คปภ.เร่งช่วยยายถูกหลอกถอนเงินประกัน 1.4 ล้านบาท

กรุงเทพฯ 11 ส.ค. – คปภ.ออก 8 มาตรการช่วยเหลือยายจังหวัดสงขลา ถูกหลอกถอนเงินจากบริษัทประกัน 1.4  ล้านบาท สั่งเรียกสอบตัวแทนประกันชีวิตด่วน หากผิดจริงโดนเพิกถอนใบอนุญาตทันที


นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีนางฟื้น กาญจนมณี จังหวัดสงขลา ถูกหลอกถอนเงินประกัน  1.4 ล้านบาท นั้น คปภ.ได้เรียกสายงานที่เกี่ยวข้องประชุมด่วน เพื่อช่วยเหลือผู้เสียหาย แบ่งเป็นมาตรการเร่งด่วนและมาตรการระยะยาวรวม 8 มาตรการ ประกอบด้วย มาตรการเร่งด่วน 6 มาตรการ ได้แก่ มาตรการแรก สั่งการสายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค โดยให้ผู้อำนวยการภาคอาวุโส สำนักงาน คปภ. ภาค 9 (สงขลา) และผู้อำนวยการสำนักงาน คปภ. จังหวัดสงขลา ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากผู้เสียหายและครอบครัว ตลอดจนหาเบาะแสและพฤติกรรมต่าง ๆ จากตัวแทนประกันชีวิตในพื้นที่ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในเชิงลึกต่อการดำเนินการกับตัวแทนประกันชีวิตที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ รวมทั้งประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างใกล้ชิดจะเป็นประโยชน์ต่อการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย 


มาตรการที่ 2 ได้ส่งทีมเคลื่อนที่เร็ว ประกอบด้วย บุคลากรจากสายกฎหมายและคดี สายตรวจสอบคนกลางประกันภัย และสายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและบูรณาการการทำงานร่วมกับสำนักงาน คปภ. ภาค 9 และสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มาตรการที่ 3 ให้สายตรวจสอบคนกลางประกันภัย ทำการตรวจสอบรายชื่อตัวแทนประกันชีวิตที่เข้าไปเกี่ยวข้อง 3 ราย ซึ่งขณะนี้ทราบชื่อและบริษัทต้นสังกัดเรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกันก็ได้รับแจ้งจากบริษัทต้นสังกัดว่าได้มีการสั่งพักงานชั่วคราวตัวแทนประกันชีวิตทั้ง 3 รายแล้ว

มาตรการที่ 4 ออกหนังสือเชิญบริษัทประกันชีวิตต้นสังกัด เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง วันที่ 15 สิงหาคม 2562  มาตรการที่ 5 ออกหนังสือเชิญนายกสมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาทางการเงินมาหารือ เพื่อร่วมกันหามาตรการแก้ไขและป้องกันไม่ให้เกิดการฉ้อฉลประกันภัย ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตัวแทนประกันชีวิต และมาตรการที่ 6 สั่งการให้สายกฎหมายและคดี ออกหนังสือเชิญตัวแทนประกันชีวิตทั้ง 3 ราย มาสอบข้อเท็จจริงวันที่ 16 สิงหาคม 2562 เพื่อเร่งตรวจสอบ หากพบว่าตัวแทนประกันชีวิตกระทำผิดจริงให้ดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตทันที ตลอดจนดำเนินการทางกฎหมายในส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง


