กรุงเทพฯ 8 ส.ค.- ครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากคดีรถตู้โดยสารพุ่งชนต้นไม้ที่พะเยา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน สาหัส 5 คน เข้าร้องขอความเป็นธรรมกระทรวงยุติธรรม หลังผ่านไป 7 ปี ฝั่งรถตู้ไม่เคยมาช่วยเหลือดูแล คดีนี้ตัดสินทางอาญาไปแล้ว ส่วนทางแพ่งอยู่ในชั้นฎีกา ต่างจากคดี “แพรวา” ที่คดีมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว กระทรวงยุติธรรมจะให้ความช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง ติดตามจากรายงาน
ย้อนไปเมื่อวันสิ้นปี 54 หรือกว่า 7 ปีที่แล้ว เกิดอุบัติเหตุรถตู้โดยสารสาธารณะ (นครสวรรค์-เชียงราย) พุ่งชนต้นไม้หน้ามหาวิทยาลัยนเรศวร วิทยาเขตจังหวัดพะเยา ส่งผลให้ผู้โดยสารที่นั่งมาด้วย 13 คน เสียชีวิต 2 คน สาหัส 5 คน
คดีนี้ศาลอาญาพิพากษาจำคุกคนขับรถตู้ 1 ปี 6 เดือน รอลงอาญา 2 ปี ส่วนทางแพ่งผู้เสียหาย 7 คน ยื่นฟ้องคนขับรถตู้ ผู้ประกอบการ บริษัทรถตู้ และบริษัทประกัน ศาลชั้นต้นให้ชดใช้ 700,000 บาท ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ชดใช้รวม 1,700,000 บาท ขณะนี้อยู่ระหว่างชั้นฎีกา
หนึ่งในผู้เสียชีวิตคือ นางกัญรัตน์ อวดร่าง อายุ 42 ปี นั่งรถมากับ ด.ช.ณัฐชนนท์ อายุ 10 ปี บุตรชาย ที่อาการสาหัส และเสียชีวิตเมื่อปี 60 ต่อมาสามีนางกัญรัตน์ ซึ่งเป็นผู้เดินเรื่อง เสียชีวิตเมื่อปี 59 เหลือเพียงแม่อายุ 77 ปี ที่ขาพิการเดินไม่สะดวก มีโรคประจำตัว ขณะที่ไม่มีการติดต่อช่วยเหลือใดๆ จากฝั่งรถตู้
วันนี้พี่ชายผู้เสียชีวิต พร้อมทนายความ เข้าร้องขอความเป็นธรรมที่กระทรวงยุติธรรม และช่วยติดตามการดำเนินคดีจนกว่าจะได้รับเงินเยียวยาแก่ครอบครัว พร้อมระบุที่ผ่านมาได้รับเงินเยียวยาจาก พ.ร.บ. คนละ 200,000 บาท และค่าทำศพ 30,000 บาทเท่านั้น และไม่อยากให้การชดเชยค่าสินไหมทดแทนคดีทางแพ่งยืดเยื้อเกินไป เพราะบางคดีอาจเหมือนครอบครัวน้องสาวที่ล้มหายตายจาก ไม่มีผู้รับประโยชน์ เหลือเพียงแม่ที่ชราเท่านั้น
ด้านทนายความ ระบุคดีนี้ยังอยู่ในชั้นฎีกา แต่คู่กรณีไม่จำเป็นต้องรอคำสั่งศาล สามารถช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายได้ทันที ซึ่งอยากให้กระทรวงยุติธรรมช่วยเหลือ และอยากให้สั่งการไปยังระดับจังหวัดมีนโยบายช่วยเหลือติดตามคดีเช่นเดียวกัน
ทีมข่าวสำนักข่าวไทย ตรวจสอบไปยังรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ระบุว่าได้สั่งการไปยังยุติธรรมจังหวัดพะเยาให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้แล้ว สำหรับการช่วยเหลือในส่วนของกระทรวงยุติธรรม เมื่อเกิดเหตุผู้เสียหายที่ได้รับความเสียหายจากการระทำผิดอาญาของบุคคลอื่นจะได้รับเงินช่วยเหลือตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย หลังจากนี้ต้องรอให้คดีมีคำพิพากษาถึงที่สุด กระทรวงฯ จะเข้าช่วยไปดำเนินการเรื่องการบังคับคดีได้ อย่างไรก็ตามระหว่างนี้หากผู้เสียหายมีปัญหาด้านค่าใช้จ่ายทนายความ กระทรวงสามารถช่วยดำเนินการได้
เมื่อเทียบเคียงกับ “คดีแพรวา” รองปลัดกระทรวงยุติธรรมบอกว่า คดีแพรวา ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว กระทรวงฯ จึงสามารถเข้าไปช่วยดำเนินการเร่งรัดได้ในส่วนการส่งคำบังคับคำพิพากษา และการบังคับคดี แต่สำหรับคดีนี้ยังอยู่ในชั้นฎีกา จึงต้องรอให้คดีถึงที่สุด อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทราบว่าครอบครัวผู้เสียหายมีความเป็นอยู่ยากลำบาก จึงเตรียมประสาน พม.เข้าไปช่วยดูแลต่อไป.-สำนักข่าวไทย