ชุมพร 3 มี.ค. – เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเด็กชาย 1 ขวบ 6 เดือน อยู่กับพ่อและแม่เลี้ยง เลือดคั่งในสมอง ก่อนเสียชีวิต ตำรวจเรียกพ่อและแม่เลี้ยงมาสอบปากคำ ทั้งสองให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ทำร้าย แต่ตำรวจไม่เชื่อ เนื่องจากพบบาดแผลตามร่างกาย และเพื่อนบ้านยืนยันว่าได้ยินเสียงน้องร้องไห้นานมาก
น.ส.วัลภา แก้วสวี พมจ.ชุมพร ลงพื้นที่วัดมุจลินทร์ หมู่ 1 ต.ทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร หลังมีข่าวลือว่ามีเด็กอายุเพียงขวบครึ่ง ถูกคนใกล้ชิดทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต เมื่อไปถึงวัดพบการจัดงานบำเพ็ญกุศลศพเด็กชายอายุ 1 ขวบ 6 เดือน ลูกชายของนางอาพาพอน และนายวิชิต ผู้เป็นพ่อ
น.ส.วัลภา สอบถามรายละเอียดพบว่าเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ เวลา 01.00 น. ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากแพทย์โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ว่า เด็กชายอายุ 1 ขวบ 6 เดือน ได้รับบาดเจ็บ อาการโคม่า จากเลือดคั่งในสมองจำนวนมาก ขอให้รีบไปดูใจ แต่เนื่องจากพักอยู่ที่ จ.สุราฎร์ธานี เมื่อเดินทางไปตอนเช้าพบว่าเด็กชายอายุ 1 ขวบ 6 เดือน เสียชีวิตแล้ว
แพทย์บอกว่าเกิดจากอาการเลือดคั่งในสมอง มาถึงโรงพยาบาลในช่วงดึกของคืนวันที่ 27 กุมภาพันธ์ แพทย์พยายามช่วยชีวิตแต่ไม่ทัน เนื่องจากอาการหนักมาก โดยพ่อของเด็กบอกว่าน้องตกจากที่สูงภายในบ้าน ที่อาศัยกับพ่อ และนางอุ้ม ซึ่งเป็นแม่เลี้ยง
นายวิชิตบอกว่า ตู้ในห้องล้มทับน้อง แต่เมื่อไปดูศพ ส่วนร่างกายบริเวณท้ายทอยพบรอยเขียวช้ำ และหน้าอกก็พบรอยเขียวช้ำ จึงนำศพมาตั้งทำบุญที่วัด ท่ามกลางเสียงเล่าลือของเพื่อนบ้านที่อยู่ห้องพักติดกันกับนายวิชิต ว่าน้องถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก และเสียชีวิต
ด้าน พ.ต.ท.นรินทร์ พุ่มสวัสดิ์ รอง ผกก.สอบสวน รับแจ้งเหตุ จึงเรียกนายวิชิต และนางอุ้ม มาสอบปากคำ ทั้งสองให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ทำร้ายน้อง แต่ตำรวจไม่เชื่อ เนื่องจากบาดแผลตามร่างกาย และเพื่อนบ้านยืนยันว่าได้ยินเสียงน้องร้องไห้หนักและนานมาก จึงได้ให้หน่วยกู้ภัยทุ่งตะโกนำศพส่งโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ เพื่อชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นางอาพาพอน เล่าว่า มีลูกกับนายวิชิต ด้วยกัน 3 คน เป็นชาย 2 หญิง 1 เมื่อ 5 เดือนที่แล้วเลิกกับนายวิชิต ได้แบ่งลูกชาย คือ ด.ช.ฤทธิชัย อายุ 7 ขวบ และเด็กชายอายุ 1 ขวบ 6 เดือน ให้นายวิชิตไปเลี้ยงดู 2 คน ซึ่งนายวิชิตไปมีภรรยาใหม่ คือนางอุ้ม
ส่วนตนมีสามีใหม่ ย้ายไปอยู่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี แต่ก็ได้มาเยี่ยมลูกทั้ง 2 คนบ่อยครั้ง และจะได้ยินเพื่อนบ้านและญาติพี่น้องเล่าให้ฟังว่าลูกชายทั้งสองถูกทำร้ายร่างกายอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากได้ยินเสียงร้องไห้แทบทุกวัน ทั้งกลางวัน กลางคืน และได้ยินเสียงทุบตี ในตอนกลางวันเด็กทั้งสองจะถูกขังแต่เพียงลำพังในห้องพัก มีเพื่อนบ้านสงสารแอบเอาขนมส่งให้ทางช่องประตูอยู่เสมอ จนกระทั่งในคืนวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ได้ยินเสียงทุบตีและเสียงร้องของเด็กทั้งสอง กระทั่งมีรถฉุกเฉินของหน่วยกู้ภัยทุ่งตะโกมารับตัวไปส่งโรงพยาบาลทุ่งตะโก และส่งต่อโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ จนเสียชีวิตในที่สุด.-สำนักข่าวไทย