กระทรวงคมนาคม 19 ส.ค.-กระทรวงคมนาคมชี้แจงข้อมูลที่ระบุรถตู้โดยสารคันเกิดอุบัติเหตุชนกับรถบรรทุก18
ล้อตัดสัญญาณ GPS
ก่อนเกิดอุบัติเหตุ เป็นข้อมูลคลาดเคลื่อน
ยืนยันสัญญาณมีอย่างต่อเนื่อง เตือนหากพบรถขนส่งตัดสัญญาณ จะถูกแจ้งความดำเนินคดี
ถูกพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขนส่งทันที
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองปลัดกระทรวงคมนาคม
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง กล่าวว่าได้รับมอบหมายจาก นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง เกี่ยวกับการเสนอข่าวคลาดเคลื่อน
กรณีอุบัติเหตุรถตู้โดยสารเช่าเหมารับแรงงานต่างด้าว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18
สิงหาคม 2562 เวลาประมาณ 04.08 น. ว่าพบการตัด GPS ไม่เป็นความจริง
โดยศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบ GPS กรมการขนส่งทางบก
ได้ตรวจสอบและประสานงานกับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานขนส่งจังหวัดสระแก้วแล้ว
พบว่ารถตู้เช่าเหมาคันหมายเลขทะเบียน 34-0405 กรุงเทพมหานคร ติดตั้ง GPS กับ บริษัท ไทยจีพีเอส แทรกเกอร์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด
มีการส่งข้อมูลต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นทางโดยไม่พบการตัดสัญญาณ GPS ความเร็วก่อนเกิดเหตุ คือ เวลา 04.08.33 น. ความเร็ว 85 กม./ชม.
ส่วนความเร็วในระหว่างขับขี่ เวลา 04.08.31 น. ความเร็ว 85 กม./ชม. เวลา 04.07.35
น. ความเร็ว 70 กม./ชม.
ด้านรถบรรทุกพ่วง คันหมายเลขทะเบียน 70-1234 อุตรดิตถ์ ติดตั้ง GPS กับ บริษัท ฟอร์ทแทร็คกิ้ง
ซีสเต็ม จำกัด ความเร็วก่อนเกิดเหตุ คือ ความเร็ว 48 กม./ชม.เวลา 04.06.39 น.
ความเร็ว 44 กม./ชม. เวลา 04.04.39 น. ความเร็ว 37 กม./ชม. ไม่พบการตัดสัญญาณ GPS
โดยกรมการขนส่งทางบกได้มอบหมายให้สำนักงานขนส่งจังหวัดสระแก้วร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและติดตามผลทางคดีอย่างใกล้ชิด
หากพบว่ามีการกระทำผิดตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกจะได้พิจารณาลงโทษ
ในทุกกรณีความผิดต่อไป
สำหรับการเสนอข่าวคลาดเคลื่อนน่าจะเป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่
ได้กำชับให้กรมการขนส่งทางบก ซักซ้อมและควบคุมการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการติดตามข่าวสารและการรายงานเหตุการณ์ต่างๆ
ที่เกิดขึ้นซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของหน่วยงาน
โดยเฉพาะการรายงานข้อมูลการคาดเดาหรือการสันนิษฐานที่ยังไม่ชัดแจ้ง
หรือไม่มีการตรวจพิสูจน์ที่ชัดเจน ต้องตรวจสอบอย่างรอบด้าน เพื่อป้องกันความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวอีกว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
กำชับให้กรมการขนส่งทางบกเข้มงวดมาตรการติดตามตรวจสอบรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุกอย่างใกล้ชิด
เพื่อควบคุมพฤติกรรมการขับรถให้มีความปลอดภัยและรายงานให้ผู้ประกอบการได้ทราบ และขอให้ผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถสาธารณะทุกประเภทและพนักงานขับรถทุกคนปฏิบัติตามเงื่อนไขการเดินรถ
โดยห้ามบรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่กำหนด ห้ามเรียกค่าโดยสารเกินอัตราที่กำหนด
สภาพรถต้องมีความพร้อม มีความปลอดภัยในการใช้งานบนท้องถนน พนักงานขับรถต้องไร้สารเสพติด
แอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์และขับรถไม่เกินชั่วโมงการทำงานตามที่กฎหมายกำหนดพบฝ่าฝืนลงโทษหนักทุกกรณี
และหากพบมีการใช้อุปกรณ์ตัดสัญญาณทำให้ข้อมูลพิกัดตำแหน่งเคลื่อนที่ของรถไม่สามารถส่งข้อมูลมายังศูนย์ฯ
GPS ได้
จะแจ้งความดำเนินคดี ทั้งพนักงานขับรถและผู้ประกอบการ
กรณีที่พบว่าผู้ประกอบการขนส่งรายใดมีพฤติกรรมรู้เห็นเป็นใจสนับสนุนการกระทำความผิดดังกล่าวพิจารณาพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการขนส่งทันที-สำนักข่าวไทย