ราชดำเนิน 23ส.ค.-รมว.ท่องเที่ยวฯ ย้ำขยายเวลาปิดสถานบันเทิงตี 4 เป็นแนวคิดที่จะกำหนดเป็นโซนนิ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ มอบ ททท.ลงพื้นที่ วิเคราะห์ผลดี-ผลเสีย ก่อนดำเนินการใดๆต่อ
จากกรณีเครือข่ายต้านน้ำเมา ยื่นหนังสือถึง รมว.ท่องเที่ยว ค้านนโยบายเปิดสถานบันเทิง ตี 4 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2562 ณ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานั้น
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า อยากย้ำในแนวคิดเรื่องมาตรการขยายเวลาปิดสถานบริการจาก ตี2 ไปตี 4 ว่าเราไม่ได้ต้องการปูพรมทำทั่วประเทศ แต่จะจัดโซนนิ่งเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติเท่านั้น และก่อนจะดำเนินการในเรื่องนี้ ได้วางแผนที่จะให้มีการทำ workshop ร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้ผลสรุปว่าจะมีผลดีและผลเสียอย่างไร
‘ขอยืนยันว่าสิ่งที่คำนึงถึงที่สุด คือมาตรการดังกล่าวจะต้องไม่กระทบต่อศีลธรรมอันดีของประเทศ ต่อเยาวชนและประชาชนทั่วไป จะต้องได้รับการปกป้องคุ้มครองไม่ให้ได้รับผลกระทบที่ไม่ดีจากมาตรการดังกล่าว ความสงบเรียบร้อยของประเทศ และการมีสังคมที่ดีเป็นสิ่งที่คำนึงถึงตลอดและเป็นอันดับแรกครับ ในเรื่องนี้เปิดกว้างในทุกความเห็นอยากให้ได้คุยและหารือกัน หามาตรการใหม่ๆ ด้วยกัน ร่วมกันผลักดันให้ประเทศไทย เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ ปลอดภัย สะอาด ไม่เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ที่สำคัญที่สุดคือทุกคนได้รับประโยชน์จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รวมถึงมีความรับผิดชอบร่วมกัน” รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าว
รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวต่อไปว่าเรื่องนี้ว่าเป็นเพียงแนวคิดเบื้องต้นที่ต้องการนำมาช่วยพยุงรายได้จากการท่องเที่ยวในช่วงที่เศรษฐกิจทุกด้านของประเทศมีการชะลอตัว ซึ่งการดำเนินการวางแผนไว้ว่าจะกำหนด เป็นโซนนิ่งเท่านั้น โดยขณะนี้ ได้มอบหมายให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)ลงพื้นที่เพื่อสำรวจและศึกษาหาข้อมูลจากทุกภาคส่วนและทุกๆ ด้าน เพื่อมาวิเคราะห์ถึงผลดีผลเสียให้ปรากฏความชัดเจนแล้วจึงค่อยเดินหน้ากันต่อไป
อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณเยาวชน นักศึกษา ตลอดถึงกลุ่มเครือข่ายต่างๆ ที่มาร่วมบอกเล่าแนวคิดและความรู้สึก ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่ได้มีโอกาสแลก เปลี่ยนทัศนคติระหว่างกัน กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬายินดีรับฟังทุกความคิดเห็นของทุกกลุ่มทุกฝ่ายและนำมาเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาเพราะมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทย มีความเข้มแข็งมีความยั่งยืน
ส่วนนโยบายด้านการท่องเที่ยวที่เคยให้ไว้ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามารับตำแหน่ง ยังคงส่งเสริมและผลักดันให้บรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งไว้ และสิ่งสำคัญคือการกระจายจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้สู่ชุมชน เมื่อมีนักท่องเที่ยว เยาวชนและคนในชุมชนก็จะมีรายได้ มีงานทำ ไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขและยาเสพติด ขณะที่ด้านกีฬานั้น กระทรวงฯ บูรณาการการทำงานทุกหน่วยงานเพื่อผลักดัน จากกีฬาเพื่อการท่องเที่ยวและสุขภาพที่ดี สู่การเป็นที่หนึ่งในการแข่งขันระดับโลกต่อไป.-สำนักข่าวไทย