ส่วนมาตรการระยะยาวมี 2 มาตรการ มาตรการแรก ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนกระทบต่อความเชื่อมั่นในธุรกิจประกันภัย โดยมีรองเลขาธิการด้านกฎหมาย คดี และคุ้มครองสิทธิประโยชน์ เป็นประธานฯ โดยมีคณะทำงาน ประกอบด้วย สายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค สายตรวจสอบ คนกลางประกันภัย และสายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ เป็นคณะทำงานโดยเฉพาะ มีอำนาจหน้าที่ในการติดตามสถานการณ์ ตรวจสอบข้อเท็จจริง หากเกิดเหตุการณ์ที่จะกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของประชาชนด้านประกันภัยจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นธุรกิจประกันภัย เพื่อจะได้ดำเนินการช่วยเหลือได้ทันท่วงที และอีกมาตรการ คือ การป้องปรามพฤติกรรมการฉ้อฉลประกันภัย เช่น เข้มงวดบริษัทประกันชีวิตให้ดำเนินการสอดคล้องตามหลักเกณฑ์ คปภ. ทั้ง 3 ฉบับ คือ ประกาศ คปภ. เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำในการบริหารจัดการความเสี่ยงของบริษัทประกันชีวิต ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อฉล พ.ศ.2561 โดยเฉพาะกระบวนการควบคุมความเสี่ยงการรับเงินจากตัวแทน/พนักงานขายของบริษัท และกระบวนการจ่ายผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ให้กับผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์ , ประกาศ คปภ. เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการออก การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันชีวิต นายหน้าประกันชีวิต และธนาคาร พ.ศ. 2561 และ ประกาศนายทะเบียนเรื่องการเก็บเบี้ยประกันภัย เป็นต้น

นอกจากนี้ เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงช่องทางตรวจสอบใบอนุญาตตัวแทนประกันชีวิต ผ่านทาง Application “รอบรู้ประกันภัย” ของสำนักงาน คปภ. รวมทั้งรณรงค์ให้ประชาชนผู้เอาประกันภัยขอเอกสารใบเสร็จรับเงินจากบริษัทประกันภัย หลังจากชำระค่าเบี้ยประกันภัยแล้ว และให้สำนักงาน คปภ. เร่งพัฒนา Application สำหรับตัวแทน/นายหน้าประกันภัย เพื่อให้สามารถตรวจสอบประวัติการอบรม การต่ออายุใบอนุญาต ประวัติการถูกร้องเรียน รวมถึงการแจ้งเตือนการหมดอายุของใบอนุญาต เพื่ออำนวยความสะดวกในการตรวจสอบข้อมูลคนกลางประกันภัย  

“เชื่อว่าทั้ง 8 มาตรการ จะทำให้ประชาชนอุ่นใจเมื่อได้รับความเดือดร้อนด้านประกันภัยและจะช่วยป้องปรามไม่ให้เกิดความเสียหาย กระทบต่อความเชื่อมั่นของธุรกิจประกันภัย หากมีเบาะแสหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับประกันภัย ติดต่อได้ที่สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

หาชมยาก เปิดสะพานกรุงเทพให้เรือผ่าน แห่งเดียวในไทย

กรุงเทพฯ 22 มิ.ย. – เป็นอีกครั้งที่สะพานกรุงเทพ ยกขึ้นเพื่อให้เรือผ่าน ปัจจุบันเป็นสะพานแห่งเดียวในไทยที่ยังคงใช้งานเปิด-ปิดได้ โดยเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่สำคัญตั้งแต่ในอดีต ปัจจุบันมีเรือที่ผ่านน้อยลง ทำให้การยกเปิดแต่ละครั้งได้รับความสนใจ เพราะเป็นภาพที่หาชมได้ไม่บ่อย.-สำนักข่าวไทย

“ฮุน มาเนต” ระงับนําเข้าน้ำมัน-ก๊าซจากไทย

กัมพูชา 22 มิ.ย. – “ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศระงับนําเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง-ก๊าซทุกชนิดจากไทย เริ่มเที่ยงคืนนี้ มั่นใจบริษัทในกัมพูชาหาเชื้อเพลิงจากแหล่งอื่นให้ประชาชนได้เพียงพอ พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊ก Hun Manet ระบุว่า บริษัทจัดจําหน่ายน้ำมันในประเทศกัมพูชามีความสามารถในการนําเข้าเชื้อเพลิงและก๊าซจากแหล่งอื่น เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการบริโภคภายในประเทศของประชาชน แม้จะเป็นเดือน แม้ตลอดไปก็ไม่ใช่ปัญหา เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนนี้ (22 มิ.ย.68) การนําเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซทั้งหมดจากประเทศไทยจะถูกหยุด.-สำนักข่าวไทย

