ดินแดง15 ส.ค.-รมว.แรงงาน กำชับหน่วยงานในพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต-ผู้ประสบเหตุ ขาดอากาศหายใจขณะลงไปซ่อมบ่อบำบัดน้ำเสียในโรงงานผลิตน้ำยาง ที่ จ.สงขลา ตามสิทธิประโยชน์ที่กฎหมายกำหนด
ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า มีความห่วงใยแรงงานที่ประสบเหตุเสียชีวิต เนื่องจากขาดอากาศหายใจขณะลงไปซ่อมแซมบ่อบำบัดน้ำเสียภายในโรงงานผลิตน้ำยางข้นที่ จ.สงขลา เป็นเหตุให้เสียชีวิต 3 รายและอาการสาหัส 1ราย ขณะนี้ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โดยได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯในจ.สงขลาเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือครอบครัวลูกจ้างที่เสียชีวิตและได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย
จากการตรวจสอบ พบว่า สถานที่เกิดเหตุเป็นที่ตั้งของบริษัท ทัทวิน จำกัด ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 574/1 ม.5 ต.พังลา อ.สะเดา จ.สงขลา ประกอบกิจการผลิตน้ำยางข้น มีลูกจ้าง290 คน ได้ว่าจ้างบริษัท สิ่งแวดล้อมภาคใต้ จำกัด เพื่อปรับปรุงบ่อบำบัดน้ำเสีย ในวันเกิดเหตุ(13 ส.ค.) เวลาประมาณ 13.00 น.นายสานิต ไม่ทราบนามสกุล วิศวกรเป็นเจ้าของบริษัทได้นำลูกจ้างเข้าซ่อมแซมบ่อบำบัดน้ำเสีย ขนาดลึก 1.5 เมตร กว้าง 1.5 เมตร ซึ่งขณะทำการซ่อมแซมจนงานแล้วเสร็จ พบว่ามีจุดที่ต้องแก้ไข จึงได้สั่งให้ลูกจ้าง 2 คน (ไม่ทราบชื่อ) ลงไปแก้ไข จนทั้งสองเป็นลมหมดสติ ติดต่อไม่ได้ นายสานิต จึงได้ลงไปในบ่อพร้อมกับลูกจ้างอีก 1คน จนทั้งสองหมดสติด้วย ลูกจ้างผู้เห็นเหตุการณ์ได้กลิ่นแก๊สไข่เน่าจึงตามพนักงานเพื่อให้ช่วยนำทั้ง 4 คนออกมาจากบ่อ จากนั้นจึงได้เรียกรถฉุกเฉินนำส่ง รพ.ปาดังเบซาร์1คน และ รพ.สงขลานครินทร์หาดใหญ่ 2 คน และพบว่าทั้ง 3 คนได้เสียชีวิตลงแล้ว ส่วนนายสานิต ได้นำส่ง รพ.หาดใหญ่ ขณะนี้อยู่ในห้องไอซียู
ส่วนการช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้ประสบอันตรายจากการทำงานที่กำลังนอนพักรักษาตัวอยู่ในขณะนี้นั้น หน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯในพื้นที่ จ.สงขลา กำลังตรวจสอบความเป็นผู้ประกันตนของลูกจ้างที่เสียชีวิตทั้ง 3 ราย และอีกรายที่ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยา หากเป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมญาติจะได้รับเงินค่าทำศพรายละ 33,000 บาท ค่าทดแทนเสียชีวิตร้อยละ 70 ของค่าจ้างรายเดือนเป็นระยะเวลา 10 ปีและค่ารักษาพยาบาลและค่าทดแทนของลูกจ้างที่นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย
