ปทุมธานี 20 ส.ค.-ปศุสัตว์ปทุมธานีบุกตรวจบ้านย่าน อ.ลาดหลุมแก้ว หลังปรากฏภาพถ่ายสุนัขผอมโซตายคากรง พบเป็นที่เพาะพันธุ์สุนัขเกรทเดนขาย แต่เจ้าของมีปัญหาการเงินและครอบครัว ไม่มีเงินซื้ออาหารเลี้ยงสุนัข ทำให้สุนัขตายไปแล้ว 3 ตัว เหลืออีก 15 ตัว สภาพผอมโซ ขาดสารอาหาร เจ้าหน้าที่เจรจานำไปดูแล ส่วนเจ้าของมีความผิดตาม พ.ร.บ.ทารุณกรรมสัตว์
จากกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพถ่ายสุนัขตายคากรง ฝังไปแล้ว 2 ตัว ยังเหลือสุนัขอีกเป็น 14 ตัว ภายในบ้านหลังหนึ่งย่าน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ปทุมธานี และ น.สพ.ทวีศักดิ์ อนันต์ศิริวัฒนา สัตวแพทย์อาสา Watchdog Thailand เข้าตรวจยึดสถานที่เพาะพันธุ์สุนัขสายพันธุ์เกรทเดน แล้วขายไม่ออก ปล่อยให้อดโซ ที่บ้านหลังหนึ่งภายในซอยคลองขวางล่างตะวันออก 1 ม.7 ต.ลาดหลุมแก้ว อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี
บ้านหลังดังกล่าวบ้านชั้นเดียว บนเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ โดยรอบบ้านมีรั้วลวดหนาวกั้นล้อมรอบ ประตูด้านหน้าปิดล็อกไว้ บริเวณรอบตัวบ้านมีต้นไม้ปกคลุม และได้ยินเสียงสุนัขเห่าตลอดเวลา เจ้าหน้าที่จึงเรียกหาผู้อาศัยอยู่ภายในบ้าน แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับแต่อย่างใด จนกระทั่งเวลา 15.00 น.มีหญิงวัยกลางคนขับรถเก๋งสีดำมาจอดที่หน้าบ้านหลังดังกล่าว จึงทราบว่าเป็นเจ้าของบ้าน เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ก็ไม่ตอบคำถามแต่อย่างใด และให้เพียงเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ เข้าไปตรวจสอบภายในบ้านเท่านั้น โดยไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปเก็บบันทึกภาพแต่อย่างใด
ต่อมาเวลาประมาณ 17.00 น. นายกังวาน ถิรธำรง สัตวแพทย์ชำนาญการ ปศุสัตว์ปทุมธานี ออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หญิงที่ดูแลบ้านและดูแลสัตว์เลี้ยง ประสบปัญหาตกงาน และขาดสภาพคล่องทางด้านการเงิน และมีปัญหากับครอบครัว จึงทำให้ไม่มีเงินสำหรับจะเลี้ยงดูสุนัข ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ทำอาชีพเพาะพันธ์สุนัขพันธุ์เกรทเดนขาย แต่เมื่อสภาพเศรษฐกิจซบเซา จึงทำให้ขายสุนัขไม่ออก ต้องคอยดูแลไว้ภายในกรงภายในบ้าน เมื่อไม่มีเงินซื้ออาหารเลี้ยงสุนัข จึงทำให้สุนัขตายไป 3 ตัว ก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่จะเดินทางมา โดยนำไปฝังกลบดินภายในเนื้อที่บริเวณหลังบ้าน แต่ก็ยังเหลือสุนัขอีกจำนวน 15 ตัว ที่มีสภาพผอมโซ จากการขาดสารอาหาร และมีบางตัวที่เริ่มมีอาการภาวะขาดอาหารมากเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ง่าย จึงได้พูดคุยเจรจากับหญิงเจ้าของสุนัข เพื่อจะดำเนินการนำสุนัขทั้งหมด 15 ตัว ไปเลี้ยงดูสถานเลี้ยงสัตว์ของกรมปศุสัตว์ก่อน เพื่อปรับสภาพร่างกายให้ฟื้นจนดีขึ้น ซึ่งหากเจ้าของมีความสามารถที่จะเลี้ยงดูเองได้แล้ว ก็สามารถนำกลับมาเลี้ยงต่อได้ แต่อย่างไรก็ตาม ทางหญิงคนดังกล่าวถือมีความผิดตาม พ.ร.บ.ทารุณกรรมสัตว์.-สำนักข่าวไทย