กองกำลังบูรพาเข้มจุดตรวจ นำสุนัข K9 ร่วมลาดตระเวน

22 มิ.ย. – กองกำลังบูรพาเข้มจุดตรวจตลอดแนวชายแดนช่องทางธรรมชาติ อ.คลองหาด จ.สระแก้ว นำสุนัข K9 ร่วมลาดตระเวน ป้องกันการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่วนด่านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด บรรยากาศเงียบเหงา หลังชาวกัมพูชาปิดร้านขนของกลับประเทศ ที่ จ.สระแก้ว ตลอดแนวชายแดนช่องทางธรรมชาติ บริเวณจุดตรวจ ค.04 อ.คลองหาด มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง กองกำลังบูรพา และกองร้อยทหารพราน พร้อมสุนัข K9 ยังคงเดินหน้าควบคุมพื้นที่อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวและขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อาจจะพากันทะลักเข้า-ออก หลังจากที่มีคำสั่งห้ามนักท่องเที่ยวและนักพนันข้ามไปยังประเทศกัมพูชา ซึ่งจุดนี้เป็นหนึ่งในพื้นที่เสี่ยงที่มีการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่เดินเท้าลาดตระเวนตลอดแนวชายแดนกว่า 100 กิโลเมตร เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ บรรยากาศชายแดนหาดเล็กเงียบเหงาด้านบริเวณชายแดนด่านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา หลังชาวกัมพูชาปิดร้านขนของกลับประเทศ มีเพียงรถบรรทุกสินค้าทั่วไปรอคิวผ่านแดนข้ามฝั่งไปประเทศกัมพูชา เจ้าของร้านค้าในพื้นที่ เล่าว่า บรรยากาศเงียบเหงามาก วันๆ แทบไม่มีคนซื้อของ ถ้าถามความรู้สึกว่าเดือดร้อนไหม บอกเลยว่ายอมเดือดร้อนดีกว่าเสียดินแดนซ้ำอีก ถ้าจะปิดด่านก็ปิดได้เลย เอาดินแดนไว้ก่อนดีกว่า ส่วนบริเวณด่านถาวรช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นายประสิทธิ์ ดีจงเจริญ นายด่านศุลกากรช่องสะงำ […]

“แพทองธาร” โพสต์พรรคร่วมฯ มีมติหนุนรัฐบาล ร่วมสร้างเสถียรภาพการเมือง

โรงแรมโรสวูด 22 มิ.ย.- นายกฯ โพสต์พรรคร่วมรัฐบาลมีมติหนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง ชี้ ความเป็นหนึ่งเดียว ช่วยก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหว เดินหน้ารับมือภัยคุกคามและความมั่นคง ภายหลัง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เชิญพรรคร่วมรัฐบาล หารือ ปรับคณะรัฐมนตรี แทนตำแหน่งที่ว่าง 8 ตำแหน่ง หลังภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยใช้เวลาในการหารือประมาณ 1 ชั่วโมง ล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. รถบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลและเลขาธิการพรรคได้เดินทางออกจากโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ ขณะที่ นายกรัฐมนตรีได้ ยังอยู่ภายในโรงแรม ก่อนที่ นายกรัฐมนตรี จะโพสต์ภาพถ่ายผ่านโซเชียลร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมระบุข้อความว่า “ประเทศชาติต้องเดินไปข้างหน้า สามัคคีประเทศไทย รวมพลังผลักดันนโยบาย แก้ไขปัญหาเพื่อประชาชน ขอขอบคุณคณะกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลทุกท่าน ที่มีมติและประกาศแนวทางสนับสนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง เพื่อรับมือต่อภัยคุกคามความมั่นคงของชาติจากภายนอก และขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ในช่วงเวลาที่รัฐบาลกับกองทัพมีจุดยืนร่วมกัน ยืนยันหลักการประชาธิปไตย ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและรวมพลังสามัคคี ความเป็นหนึ่งเดียวของพรรคร่วมรัฐบาล จะเป็นหมุดหมายสำคัญในการผนึกกำลังกันของคนไทย ก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหวนี้ด้วยความมั่นคง และประสบผลสำเร็จในการปกป้องอธิปไตย ธำรงไว้ซึ่งเกียรติยศศักดิ์ศรีของประเทศชาติและประชาชน ดิฉันเชื่อมั่นว่าไม่มีภัยคุกคามใดจะเหนือกว่าพลังสามัคคีของคนไทย […]