กทม.ลุยพัฒนาทางเท้า-ทางจักรยานเลียบแสนแสบ

7 ก.ค. – กทม. ลุยพัฒนาทางเท้า-ทางจักรยานเลียบแสนแสบ ระยะทาง 47.5 กิโลเมตร จากพระนครถึงหนองจอก ส่งเสริมคนกรุงเทพฯ เดิน-ปั่น เชื่อมระบบขนส่งสาธารณะแบบไร้รอยต่อ เรือ รถเมล์ รถไฟฟ้า


นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำทีมสื่อมวลชนสัญจร ลงพื้นที่ทางเดินเลียบคลองแสนแสบ ท่าเรือวัดใหม่ช่องลม – ท่าเรือ มศว ประสานมิตร แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการส่วนขยายจุดเชื่อมต่อเส้นทางจักรยานเลียบคลองแสนแสบ ที่มีเป้าหมายในการเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกในการเดินทางของประชาชนตลอดแนวคลองแสนแสบ รวมถึงส่งเสริมการใช้จักรยานและการเดินเท้าเป็นทางเลือกในการสัญจรในเมืองอย่างยั่งยืน โดยมี นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ นายสมบัติ เครือกีรติธรรม ผู้อำนวยการเขตห้วยขวาง นายนิพนธ์ ศรีเรือง ผู้อำนวยการกองระบบคลอง สำนักการระบายน้ำ สำนักงานจัดการคุณภาพน้ำ สำนักการระบายน้ำ ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล

รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการทางเดินและทางจักรยานเลียบคลองแสนแสบ โดยคลองแสนแสบมีความยาวทั้งหมด 47.5 กิโลเมตร ตามนโยบายนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ต้องการพัฒนาทางเดินเลียบคลองต่าง ๆ ให้เดินได้สะดวก ถ้าปั่นจักรยานได้ก็จะเป็นทางเลือกในการเดินทางอีกอันที่ดี ซึ่งคลองแสนแสบเป็นคลองที่มีความสำคัญ เป็นคลองสายหลักที่ใช้เราใช้ระบายน้ำและใช้สัญจร ทั้งนี้ จะทำอย่างไรให้การสัญจรจากท่าเรือไปที่บ้านเรือน สถานที่ต่าง ๆ สะดวกมากขึ้น ทางจักรยานก็เป็นทางเลือกหนึ่ง จากการพัฒนาทางเดินเลียบคลองแสนแสบเป็นนโยบายที่ทำมาต่อเนื่อง รวมความยาวที่ต้องดำเนินการทั้ง 2 ฝั่ง 95 กม. ทำแล้ว 60 กม. อยู่ระหว่างการก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จภายในปี 68 นี้ ความยาว 4.7 กม. ได้งบประมาณแล้วปี 2568 อยู่ระหว่างการหาตัวผู้รับจ้างความยาวประมาณ 12 กม. ส่วนที่เหลือที่จะทำให้ครบตลอดแนวคลองแสนแสบคือจากผ่านฟ้าลีลาศถึงเขตหนองจอก (สุดเขตกรุงเทพมหานคร) ก็จะดำเนินการของบประมาณต่อไป และเส้นทางสายหลักด้านในจะทำให้ครบและจบภายในปี 2569


รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกัน เรื่องคุณภาพน้ำ เราดำเนินการสร้างระบบบำบัดน้ำเสียเพิ่มเติมขึ้นมา จากเดิมที่คุณภาพคลองแสนแสบน้ำได้ระดับหนึ่ง แต่ทำให้ดีกว่าเดิมได้ โดยเก็บน้ำเสียจากทั้ง 2 ฝั่ง จากเขตวัฒนาและเขตห้วยขวางลงสู่โรงบำบัดน้ำเสียส่วนกลางที่เขตดินแดง นอกจากนี้ ด้านการพัฒนาเราพยายามออกแบบให้เป็นไปตามหลัก Universal Design ให้ได้มากที่สุด ทางเดินเลียบคลองจะมีคูน้ำหรือคลองย่อย ก็ดำเนินการทำสะพานและทำทางลาดที่ทำให้รถเข็นและจักรยานสามารถใช้งานได้ โดยมอบหมายให้สำนักการระบายน้ำแก้ไขปรับปรุงสะพานข้ามคลองย่อยต่าง ๆ ให้เป็นมิตรต่อการเดินทาง และทุกทางเดินริมคลองไม่ใช่เฉพาะริมคลองแสนแสบ เรื่องไฟฟ้าแสงสว่างเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินการควบคู่กันไปตามนโยบาย ‘กรุงเทพฯ ต้องสว่าง’ รวมถึงจะมีการติดตั้งกล้อง CCTV เพิ่มเติมซึ่งอยู่ระหว่างการขอรับงบประมาณ เพื่อทำให้ประชาชนมั่นใจว่าสามารถใช้เส้นทางนี้ได้อย่างปลอดภัย

