กรุงเทพฯ 21 ส.ค.- อีกแล้ว! นักธุรกิจหนุ่มแจ้งความกองปราบฯ โดนลูกน้องคนสนิท ดำเนินคดียักยอกหวย 30 ล้าน ยืนยันไม่ได้เอาลอตเตอรี่ใครไป ด้าน”อัจฉริยะ” เผยงวดดังกล่าวมีผู้ถูกรางวัลที่ 1 จำนวน30 ล้านเพียงคนเดียว และไปขึ้นเงินแล้วตั้งแต่วันแรกที่ถูก มั่นใจเป็นคดีต้มตุ๋นอย่างแน่นอน
นายถิระวัฒน์ วัฒนวณิชยกุล เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสองสวนกองปราบปราม ในข้อหาแจ้งความเท็จ หลังจากถูกนายสุรสิทธิ์ พลชา แจ้งความกล่าวหายักยอกลอตเตอรี่ ซึ่งถูกรางวัลที่ 1 งวดวันที่ 2 พฤษาคม 2561 จำนวน 5 ใบ มูลค่า 30 ล้านบาท ที่เป็นของตัวเองไปขึ้นเงิน
นายถิระวัฒน์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่จะถูกแจ้งความ นายสุรสิทธิ์ เป็นลูกจ้างในบริษัทฯ แต่ทำงานไม่ค่อยดีจึงเลิกจ้าง และจ่ายค่าสวัสดิการไปครบถ้วนตามกฎหมาย จากนั้นประมาณปลายปี 2561 ได้รับหมายเรียกจากสถานีตำรวจภูธรบางบัวทอง ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาว่ายักยอกทรัพย์ที่เป็นลอตเตอรี่มูลค่า 30 ล้านบาท
จาการตรวจสอบพบว่าก่อนหน้านี้นายสุรสิทธิ์ ก็ไปแจ้งความกล่าวหาที่ สภ.บางศรีเมือง โดยอ้างว่าไปซื้อลอตเตอรี่ที่ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง และมีเจ้าของหอพักเอาลอตเตอรี่ไป แต่เมื่อพนักงานสอบสวนไปตรวจสอบที่ปั้มน้ำมันที่กล่าวอ้าง กลับไม่พบร้านที่ขายลอตเตอรี่ให้ดังกล่าว จากนั้นได้ไปแจ้งความที่ สภ.บางบัวทองต่อ โดยอ้างว่าซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลร่วมกับตน ที่ตลาดนัดรถไฟรัชดา และได้นำไปฝากไว้ที่บ้านในจังหวัดนนทบุรี และเมื่อตรวจพบว่าถูกสลากฉบับดังกล่าวโดยอ้างว่าตนไม่แบ่งเงินให้และได้เข้าแจ้งความ
นายถิระวัฒน์ ยังบอกว่า สาเหตุที่นายสุรสิทธิ์สร้างเรื่องขึ้นมา น่าจะมาจากความไม่พอใจที่ให้ออกจากงาน และต้องการจะทำให้เสียชื่อเสียง เพราะตัวเองประกอบธุรกิจ และที่ผ่านมาก็ไปติดต่องานที่ต่างประเทศบ่อย แต่เมื่อกลับมาที่บ้านเจอหมายศาลทำให้ตกใจ จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายสุรสิทธิ์ ยืนยันด้วยว่าตนเป็นคนไม่ค่อยซื้อลอตเตอรี่บ่อย.
ด้านนายอัจริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ตรวจสอบกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พบว่าผู้ที่ถูกสลากชุดดังกล่าวจำนวน 5 ใบมีเพียงรายเดียวคือผู้หญิงที่พักอยู่ย่านดอนเมือง และไม่พบปรากฏหลักฐานการขึ้นเงินรางวัลของนายถิระวัฒน์ จึงเชื่อได้ว่านายสุรสิทธิ์ สร้างเรื่องขึ้นมากล่าวหานายถิระวัฒน์ ทำให้ขณะนี้การดำเนินคดีอยู่ในชั้นศาลจังหวัดนนทบุรี และจะเริ่มไต่สวนในวันที่ 9 กันยายนนี้ .-สำนักข่าวไทย