กทม.19 ส.ค.-ร้องศาลอาญาคดีทุจริตฯ ระบุถูกทหารยศพลเอกข่มขืน หลังร้องตำรวจ-ทบ. ไม่คืบหน้า แถมมีทหารมาข่มขู่ถึงบ้าน
ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นางจอย (นามสมมติ) อายุ 56 ปี อดีตดารานักแสดง มาพร้อมทนายความเพื่อยื่นฟ้อง พล.อ.มีตำแหน่งเป็นระดับผู้บัญชาการกองพลแห่งหนึ่งและผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก รวมทั้งมีตำแหน่งเป็นนายสนามมวย ในข้อหา ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ กักขังหน่วงเหนี่ยว ร่วมกันพาหญิงอื่นไปเพื่อการอนาจารและข่มขืนกระทำชำเรา
นายเมธี ทองเต่าอินทร์ ทนายความ เปิดเผยสาเหตุมายื่นที่ศาลนี้ เนื่องจากตามประกาศคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 ข้อ 2 ระบุว่า เจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยซึ่งมียศตั้งแต่ร้อยตรีขึ้นไป ซึ่ง คสช.แต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่ง จำเลยมียศถึง พล.อ.จึงเข้าข่าย ถามว่าคดีนี้เป็นการล่วงละเมิดทางเพศ ทำไมจึงมาร้องศาลอาญาคดีทุจริตฯที่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ นายเมธี ชี้แจงว่า ข้อกฎหมายตรงนี้อยู่ในบรรยายฟ้องขอปิดไว้ก่อน แต่มีข้อสังเกตว่าผู้กระทำผิดอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ราชการ ถือเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ ที่ผ่านมาเคยไปยื่นฟ้องศาลอาญา แต่ทางศาลอาญาแจ้งว่าให้มายื่นต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ จึงมายื่นฟ้องก่อนหน้านี้ และวันนี้มายื่นแก้ไขเพิ่มเติม เนื่องจากบรรยายฟ้องไม่สมบูรณ์ ซึ่งศาลนัดฟังคำสั่งว่าจะรับคำฟ้องไว้เพื่อไต่สวนมูลฟ้องหรือไม่วันพรุ่งนี้ (20 ส.ค.)
“คดีนี้ที่สำคัญคือ ผู้เสียหายไปยื่นขอความช่วยเหลือต่อกองทัพบก ซึ่งรับเป็นหนังสือแล้ว แต่คดีไม่คืบ อยากฝากถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่เป็น รมว.กลาโหม ให้ช่วยดูแลผู้เสียหายรายนี้ เพราะเป็นเรื่องที่ทหารกระทำกับประชาชน ในขณะที่ คสช.กุมอำนาจ”ทนายความกล่าว
ด้านนางจอย เล่าว่า รู้จักนายพลคนดังกล่าวเนื่องจากไปขอความช่วยเหลือในยุค คสช.เกี่ยวกับเรื่อง 3 แม่ลูกและตนจะโดนอุ้ม ได้รู้จักกับผู้ก่อเหตุเสมือนพี่น้องโดยเชื่อใจ จึงไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องขึ้น ก่อนหน้านี้ตนไปแจ้งความร้องทุกข์ จนตำรวจยื่นฟ้องไปที่ศาลทหารแต่คดีก็เงียบ ตนเคยไปยื่นร้องที่กองทัพบกเรื่องก็ไม่คืบ กลับโดนบอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ทั้งที่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว มีการเคลื่อนย้ายกำลังทหารมาที่หน้าบ้าน ซึ่งเป็นการข่มขู่คุกคามกักขังหน่วงเหนี่ยว กระทั่ง 2 วันที่แล้วก็มีรถมาที่หน้าบ้าน ซึ่งบ้านตนมีกล้องวงจรปิดได้บันทึกภาพไว้แล้ว คดีนี้ล่วงเลยมาเกินปี ไม่มีความคืบหน้า ถามตำรวจก็เงียบ บางครั้งก็โดนข่มขู่ด้วย เราก็เพิ่งทราบว่ากองปราบ ไม่รับเรื่องและไม่ทราบเหตุผลด้วย
นางจอย กล่าวด้วยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงปี 2560 ทั้งที่มีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับนายพลคนดังกล่าว แต่ปัจจุบันนายพลคนดังกล่าวซึ่งขณะนั้นยศพลตรี ตอนนี้กลับได้เลื่อนเป็นพลเอก มีหน้ามีตาในสังคม แต่ตนกลับต้องทุกข์ทรมานโดนกดดันข่มขู่ ก่อนหน้านี้ไปตามคดี ก็มีตำรวจที่เป็นหนึ่งในผู้ทำคดีที่เขาอึดอัด เล่าให้ฟังว่ามีการใช้อิทธิพลเข้ามาแทรกแซง โดยคนที่ทำคดีของตนถ้าทำแล้วเกิดแง่บวกกับผู้ก่อเหตุ ก็จะได้เลื่อนยศ 2 ขั้นแต่ถ้าทำคดีเป็นทางลบกับนายพลคนดังกล่าว ก็จะถูกย้าย ตนหวังจะได้รับความเป็นธรรมจากศาลฯจึงมายื่นฟ้อง.-สำนักข่าวไทย

