รัฐสภา 22 ส.ค.-อดีตผู้สมัครส.ส.พรรคไทยรักษาชาติ ยื่นหนังสือต่อฝ่ายค้าน ให้ตรวจสอบ“พล.อ.ประยุทธ์” กระทำการขัดรัฐธรรมนูญ เรื่องการถวายสัตย์ฯ และ การแถลงนโยบาย กรณี“ชวน” เรื่องไม่จัดให้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อลงมติให้ความเห็นชอบ คนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี
น.ส.อุบลกาญจน์ อมรสิน ประธานกลุ่มองค์กรตรวจสอบการธำรงไว้ซึ่งหลักนิติธรรม และอดีตผู้สมัครส.ส.พรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) ยื่นหนังสือต่อตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยมี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เป็นผู้รับหนังสือ
น.ส.อุบลกาญจน์ กล่าวว่า ประเด็นการเข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ดำเนินการมาไม่ถูกตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือเป็นการกระทำ โดยไม่ชอบของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร หลังจากนั้นการเข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ ก็ขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมายหลายฉบับ กรณีการถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ จากปัญหาดังกล่าว ตนจึงได้ยื่นคำร้องไปยังเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 13 ส.ค. และยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง ให้พิจารณาวินิจฉัยโดยเร่งด่วน
น.ส.อุบลกาญจน์ กล่าวว่า คำร้องที่ยื่นต่อเลขาธิการป.ป.ช.นั้น เป็นเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณของพล.อ.ประยุทธ์ ที่มีทั้งข้อความที่เพิ่มเติมขึ้นมา และการละเว้นข้อความที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญออกไป ซึ่งไม่ตรงตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 161 จึงขอให้ป.ป.ช.ดำเนินการตรวจสอบโดยเร่งด่วน
น.ส.อุบลกาญจน์ กล่าวว่า สำหรับการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางนั้น ตนได้ฟ้องทั้งนายชวนและพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวคือ ในกรณีของนายชวน ไม่จัดให้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อลงมติให้ความเห็นชอบ คนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ก่อนที่จะนำเข้าสู่ การให้ความเห็นชอบของรัฐสภาซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ ส่วนพล.อ.ประยุทธ์นั้น ได้ยื่นคำฟ้อง เป็น 2 เรื่อง คือเรื่องการถวายสัตย์ ขัดรัฐธรรมนูญ และเรื่องการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภามิได้แจ้งแหล่งที่มาของรายได้ที่จะนำมาใช้ในการดำเนินนโยบาย ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 ซึ่งบัญญัติไว้ว่า ต้องชี้แจง แหล่งที่มาของรายได้ ซึ่งเป็นบทบัญญัติ ถึงบทบาทหน้าที่ที่กำชับว่าต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยมิอาจหลีกเลี่ยง หรือแปลความหมาย กลายเป็นอื่นได้
น.ส.อุบลกาญจน์ กล่าวอีกว่า การยื่นคำร้องต่อป.ป.ช และฟ้องไปยังศาลปกครองกลาง ตนกระทำด้วยความสุจริตใจ ไม่มีเจตนาแอบแฝงทางการเมืองใดๆ เมื่อเกิดเป็นประเด็น ขึ้นในสังคม และได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนานา จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีองค์กร สถาบัน มาพิจารณาหรือวินิจฉัยเพื่อชี้ขาด จะได้เกิดข้อยุติ ซึ่งตนหวังว่า ผลที่ออกมาจะทำให้สังคมยอมรับ และความขัดแย้งจะได้คลี่คลายลงไป
ด้านนพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขอรับเรื่องนี้ไว้ แล้วจะรับเข้าสู่การพิจารณาในการทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยจะดำเนินการใน 2 แนวทาง คือ ยื่นกับปปช. เรื่องการเข้าสู่ตำแหน่งของ พล.อ.ประยุทธ์ และยื่นที่ศาลปกครองกลาง ประเด็นการทำหน้าที่ของนายชวน หลีกภัย ในการทำหน้าตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 159 วรรค 2 เพราะผู้ร้องเห็นว่า การทำหน้าที่ของประธานรัฐสภา ต้องถูกดำเนินการตรวจสอบ.-สำนักข่าวไทย