“ต้องขอบคุณสำนักงานเขต เพราะต้องเป็นผู้ลงพื้นที่ขอความร่วมมือกับชุมชนที่อยู่ 2 ฝั่งริมคลอง พร้อมทำความเข้าใจว่าการพัฒนาครั้งนี้จะทำให้คุณภาพชีวิตของคนในชุมขนดีขึ้น และแม้ในระหว่างการก่อสร้างจะเผชิญกับอุปสรรคบ้าง เนื่องจากคลองแสนแสบเป็นทั้งคลองที่ใช้ในการระบายน้ำและเส้นทางสัญจรที่มีเรือจำนวนมาก อีกทั้งริมคลองยังเป็นพื้นที่ชุมชนมีผู้อาศัยเป็นจำนวนมากที่อาจได้รับผลกระทบจากเสียงดังระหว่างการทำงาน กรุงเทพมหานครได้วางแผนและประสานงานอย่างใกล้ชิดกับทุกภาคส่วน เพื่อจำกัดความเดือดร้อนและผลกระทบต่อประชาชนให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

สำหรับโครงการส่วนขยายจุดเชื่อมต่อเส้นทางจักรยานเลียบคลองแสน มีจุดมุ่งหมายหลักในการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ และลดปัญหาน้ำเน่าเสียในคลองแสนแสบควบคู่ไปกับการก่อสร้างทางเดินและทางจักรยาน ตั้งแต่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศไปจนถึงเขตหนองจอก ปลายสุดของกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้เป็นเส้นทางสัญจรได้อย่างสะดวกและปลอดภัย โดยที่ผ่านมา กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็ก (ค.ส.ล.) พร้อมทางเดินและทางจักรยานแล้วเสร็จรวมระยะทางประมาณ 60,380 เมตร


ในส่วนของการดำเนินงานในปัจจุบัน อยู่ระหว่างการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. และทางเดินพร้อมทางจักรยาน ความยาวประมาณ 4,720 เมตร ประกอบด้วย งานปรับปรุงขยายเขื่อน ค.ส.ล. คลองแสนแสบจากบริเวณถนนพระรามที่ 6 ถึงบริเวณสะพานเฉลิมหล้า โครงการก่อสร้างเขื่อนและปรับปรุงเขื่อน ค.ส.ล. คลองแสนแสบจากบริเวณทางด่วนเฉลิมมหานครถึงประตูระบายน้ำคลองตัน และโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำและประตูเรือสัญจรคลองแสนแสบตอนคลองบางชัน

ขณะเดียวกัน กรุงเทพมหานครยังอยู่ระหว่างการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อดำเนินการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. และทางเดินพร้อมทางจักรยาน ความยาวประมาณ 12,700 เมตร ในสองช่วง ได้แก่

  1. โครงการก่อสร้างเขื่อนและปรับปรุงเขื่อน ค.ส.ล. คลองแสนแสบจากบริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศถึงบริเวณทางด่วนเฉลิมมหานคร
  2. โครงการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. พร้อมระบบรวบรวมน้ำเสียคลองแสนแสบ (ระยะที่ 1) จากบริเวณซอยรามคำแหง 185 ถึงบริเวณซอยราษฎร์อุทิศ 37

นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครยังมีแผนดำเนินการในระยะถัดไป โดยจะดำเนินการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. และทางเดินพร้อมทางจักรยาน ความยาวประมาณ 17,200 เมตร แบ่งออกเป็นสองโครงการสำคัญ ได้แก่

  1. โครงการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. พร้อมระบบรวบรวมน้ำเสียคลองแสนแสบ (ระยะที่ 2) จากบริเวณซอยราษฎร์อุทิศ 37 ถึงซอยเลียบวารี 32
  2. โครงการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. พร้อมระบบรวบรวมน้ำเสียคลองแสนแสบ (ระยะที่ 3) จากซอยเลียบวารี 32 ถึงถนนเชื่อมสัมพันธ์

