“อังคณา-เตือนใจ” ลาออกจาก กสม. มีผลวันนี้

กสม. 31 ก.ค.- “อังคณา-เตือนใจ” ลาออกจาก กสม. มีผลวันนี้  เหตุ ระบบใหม่ไม่เอื้ออำนวยต่อการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงต้องการออกไปทำงานอย่างที่ต้องการ  


นางอังคณา  นีละไพจิตร  และ นางเตือนใจ ดีเทศน์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) แถลงข่าว วันนี้ (31 ก.ค.) ว่า ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็น กสม. แล้ว เช้าวันนี้ โดยให้มีผลตั้งแต่ 09.30 น. เป็นต้นไป  โดยเหตุผลในการลาออก  เนื่องบรรยากาศและระบบการทำงานไม่เอื้ออำนวย ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะเหลือเวลาอีกแค่ 2 เดือน แต่งานที่รับผิดชอบ ก็ได้มีการจัดทำเสร็จเป็นส่วนใหญ่แล้ว 

นายเตือนใจ กล่าวว่า จริงๆ แล้ว กสม.ชุดปัจจุบัน ถือว่าพ้นจากตำแหน่งแล้ว  นับแต่มี  พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ฉบับใหม่ แต่ที่ยังอยู่ก็เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น  อีกทั้ง รัฐธรรมนูญ มาตรา  22  กำหนดให้ประธานศาลฎีกาและประธานศาลปกครองสูงสุด ตั้งคณะขึ้นมาทำหน้าที่แทนให้ครบองค์ประชุมได้ จนกว่า กสม.ชุดใหม่ที่กำลังสรรหาตามรัฐธรรมนูญ ปี 2560 จะเข้าปฏิบัติหน้าที่  ซึ่งทราบว่าคณะกรรมการสรรหา กสม.ชุดใหม่ จะมีการสัมภาษณ์ผู้สมัคร ในวันที่  2-3  สิงหาคม  หากคัดเลือกได้ครบ 4 คน   ก็จะมีการเสนอวุฒิสภาให้พิจารณาได้ คาดว่าจะใช้เวลาอีกไม่นาน 


นางเตือนใจ อธิบายถึงบรรยากาศที่ไม่สร้างสรรค์ในการทำงาน ว่า  นับแต่รัฐธรรมนูญ ปี 2560 ใช้บังคับ และ พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ฉบับใหม่ ประกาศใช้ มีการกำหนดให้ กสม.สามารถตั้งอนุกรรมการได้เท่าที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แตกต่างจากในอดีต  ที่ กสม.ขณะนั้นจะต้องอนุกรรมการฯ ขึ้นมาหลากหลาย  และมีผู้ทรงคุณวุฒิต่างๆ เข้ามาร่วมเป็นอนุกรรมการ ทำให้การทำงานของ กสม.เชื่อมโยงกับภาคประชาสังคมในทุกกลุ่ม ทุกภาค เมื่อมีการร้องเรียน ตรวจสอบ ลงพื้นที่ ก็จะมีบรรยากาศเป็นไปในเชิงสมานฉันท์ หลายครั้งสามารถแก้ไขปัญหาได้  เมื่อมีการลงพื้นที่ 

นางเตือนใจ กล่าว เมื่อการกำหนดให้มีการตั้งอนุกรรมการเท่าที่จำเป็น กสม.ชุดนี้จึงตีความว่า ไม่ควรมีการตั้งคณะอนุกรรมการเลย เพราะอาจขัดต่อกฎหมาย  แล้วแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ของ กสม.ให้เป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบ ทำให้หลังจากนั้นการเชื่อมโยงกับภาคประชาสังคม และเครือข่ายวิชาการอต่างๆ ลดลง อย่างต่อเนื่อง  เรื่องร้องเรียนก็ลดลง หลายเรื่องมีการร้องเรียน  ซึ่งต้องผ่านคณะกรรมการกลั่นกรอง ก็จะไม่รับเป็นคำร้องเสียมากกว่า  ทำให้คิดว่าการทำงานของ กสม.ลอยจากฐานของประชาชน

“นอกจากนี้ การอออกระเบียบต่างๆ รองรับกฎหมายใหม่ ก็ทำให้รู้สึกว่าการทำงานไม่เป็นอิสระ ไม่เป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ  การลงพื้นที่ เมื่อก่อนเราจะแจ้งสื่อ เพื่อเป็นการเปิดประเด็นว่า เราจะทำเรื่องอะไร ผู้ถูกร้องเกิดการตื่นตัว ทำให้แก้ปัญหามีประสิทธิภาพ แต่เมื่อมีมติของ กสม.เรื่องแนวปฏิบัติการให้ข่าว การแจ้งสื่อก็ทำไม่ได้ ทำให้หลังปลายปี 61 ต่อเนื่องปี 62 การทำงานของ กสม.จะเงียบมาก ดังนั้น จึงคิดว่าแม้จะเหลือเวลาในหน้าที่อีกเพียง 2-3 เดือน แต่ลาออกก่อน ก็จะทำให้เราได้ไปทำงานที่เราต้องใจ และไปเป็นประชาชนเต็มขั้น” นายเตือนใจ กล่าว    . – สำนักข่าวไทย      


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ศาลตัดสินพิรงรอง

“พิรงรอง” รับกังวลใจ วันนี้ศาลตัดสิน คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช.

“พิรงรอง” ถึงศาล รับกังวลใจ คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช. ปมส่งใบเตือนทีวีดิจิทัลมีโฆษณาแทรก ยืนยันทำหน้าที่อย่างถูกต้อง

ผู้สมัคร นายก อบจ.สมุทรปราการ หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง ร้อง ปธ.สภา

ผู้สมัคร นายก อบจ. สมุทรปราการ พรรคประชาชน หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง อบจ.ร้องประธานสภา จี้ กกต.สอบให้ความเป็นธรรม ลั่นจะไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบ

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

บุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน

ตำรวจนครบาลบุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน สร้างเพจปลอมเป็นหน่วยงานตำรวจ และ ปปง. หลอกเหยื่อว่าสามารถติดตามทรัพย์สินที่ถูกหลอกคืนได้ ค้นบ้านพบซิมบ็อกซ์โทรศัพท์ และ QR Code ปลอม จำนวนมาก

ข่าวแนะนำ

เข้าสู่คืนที่ 2 ตัดไฟฟ้าชายแดนเมียนมา ทำลายวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เข้าสู่คืนที่ 2 สำหรับการตัดกระแสไฟฟ้า ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการส่งน้ำมัน จากฝั่ง อ.แม่สอด จ.ตาก ไปเมืองเมียวดีของเมียนมา เพื่อตัดวงจรกลุ่มจีนเทา พบมีการใช้ไฟฟ้าน้อยลง

คนร้ายลอบวางระเบิดรถกระเช้าภายในเทศบาลตำบลรือเสาะ

คนร้ายลอบวางระเบิดรถกระเช้าจอดในอาคารจอดรถ เทศบาลตำบลรือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส หลังเสร็จพิธีต้อนรับนายกเทศมนตรีคนใหม่ ทำให้ไฟไหม้รถเสียหายหลายคัน

ปล้นร้านสะดวกซื้อ

รวบ 6 เยาวชน ก่อเหตุปล้นร้านสะดวกซื้อปัตตานี

รวบแล้ว 6 โจร ปล้นร้านสะดวกซื้อ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินกว่า 4,000 บาท พบผู้ก่อเหตุทั้งหมด เป็นเยาวชนอายุระหว่าง 14-16 ปี