fbpx

สั่งย้ายครูตีหัวเด็ก 7 ขวบ เลือดคั่ง

ชลบุรี 19 ส.ค. – สั่งย้ายครูใช้ไม้ตีหัวเด็ก 7 ขวบ จนเลือดคั่ง ไปปฏิบัติที่สำนักกองการศึกษาเมืองพัทยา เจ้าตัวยอมรับวันนั้นมีอารมณ์ก่อนก่อเหตุ เพราะรับผิดชอบนักเรียน 2 ห้อง ต้องเดินไปเดินมา



ความคืบหน้ากรณีครูอายุ 48 ปี ใช้ไม้เคาะศีรษะนักเรียนอายุ 7 ขวบ ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จนศีรษะบอบช้ำเลือดคั่ง ล่าสุดครูคนนี้ถูกย้ายไปปฏิบัติที่สำนักกองการศึกษาเมืองพัทยาแล้ว พร้อมเปิดเผยรายละเอียดในวันเกิดเหตุ


กรณีครอบครัว ด.ญ.จ๊ะจ๋า อายุ 7 ขวบ นักเรียนชั้น ป.2 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา ถูกครูประจำชั้นตีจนได้รับบาดเจ็บและเกิดเป็นกระแสสังคม ล่าสุดวันนี้ (19 ส.ค.62) ครูหญิงคนดังกล่าว วัย 48 ปี ได้เข้าพบรองนายกเมืองพัทยา หลังถูกย้ายให้มาปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักกองการศึกษาเมืองพัทยา ศาลาว่าการเมืองพัทยา โดยมี ผอ.โรงเรียนพัทยาเมือง 5 เดินทางมาด้วย

ครูประจำชั้นคนดังกล่าว เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า วันเกิดเหตุเป็นวันที่ 15 ตนเองรับผิดชอบนักเรียน 2 ห้อง ตอนเกิดเหตุได้ให้ “น้องจ๊ะจ๋า” คิดเลข จากนั้นจึงเดินไปดูอีกห้อง แต่พอกลับมาปรากฏว่า “น้องจ๊ะจ๋า” ยังอยู่ที่หลักหน่วยเหมือนเดิม จึงใช้ไม้เคาะศีรษะและบอกน้องว่า “ทำงานซิลูก” ขณะนั้นยอมรับว่ามีอารมณ์ เพราะต้องเดินไปเดินมา 2 ห้อง จึงใช้ไม้ที่ใช้กดจอโปรเจกเตอร์ตีเข้าไปที่ศีรษะ  แต่มั่นใจว่าตีไม่แรง เป็นการเคาะเบาๆ เพื่อเตือนสติ จากนั้นเพิ่งมาทราบว่ากระหม่อมของ “น้องจ๊ะจ๋า” มันไม่สนิทกัน จึงมีอาการบาดเจ็บเลือดคั่ง ต่อมาจึงพบกับยายของ “น้องจ๊ะจ๋า” และยินยอมรับผิดชอบค่ารักษาทุกอย่าง ยอมรับเสียใจและไม่ได้ตั้งใจ


จากการกระทำดังกล่าวทำให้เมืองพัทยาตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แม้ครูคนดังกล่าวอ้างว่าไม่ได้มีเจตนาทำร้าย แต่ได้พักการสอนและย้ายไปช่วยราชการที่สำนักการศึกษาเมืองพัทยา หากพบว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีความผิด จะต้องดำเนินการทางวินัยต่อไป 

ขณะที่ น.ส.นุชนารถ ตุลาพันธุ์ อายุ 26 ปี แม่ของ “น้องจ๊ะจ๋า” บอกว่าจะดำเนินคดีตามขั้นตอนทางกฎหมาย โดยได้เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยาแล้ว ส่วนคำขอโทษและดูแลค่ารักษาพยาบาล ครอบครัวพอใจในความรับผิดชอบในระดับหนึ่ง แต่บทลงโทษทางกฎหมายต้องเป็นไปตามกระบวนการเพื่อให้เป็นอุทาหรณ์ 

สำหรับอาการของ “น้องจ๊ะจ๋า” หลังเกิดเหตุพบว่า ตา 2 ข้างบวมแดง ศีรษะด้านขวาบอบช้ำจากเลือดคั่ง แพทย์ได้เอกซ์เรย์ 2 รอบ ก่อนให้ยาและตรวจสอบอาการอย่างละเอียด. – สำนักข่าวไทย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ครูตีเด็กหญิงวัย 7 ขวบ หน้าบวม เข้าพบขอขมาผู้ปกครอง

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553