โครงการ “ทางเท้าเลียบคลองพร้อมเลนจักรยาน” ถือเป็นนโยบายสำคัญของกรุงเทพมหานคร ภายใต้แผนพัฒนา “เดินได้ ปั่นปลอดภัย” ที่ริเริ่มจากเขตพระนครถึงเขตหนองจอก โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาพื้นที่ริมคลองแสนแสบและคลองสายรองในเขตเมืองให้เป็นเส้นทางสำหรับการเดินเท้าและปั่นจักรยานอย่างปลอดภัย ครอบคลุมระยะทางรวมกว่า 47,500 เมตร หรือประมาณ 47.5 กิโลเมตร โดยในช่วงต้นของโครงการ ได้ดำเนินการก่อสร้างทางเท้าควบคู่กับแนวเขื่อนริมคลอง พร้อมติดตั้งระบบไฟส่องสว่าง กล้องวงจรปิด และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้งานได้ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยมีจุดเริ่มต้นที่เขตพระนครถึงเขตหนองจอก และแผนขยายต่อไปยังพื้นที่อื่น ๆ เช่น ลาดพร้าว พร้อมพงษ์ ท่าพระ และสามยอด เพื่อเชื่อมโยงกับระบบขนส่งสาธารณะ อาทิ รถไฟฟ้า MRT เรือ และ BTS ได้อย่างสะดวก ตั้งเป้าโครงการแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2570 เพื่อสร้างเมืองที่ประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และมีสุขภาวะที่ดีในระยะยาว

หลังจากการให้ข้อมูล เกี่ยวกับแผนการพัฒนาส่วนขยายจุดเชื่อมต่อเส้นทางจักรยานเลียบคลองแสนแสบ เพื่อให้ได้เห็นภาพมากขึ้น รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่เดินเลียบคลองแสนแสบ ท่าเรือวัดใหม่ช่องลม – ท่าเรือ มศว ประสานมิตร แขวงบางกะปิ ที่ถือเป็นหนึ่งในจุดยุทธศาสตร์สำคัญของเส้นทางริมน้ำในเขตกลางเมืองกรุงเทพฯ ไม่เพียงแต่ตั้งอยู่ใกล้กับย่านชุมชนแน่นหนาและสถาบันการศึกษาสำคัญอย่างมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เท่านั้น แต่ยังเป็นจุดที่มีการสัญจรทางเรือหนาแน่นและเชื่อมต่อกับพื้นที่เศรษฐกิจและที่อยู่อาศัยหลากหลายรูปแบบ
โดยเส้นทางนี้ได้รับการพัฒนาให้เป็น ทางเดินเท้าและทางจักรยานเลียบคลอง ที่มีความปลอดภัยและเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน โดยมีการปรับปรุงผิวทางเดินให้เรียบเสมอ ติดตั้งราวกันตกในจุดเสี่ยง เพิ่มแสงสว่างตลอดเส้นทาง และจัดให้มีทางลาดสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ใช้รถเข็น สามารถใช้งานร่วมกันได้โดยไม่ถูกรบกวนจากการจราจรบนถนนหลัก

อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ที่มีความเงียบสงบกว่าพื้นที่ถนนภายนอก ทำให้เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจในช่วงเช้าและเย็น ประชาชนในพื้นที่จำนวนมากใช้เส้นทางนี้เป็นทางลัดระหว่างบ้าน ที่เรียน หรือที่ทำงาน และยังนิยมใช้ในการออกกำลังกาย เช่น เดิน วิ่ง หรือปั่นจักรยาน โดยเฉพาะนักศึกษาและบุคลากรของ มศว ที่สามารถเดินเชื่อมถึงท่าเรือได้อย่างสะดวก

ตลอดการดำเนินโครงการ กรุงเทพมหานครได้เปิดโอกาสให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการออกแบบพื้นที่ จุดเชื่อมต่อ ทางลาด ทางข้าม และพื้นที่พักผ่อนต่าง ๆ ตลอดแนวคลอง เพื่อให้เกิดการใช้งานจริงอย่างยั่งยืน โดยมีการประเมินผลตอบรับจากพื้นที่นำร่อง พบว่าประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกถึงความปลอดภัยและความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้นจากโครงสร้างทางเท้าและเลนจักรยานที่มีการจัดสรรอย่างเป็นระบบ. -417-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

