fbpx

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เชื่อ กนง.ลดดอกเบี้ยเพื่อดูแลเศรษฐกิจ

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 7 ส.ค. – ตลาดหลักทรัพย์ฯ เชื่อ กนง.ลดดอกเบี้ยเพื่อดูแลเศรษฐกิจ แนะนักลงทุนติดตามข่าวสารใกล้ชิด


นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีที่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)  มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ร้อยละ 0.25 จาก ร้อยละ 1.75 เป็น ร้อยละ 1.50 ต่อปี ว่า ไม่แปลกใจที่ กนง. ตัดสินใจลดดอกเบี้ย โดยเชื่อว่า คณะกรรมการฯ ได้มีการประเมินปัจจัยต่างประเทศที่มีผลต่อเศรษฐกิจทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยแล้ว ซึ่งมองว่ามีเหตุผลเพียงพอที่จะใช้ดอกเบี้ยเป็นเครื่องมือในการดูแลเศรษฐกิจ พร้อมย้ำว่า เศรษฐกิจไทยแข็งแกร่ง มีนโยบายด้านการเงินและการคลังที่เข้มแข็ง แนะนักลงทุนติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ขณะที่เศรษฐกิจโลกผันผวนนั้นอาจส่งผลกระทบกับภาคธุรกิจและหลายอุตสาหกรรม ซึ่งแต่ละธุรกิจควรวางแผนรองรับไว้ 


นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า แม้ กนง.จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง แต่ค่าเงินบาทยังมีเสถียรภาพ โดยเชื่อว่า ธปท. จะมีนโยบายการเงินที่ออกมาดูแลเศรษฐกิจต่อเนื่อง ส่วนการที่จีนออกมาตรการตอบโต้สหรัฐฯด้วยการปปล่อยให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 7 หยวนต่อดอลล่าร์สหรัฐฯ นั้น มองว่า อาจจะเป็นการเร่งรัดให้การเจรจาระหว่างสองประเทศรวบรัดมากขึ้น ซึ่งยังคงต้องติดตามว่าจะได้ข้อสรุปในแบบใด

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2562 ปิดที่ 1,711.97 จุด ลดลง ร้อยละ 1.1 จากสิ้นเดือนก่อน และเพิ่มขึ้น ร้อยละ 9.5 จากสิ้นปี 2561มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai ในเดือนกรกฎาคม 2562 อยู่ที่ 64,050 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 23 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน  โดยกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มทรัพยากร และกลุ่มบริการให้ผลตอบแทนมากกว่า SET Index ส่วนผู้ลงทุนต่างประเทศมีสถานะซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ด้วยมูลค่า 20,524 ล้านบาท  ถือเป็นมูลค่าซื้อสุทธิสูงสุดในอาเซียน

ทั้งนี้ ในเดือนกรกฎาคมตลาดหลักทรัพย์ไทยได้รับผลบวกจากความเชื่อมั่นด้านเสถียรภาพทางการเมืองภายในประเทศที่ดีขึ้น สอดคล้องกับการปรับ outlook เป็นบวกของบริษัทจัดอันดับ rating ส่งผลให้ผู้ลงทุนต่างประเทศยังคงซื้อสุทธิอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ควรจับตามองความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก ได้แก่ สถานการณ์สงครามการค้าที่เริ่มมีสัญญาณของความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้น ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ตลอดจนทิศทางการดำเนินนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ  


ขณะที่ อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2562 อยู่ที่ระดับ ร้อยละ 3.02 สูงกว่าค่าเฉลี่ยของ MSCI Emerging Market ที่อยู่ที่ ร้อยละ 2.89 ส่วนมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของ SET และ mai ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2562 อยู่ที่ 17.9 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 10.5 จากสิ้นปี 2561 ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางของดัชนี และในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2562 มูลค่าการระดมทุนในตลาดแรก (IPO) ของไทยอยู่ที่ระดับ 14,131 ล้านบาท ส่วนตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 509,534 สัญญา ซึ่งเพิ่มขึ้น ร้อยละ 34 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในช่วงครึ่งปีแรก . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กโจ๊ก” ถอนคำร้องเอาผิด “เศรษฐา” อ้างไม่ติดใจแล้ว

“บิ๊กโจ๊ก” ยื่น ป.ป.ช. ขอถอนคำร้องเอาผิด “นายกฯ เศรษฐา” กรณีปฏิบัติหน้าที่มิชอบตาม ม.157 อ้างไม่ติดใจดำเนินคดีแล้ว

นายกฯ เชิญ 4 ธนาคารใหญ่ ถกลดดอกเบี้ยบ้านกลุ่มเปราะบาง

นายกฯ เชิญผู้บริหาร 4 ธนาคารใหญ่ เข้าหารือ ขอให้ทั้ง 4 ธนาคาร ช่วยลดราคาดอกเบี้ยเงินกู้บ้านให้กับประชาชน ส่วนความเคลื่อนไหวทางด้านการเมือง เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เผยส่งชื่อรัฐมนตรีให้นายกฯ พิจารณาแล้ว

สถานการณ์ชายแดนแม่สอดยังไม่น่าไว้วางใจ มีเสียงปืน-ระเบิดจากฝั่งเมียนมา

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก ยังไม่น่าไว้วางใจ หลังเช้านี้ได้ยินเสียงปืนและระเบิดจากการปะทะของกองกำลังกะเหรี่ยงกับทหารเมียนมา ดังขึ้นในรอบ 3 วัน ขณะที่บ่ายนี้ (23 เม.ย.) รมว.ต่างประเทศ เตรียมลงพื้นที่

เฮลิคอปเตอร์กองทัพเรือมาเลเซียชนกันกลางอากาศ-ดับแล้ว 10

กองทัพเรือมาเลเซียกล่าวในแถลงการณ์ว่า เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือมาเลเซีย 2 ลำ ชนกันกลางอากาศในระหว่างการฝึกซ้อมสำหรับการแสดงในขบวนพาเหรดของกองทัพเรือ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย