลบ.ม. มีถึง 11 แห่ง เช่น เขื่อนวชิราลงกรณ เพิ่มขึ้น 2,126 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนสิริกิติ์ เพิ่มขึ้น 1,372 ล้าน ลบ.ม  เขื่อนศรีนครินทร์ เพิ่มขึ้น 1,083 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนภูมิพล เพิ่มขึ้น 602 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนลำปาว เพิ่มขึ้น 183 ล้าน ลบ.ม. ขณะเดียวกันพบว่ายังมีแหล่งน้ำที่น้ำไหลเข้าน้อยกว่า 10 ล้าน ลบ.ม. ถึง 13 แห่ง โดยน้ำไม่ไหลเข้าอ่างฯ 3 แห่ง ได้แก่ เขื่อนทับเสลา เขื่อนลำพระเพิง เขื่อนกระเสียว ซึ่ง สทนช.ได้ประสานกรมฝนหลวงและการบินเกษตรเร่งปฏิบัติการช่วยเหลือพื้นที่แล้ว ทั้งนี้ ฝนที่ตกสะสมตั้งแต่กลางเดือน ส.ค.ที่ผ่านมาถึงปัจจุบันส่งผลให้จำนวนพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำลดลงจาก 48 จังหวัด เหลือ 18 จังหวัด


“สทนช.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแนวทางแก้ไขปัญหาและให้ความช่วยเหลือแก่พื้นที่ที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีน้ำต้นทุนผลิตประปาน้อยกว่า 15% ซึ่งเสี่ยงขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภค 15 จังหวัด 31 อำเภอ แบ่งเป็น ภาคเหนือ 2 จังหวัด 3 อำเภอ ภาคอีสาน 8 จังหวัด 19 อำเภอ ภาคตะวันออก 3 จังหวัด 7 อำเภอ ภาคใต้ 2 จังหวัด 2 อำเภอ ด้วยการจัดหาน้ำต้นทุนเพิ่มเติม พร้อมประกาศลดแรงดันน้ำประปา และจ่ายน้ำเป็นช่วงเวลา ขณะที่พื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักและน้ำท่วมในช่วงฤดูฝนนี้บริเวณภาคเหนือตอนบน ได้แก่ น่าน แพร่ สุโขทัย แม่ฮ่องสอน เพชรบูรณ์ ภาคตะวันออก ได้แก่ นครนายก ปราจีนบุรี และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ สกลนคร และร้อยเอ็ด ซึ่ง สทนช. ได้เน้นย้ำหน่วยเกี่ยวข้องดำเนินมาตรการจัดทำแผนระบายน้ำกรณีฉุกเฉิน ป้องกันน้ำล้นทำนบดิน ในอ่างฯ ทุกขนาด และจัดการน้ำหลากเพื่อเบี่ยงน้ำโดยใช้อาคารบังคับน้ำ เช่น ประตูระบายน้ำ  เขื่อนระบายน้ำ และเปิดทางน้ำใหม่ เป็นต้น เพื่อเป็นการป้องกันผลกระทบล่วงหน้าด้วย” เลขาธิการ สทนช. กล่าว

ขณะเดียวกันยังรายงานถึงมาตรการเตรียมพร้อมการบริหารจัดการน้ำฤดูแล้งปี 2562/2563 โดยขณะนี้ สทนช.ได้มีหนังสือแจ้ง 6 หน่วยงาน ได้แก่ กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กรมส่งเสริมการเกษตร และกรมพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ตามข้อสั่งการของพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จากการประชุมคณะอนุกรรมการวิเคราะห์ติดตามสถานการณ์และบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เมื่อ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อคาดการณ์ปริมาณน้ำต้นทุนคงเหลือหลังสิ้นสุดฤดูฝนวันที่ 31 ส.ค.62 ของแหล่งน้ำทั่วประเทศ พร้อมทั้งประเมินปริมาณการใช้น้ำเดือน ก.ย. – ต.ค.2562 และแผนการจัดสรรน้ำฤดูแล้งปี 2562/2563 ให้เสร็จภายในวันที่ 4 ก.ย.นี้ โดยประเมินคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำแต่ละกิจกรรมตามปริมาณน้ำต้นทุน และความจำเป็นตามลำดับความสำคัญ โดยเฉพาะการอุปโภค-บริโภคและระบบนิเวศ รวมถึงปริมาณน้ำต้นทุนต้นฤดูฝน 2563 ด้วย ซึ่ง สทนช.จะนำข้อมูลดังกล่าวเสนอในการประชุมคณะอนุกรรมการวิเคราะห์ติดตามสถานการณ์และบริหารจัดการทรัพยากรน้ำช่วงต้นเดือน ก.ย. ก่อนจะนำเข้าเสนอในการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) พิจารณาให้ความเห็นชอบแผนจัดสรรน้ำช่วงฤดูแล้งปี 2562/2563 และต้นฤดูฝนปี 2563 วันที่ 12 ก.ย. นี้.-สำนักข่าวไทย

                                                                                          


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

จุดเทียนรำลึก 20 ปี สึนามิ

ค่ำคืนนี้ที่อนุสรณ์สถานรำลึกสึนามิบ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา สว่างไสวจากแสงเทียนนับพันเล่มที่ถูกจุดขึ้นเพื่อรำลึกถึงบุคคลที่รักซึ่งจากไปในเหตุการณ์สึนามิเมื่อปี 2547 จากวันนั้นถึงวันนี้ ครบ 20 ปีเต็ม

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการ ปชช.เดินทางช่วงปีใหม่

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยไม่แจ้งล่วงหน้า กำชับ บขส. อำนวยความสะดวกเตรียมพร้อมรถ สั่งเข้มตรวจแอลกอฮอล์-ยาเสพติดพนักงานขับรถ ป้องกันอุบัติเหตุ

เดินทางปีใหม่สายเอเชีย

ถนนสายเอเชียมุ่งสู่ภาคเหนือรถเริ่มมาก

ประชาชน เริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา และไปท่องเที่ยวช่วงส่งท้ายปี 2567 รับปีใหม่ 2568 การจราจรถนนสายเอเชีย ฝั่งขาขึ้นภาคเหนือ ช่วงชัยนาท รถเริ่มมาก

ฉายาตำรวจปี67

เปิด 10 ฉายาตำรวจ ปี 67

สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมฯ เปิด 10 ฉายา ตำรวจ “บิ๊กต่าย” ฉายา “กัปตันเรือกู้” จากภารกิจร้อนในการกอบกู้วิกฤติศรัทธา-ภาพลักษณ์องศ์กร “สารวัตรแจ๊ะ” ได้ฉายา “อย่าเล่นกับระบบ แจ๊ะ”