“ลูกหมี” นำ สส.ชุมพร-อบจ.ชุมพร-ทีมพลังชุมพร ซบพรรคภูมิใจไทย

พรรคภูมิใจไทย 17 ก.ย.-“ลูกหมี” นำ สส.ชุมพร-อบจ.ชุมพร-ทีมพลังชุมพร ซบพรรคภูมิใจไทย มั่นใจพรรคนำพาประเทศเดินไปข้างหน้า ไม่หวังประโยชน์ส่วนตัว แจงไม่ขัดแย้งกับ รทสช. ชี้เป็นเรื่องภายในพรรค ด้าน “พิพัฒน์” ตั้งเป้ากวาดที่นั่งภาคใต้มากขึ้น พร้อมเดินหน้าแลนด์บริดจ์ นายชุมพล จุลใส นำ นายวิชัย สุดสวาสดิ์ และนายสุพล จุลใส 2 สส.ชุมพร พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดตัวเตรียมร่วมงานที่พรรคภูมิใจไทย รวมถึง นายนพพร อุสิทธิ์ นายก อบจ.ชุมพร ที่นำทีมพลังชุมพร 27 คน สมัครเป็นสมาชิกพรรค โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ให้การต้อนรับและสวมเสื้อพรรคภูมิใจไทยให้กับ นายก อบจ. นายศุภชัย กล่าวว่า วันนี้เป็นเกียรติอย่างยิ่งได้ต้อนรับ คณะจากจังหวัดชุมพร ที่มาให้กำลังใจนายอนุทินโดย ได้รับการยืนยันว่า จะร่วมกันพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ให้แข็งแกร่งเติบโต และมีความเจริญขึ้น โดยการนำของนายอนุทินและพรรคภูมิใจไทย ขอบคุณที่ให้โอกาสภาคภูมิใจไทยได้ไปร่วมทำงานกับพี่น้องจังหวัดชุมพร ทุกคนมีเจตจำนงที่จะสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งในสมัยต่อไป นายชุมพล กล่าวว่า ตนขอพูดในนามส่วนตัวว่ามีความมั่นใจว่าพรรคภูมิใจไทยสามารถนำพาประเทศไปได้และทำทุกอย่างให้ประเทศมีความมั่นคงให้ประเทศเดินไปข้างหน้า […]

วางระเบิด-ยิงซ้ำ ทหารพรานบาดเจ็บ 4 นาย

นราธิวาส 17 ก.ย.-คนร้ายลอบวางระเบิด-ยิงซ้ำ เจ้าหน้าที่ทหารพรานบาดเจ็บ 4 นาย ขณะลาดตระเวนเส้นทางในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เมื่อเวลา 07.53 น. วันที่ 17 กันยายน 2568 เกิดเหตุลอบวางระเบิดและมีการยิงซ้ำ บริเวณบ้านบือราแง ม.3 ตำบลโต๊ะเด็ง อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส ขณะที่เจ้าหน้าที่อาสาสมัครทหารพรานหน่วย ฉก.ทพ.48 กำลังออกลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยเส้นทาง เบื้องต้นมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ได้แก่ 1.จ่าสิบเอก ปิยะ อินทะโกษี ได้รับบาดเจ็บแน่นหน้าอกจากแรงระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่บริเวณป้อมปืน2.อส.ทพ.สุริยาวุธ ช่างเกวียนดี ได้รับบาดเจ็บภายในรถ ไม่สามารถขยับออกมาได้ ต้องใช้รถกู้ภัยเข้าช่วยเหลือ แต่ยังมีสติ3.อส.ทพ.ตะวัน สว่างเมฆารัตน์ พลขับ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย มีสติ4.อส.ทพ.ธีระพงษ์ พรมพัด ซึ่งนั่งอยู่ภายในรถ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย มีสติ ทั้ง 4 นายถูกนำส่งโรงพยาบาลสุไหงปาดี เพื่อทำการรักษาและตรวจอาการเพิ่มเติม ภายหลังเหตุการณ์ ผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยและความเข้มงวดในการปฏิบัติการวิทยุสื่อสาร (ว.4) โดยเฉพาะฐานที่ตั้ง […]

