นายกรัฐมนตรียืนยันเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยวไม่กระทบ

กรุงเทพฯ 3 ส.ค.-นายกรัฐมนตรีขอบคุณฝ่ายความมั่นคง ทำงานเพื่อดูแลความปลอดภัยประชาชน ย้ำว่าเหตุป่วนที่เกิดขึ้น ไม่กระทบเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ขณะที่นักวิชาการขออย่าเพิ่งด่วนสรุปคนร้าย และไม่อยากให้ทุกฝ่ายใช้สถานการณ์นี้โจมตีทางการเมือง


นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ฝากขอบคุณตำรวจและฝ่ายความมั่นคง ที่ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ รวมถึงสื่อมวลชนที่ช่วยกันเป็นกำลังสำคัญในการช่วยตรวจสอบข้อมูลความเป็นจริง ยืนยันว่าตำรวจและฝ่ายความมั่นคงสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่กระทบต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว โดยต่างชาติยังไม่มีการเตือนหรือห้ามประชาชนเดินทางมาไทย เพียงแต่มีบางประเทศที่แจ้งเตือนให้ติดตามสถานการณ์ 


ด้านนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เดินทางไปตรวจความพร้อมห้องประชุมจันทรา รัฐสภา ถนนเกียกกาย ที่เตรียมใช้สำหรับการประชุมสภาในวันจันทร์นี้ โดยสั่งให้เพิ่มเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยเข้มข้น และยอมรับว่าค่อนข้างเป็นห่วงระบบรักษาความปลอดภัย และในวันจันทร์นี้อาจต้องตรวจรถและสัมภาระของทั้งสมาชิกที่เข้าร่วมประชุม, เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชน 


ด้านนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็น ส.ส.ของพื้นที่ย่านศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ ได้ตั้งรางวัลเป็นเงิน 100,000 บาท หากใครมีเบาะแสของผู้ลงมือก่อเหตุ ขอให้แจ้งมาได้ทันที เพื่อจะนำข้อมูลทั้งหมดส่งให้ตำรวจติดตามตัวมาดำเนินคดี ส่วนนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย ประณามผู้ก่อเหตุทั้งหมดและขอให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี 

ขณะที่ พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ ผอ.สำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวไทยว่า ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินว่า สาเหตุเกิดขึ้นจากอะไรและจากกลุ่มบุคคลใด หรือเชื่อมโยงกับใคร โดยต้องพิจารณาจากพยานหลักฐานให้รอบด้าน นอกจากนี้ยังวิเคราะห์ว่าการข่าว และการเฝ้าระวังสถานการณ์ยังอ่อนด้อย ตั้งแต่เหตุระเบิดที่บริเวณศาลพระพรหม แยกราชประสงค์ ที่ท้ายที่สุดเป็นเรื่องของต่างชาติ พร้อมเสอนว่าไม่ควรใช้สถานการณ์นี้มาโจมตีทางการเมือง และรัฐบาลต้องดำเนินการหาความจริงอย่างตรงไปตรงมา ก่อนแจ้งผลความคืบหน้าให้ประชาชนทราบ แต่หากยังไม่แน่ใจก็อย่าเพิ่งปรักปรำใคร .-สำนักข่าวไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลยันระเบิดไม่กระทบเศรษฐกิจท่องเที่ยว

นายกฯ ขอให้มั่นใจรัฐคุมสถานการณ์ได้


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

นายกฯพบสีจิ้นผิง

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง”

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง” ย้ำความสัมพันธ์ทางการทูตและหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ด้านจีนหนุนไทยมีบทบาทในเวที ระดับโลกและภูมิภาค

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟเมื่อวาน

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ขอทำไปประเมินไป อย่าทำให้เป็นประเด็น มองเป็นสิทธิฝั่งเมียนมาซื้อไฟฟ้าจากลาว ลั่นเดี๋ยวต้องคุยอีก ย้ำตัดไฟครั้งนี้ไม่ได้ใช้อารมณ์ รู้อยู่กระทบเศรษฐกิจบ้าง แต่แค่ 0.1%

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี