ร้อง รมว.สธ.ช่วยคืนอายุราชการ-เงินเดือนเหลื่อมล้ำ

สำนักข่าวไทย 20 ส.ค.-อดีตพนักงานรัฐ สังกัด สธ.กว่า100 คนร้องขอความเป็นธรรม จาก รมว.สธ.ช่วยคืนอายุราชการ,เงินเดือนเหลื่อมล้ำ กับลูกจ้างที่ได้รับการบรรจุในปี 2557 


ตัวแทนชมรมอดีตพนักงานของรัฐในกระทรวงสาธารณสุข (สธ.).  กว่า 100 คน นำโดยนายมานพ ผสม ประธานชมรมอดีตพนักงานของรัฐสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)เดินทางมายื่นหนังสือต่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เพื่อเรียกร้องขอคืนอายุราชการในช่วงที่เป็นพนักงานของรัฐและขอให้แก้ไขเงินเดือนเหลื่อมล้ำ โดยมีนายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ เลขานุการ รมว.สาธารณสุข  , นายเรวัต อารีรอบ ผู้ช่วยเลขารมช.สาธารณสุข และ นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม รองปลัด สธ. เข้ารับเรื่องดังกล่าว พร้อมทั้งได้เข้าหารือร่วมกันเพื่อหาทางออกในการช่วยเหลือบุคลากรกลุ่มนี้จำนวน 24,063 คน  


นายวัชรพงศ์ กล่าวว่า จากการพูดคุยกับพี่น้องบุคลากรที่ได้รับผลกระทบ มีอยู่ 2 เรื่อง คือ 1.สืบเนื่องจากมติ ครม.ปี 2543 ไม่ให้มีการเพิ่มการบรรจุตำแหน่งข้าราชการ บุคลากรกลุ่มนี้จึงต้องเป็นพนักงานของรัฐแทนแต่ต่อ มาในปี 2557 มีมติเยียวยากลุ่มลูกจ้างและพนักงานราชการที่บรรจุใหม่ ทำให้รุ่นน้องได้รับค่าตอบแทนมากกว่ารุ่นพี่ และ 2.ขอให้มีการเยียวยาคืนอายุราชการที่หายไปในช่วง 4 ปีของกลุ่มพนักงานของรัฐ เพื่อให้ได้รับเงินบำเหน็จบำนาญตามสิทธิประโยชน์ของข้าราชการ ซึ่งจากการหารือเรื่องนี้ไม่ใช่แค่กระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องและเป็นอำนาจของกระทรวงการคลัง และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.)  จึงได้มีมติตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อศึกษาทั้ง 2 เรื่อง และหาทางออกเรื่องนี้ โดยมีปลัด สธ.เป็นประธาน 

นพ.ไพศาล กล่าวว่า ประเด็นดังกล่าว ทางกระทรวงฯ มีการติดตามและสอบถามไปทางกระทรวงการคลังและก.พ.หลายครั้ง ล่าสุดก.พ.ทำหนังสือตอบกลับเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2562 ระบุว่าการจะนับอายุราชการจะนับที่เริ่มต้นของการเป็นข้าราชการ ซึ่งจุดนี้เราคงต้องมาหาทางออกว่า จะมีหนทางไหนช่วยเหลือได้บ้าง ส่วนการจะแยกออกจากพ.หรือไม่ ต้องดูว่าผู้บริหารจะมีนโยบายอย่างไร แต่การตั้งคณะกรรมการขึ้นมา ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกที่มีการหารือร่วมกันระหว่างสธ. กระทรวงการคลัง และก.พ.


นพ.กฤษ ใจวงค์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสันติสุข จ.น่าน กล่าวว่า  จากการพูดคุยและได้รับฟังคำตอบก็ดูจะเป็นเรื่องยุ่งยาก และความหวังดูจะริบหรี่ ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะไปให้คำตอบสมาชิกที่มาเรียกร้องวันนี้   เพราะหากพูดถึงระเบียบกฎหมายต่างๆ ก็ค่อนข้างยาก แต่ก็มีความหวังเพียงฝ่ายการเมืองที่จะเข้ามาช่วยเหลือจุดนี้ อย่างไรก็ตามปัญหาที่เกิดขึ้นสะสมมานาน อย่างปัจจุบันเท่าที่ทราบมีแพทย์ที่ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน แต่ติดต่อได้ประมาณ  70 คน ซึ่งก่อนหน้านี้มีแสดงความจำนงว่าอยากลาออกประมาณ 50  เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องขวัญกำลังใจที่หากไม่มีการช่วยเหลือ คงเกิดไหลออกนอกระบบอีกมาก .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่