ทนายวัดนาป่าพง แจงปมโอนเงินไปเยอรมนี ยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ

16 ก.ย. – ทนายวัดนาป่าพง แจงยิบไทม์ไลน์โอนเงิน 12 ล้าน ไปให้สีกาที่เยอรมนี ยืนยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ หวังเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่ใช่เสน่หาหรือยักยอกเงินวัด เชื่อเป็นขบวนการล้มพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ความคืบหน้าการตรวจสอบพระวัดดังใน จ.ปทุมธานี หลังมีการแจ้งความกองปราบฯ ให้ตรวจสอบปมเงินบริจาควัดที่มีการโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงปล่อยคลิปลักษณะที่ใกล้ชิดกับสีกาในร้านเครื่องประดับ วันนี้ (16 ก.ย.) นายนันทน อินทนนท์ และคณะทนายความของวัดนาป่าพง ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงประเด็นต่างๆ โดยมี อ.เบียร์ คนตื่นธรรม พระลูกวัด และศิษยานุศิษย์ของวัด มาร่วมฟังคำแถลงข่าวอีกเป็นจำนวนมาก ในส่วนของคลิปกับสีกาในร้านเครื่องประดับในต่างประเทศ ทนายความยืนยันว่าสีกาคนดังกล่าวเป็นโยมอุปัฏฐาก ที่ทำหน้าที่ดูแลพระอาจารย์คึกฤทธิ์ และดูแลช่องทางการสื่อสารของวัด คือพุทธวจนเรียล อย่างเปิดเผยตั้งแต่แรก แต่คลิปวิดีโอที่ถูกนำมาเผยแพร่พยายามเชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างสีกาคนดังกล่าวกับพระอาจารย์คึกฤทธิ์ เป็นการตัดต่อที่ตั้งใจให้เกิดความเข้าใจผิด แจงไทม์ไลน์ยิบ โอนเงินไปต่างประเทศใช้ก่อตั้งมูลนิธิส่วนกรณีมีการโอนเงินจากพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ไปยังสีกาที่เยอรมนี ทีมทนายความยอมรับว่าเอกสารต่างๆ ที่เผยแพร่ในสื่อ เป็นเอกสารที่ทางวัดยื่นต่อศาลที่เยอรมนี ไม่ใช่เอกสารที่ต้องปิดบัง สามารถเปิดเผยได้ เพราะไวยาวัจกรเป็นผู้โอนเงินเอง พร้อมชี้แจงว่าเป็นการโอนเงินเพื่อไปสร้างวัดและมูลนิธิที่ประเทศเยอรมนี โดยไล่เรียงไทม์ชี้แจงอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่ปี 2561 พระอาจารย์คึกฤทธิ์ ต้องการเผยแพร่คำสอนในต่างประเทศ หนึ่งในวิธีการคือการจัดตั้งวัดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเยอรมนีมีลูกศิษย์ของวัดจำนวนมาก […]

รวบบัญชีม้ายกแก๊ง ตระเวนถอนเงินให้คอลเซ็นเตอร์จีนเทา

16 ก.ย. – จับยกแก๊งบัญชีม้า 7 คน ตระเวนถอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทา ยึดเงินสดกว่า 5 แสนบาท สารภาพได้ค่าจ้างล้านละ 7,000 บาท เงินที่หลอกผู้เสียหายถูกถ่ายโอนไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์นอกประเทศแล้วไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท นายเอกชัย เจ้าของบัญชีม้า พร้อมหญิงสาวทำหน้าที่ประสานงานถอนเงิน ถูกตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมได้บริเวณหน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ก่อนขยายผลจับกุมนายศรัณย์พงศ์ และนางสาวนันท์ธนัษฐ์ 2 คนไทย ทำหน้าที่ควบคุมเจ้าของบัญชีม้า และผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ที่นั่งรอในรถกระบะ นายคิโอ ชาวลาว หัวหน้าแก๊งที่ถอนเงินให้จีนเทาเครือข่ายคิงส์โรมันฝั่งลาว พร้อมยึดของกลางเงินสดกว่า 5 แสนบาท สมุดบัญชีเงินฝากอีก 1 เล่ม กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์วนเวียนถอนเงินสดจากธนาคารหลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันทุจริต หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันเป็นอั้งยี่ เตรียมรวบรวมหลักฐานขยายผลถึงบอสชาวจีน พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค […]