สระแก้ว 18 ก.ค.-ความคืบหน้าเหตุ รถตู้ป้ายเหลือง ชนกับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ที่บริเวณถนน 317 สาย สระแก้ว-จันทบุรี อำเภอวังสมบูรณ์ จังหวัดสระแก้ว เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 11 ราย รวมคนขับรถตู้ด้วย และ บาดเจ็บ 4 ราย เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมตัวแทน บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถเข้าเยี่ยมอาการผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว โดยนายวิชิตได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ดูจุดเกิดเหตุ และป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำอีก พร้อมดูแลผู้บาดเจ็บ จากเหตุดังกล่าวอย่างเต็มที่ตามหลักมนุษยธรรม
สำหรับผู้บาดเจ็บ 4 ราย รักษาตัวที่ รพ. สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว 3 ราย โดย 2 ใน 3 อาการสาหัส ต้องผ่าตัดเนื่องจากสมองถูกกระทบกระเทือนอย่างแรง ส่วนคนขับรถพ่วง อีก 1 ราย รักษาตัวที่ รพ.วังสมบูรณ์ ขณะที่ผู้เสียชีวิต ทั้ง 11 ราย เก็บรักษาอยู่ที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ซึ่งจะได้ประสานญาติให้มารับไปบำเพ็ญกุศล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ด้านพ.ต.อ.ชัยธนันท์ จิรปิยเศรษฐ์ ผู้กำกับการ สภ.วังสมบูรณ์ เปิดเผยความคืบหน้าคดีว่า หลังลงพื้นที่ตรวจสอบอุบัติเหตุเชื่อว่า คนขับรถตู้เกิดอาการหลับใน เนื่องจากช่วงเกิดเหตุ 04.00 น. คนขับอาจอ่อนเพลียและง่วง ทำให้วูบหลับได้ รถตู้คันดังกล่าว รับแรงงานชาวลาวจากกรุงเทพฯ เพื่อพาไปทำเรื่องต่ออายุวีซ่าที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ส่วนการสอบปากคำคนขับรถบรรทุก ทราบว่าขับรถบรรทุกเมล็ดข้าวโพดออกจากพื้นที่ เพื่อจะนำไปส่งที่ จ.ชลบุรี เมื่อขับมาถึงจุดเกิดเหตุ รถตู้คันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็วส่ายไปมาจนกระทั่งเสียหลักมาชนกับรถบรรทุก ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว
ที่ผ่านมาได้ประสานกับกรมทางหลวงและผู้รับเหมาก่อสร้าง ให้ติดป้ายเตือนการจราจร และจุดที่เกิดเหตุ แต่ส่วนหนึ่งผู้ขับขี่เองจะต้องช่วยระมัดระวังด้วย ส่วนถนนที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวง ได้นำทรายมาสาดบนถนนเพื่อดูดซับคราบน้ำมัน และฉีดล้างถนน เพื่อให้ประชาชนใช้เดินทางได้ตามปกติ
ด้านนายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ กล่าวว่าเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความสูญเสียครั้งใหญ่ มีผู้เสียชีวิตสูงถึง 11 ราย เรื่องนี้ต้องไปดูว่ามีป้ายสัญญาณเตือน ไฟส่องสว่างเห็นชัดหรือไม่ หรือคนขับรถตู้มีอาการหลับใน พร้อมฝากถึงกระทรวงคมนาคมผู้ซึ่งรับผิดชอบดูแล ทั้งมาตรฐานรถ มาตรฐานคน และมาตรฐานถนน ว่ามาตรการที่ออกมารองรับดีพอหรือยัง ก่อนที่จะอนุญาตให้รถวิ่งความเร็วเพิ่ม 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง และขอให้ทบทวนมาตรการที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่า ได้บังคับใช้จริงจังแล้วหรือไม่ รวมถึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสืบค้นหาความจริงจะได้เร่งหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย สร้างความสูญเสียอีกต่อไป นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอให้รัฐบาลพิจารณาระบบการต่อวีซ่าแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย ด้วยการใช้เทคโนโลยีระบบออนไลน์ ควรยกเลิกระบบแบ่งเขตแดนต่ออายุวีซ่า เพราะระบบออนไลน์สามารถลดความเสี่ยงอุบัติเหตุ จากการเดินทางที่เร่งรีบเดินทางไปต่อวีซ่าได้.-สำนักข่าวไทย