รณรงค์รับน้องใหม่สร้างสรรค์

กทม.24 ก.ค.-เครือข่ายเยาวชน ร่วมกับ 60 สถาบันการศึกษา จัดรณรงค์รับน้องใหม่สร้างสรรค์ กระตุ้นให้กลุ่มนักศึกษาจัดกิจกรรมที่เคารพ ให้เกียรติ ไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น และไม่ทำผิดกฎหมาย 


เครือข่ายเยาวชนปกป้องสิทธิ เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ เครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน ฯลฯ จัดรณรงค์รับน้องสร้างสรรค์ ภายใต้โครงการ “รับเพื่อนใหม่ เคารพสิทธิ…มิตรภาพ” เพื่อกระตุ้นให้กลุ่มนักศึกษาจัดกิจกรรมรับน้องใหม่อย่างสร้างสรรค์ เคารพให้เกียรติและ     ไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ไม่ทำผิดกฎหมาย พร้อมเปิดตัวเพจ “เครือข่ายเยาวชนปกป้องสิทธิ”รับเรื่องราวร้องเรียนกิจกรรมรับน้องใหม่ที่มีการกระทำไม่เหมาะสม และทีมกฎหมายให้ความช่วยเหลือ 


ภายในงานกลุ่มเยาวชนยังได้ประกาศเจตนารมณ์ สนับสนุนให้นักศึกษาทุกสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ จัดกิจกรรมรับเพื่อนใหม่ ที่เคารพสิทธิและสร้างมิตรภาพได้อย่างแท้จริง  


น.ส.รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ รักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยง สสส.กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้จะเป็นหมุดหมายที่สำคัญสู่การรับน้องใหม่ที่สร้างสรรค์ ให้เห็นพลังและคุณค่า เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สามัคคี เอื้อเฟื้อช่วยเหลือกัน ห่างไกลจากเหล้า ยาเสพติด การพนัน อบายมุขทุกรูปแบบ เป็นการถอยห่างจากระบบอำนาจนิยม ที่เคยนำไปสู่ความอับอาย หรือบาดเจ็บและสูญเสีย การใช้คำว่ารับเพื่อนใหม่ แทนคำว่ารับน้องใหม่ คงต้องการสะท้อนความเสมอภาค  ลดการกดทับในเชิงอำนาจจากความเป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง  ซึ่งมีนัยสำคัญมากต่อกิจกรรมนี้

“ข่าวความสูญเสียจากกิจกรรมรับน้องใหม่ บ่อยครั้งที่เลยเถิดถึงขั้นบาดเจ็บ เสียชีวิต คำถามสำคัญคือจะยินยอมให้ความไม่ถูกต้อง ยังคงอยู่อย่างเป็นปกติเช่นนี้ หรือจะร่วมกันยืนหยัดและปฏิเสธความไม่ถูกต้อง ซึ่งสอดคล้องกับเจตนาของกิจกรรมวันนี้ คือการรับเพื่อนใหม่  ต้องเคารพสิทธิและมุ่งสู่มิตรภาพอย่างแท้จริง หลักการสำคัญ 1.ต้องเคารพให้เกียรติกัน  2.ต้องสนุก  กระตุกให้คิดและสร้างสรรค์  3.ต้องไม่ใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ 4. ต้องมีความปลอดภัย  และ 5.ต้องปลอดจากอบายมุขทุกชนิด” น.ส.รุ่งอรุณ กล่าว  

นายกีรติ  ปั้นมณี  เลขาธิการกลุ่ม ANTI  SOTUS กล่าวว่า ความรุนแรง ในการรับน้องและกระบวนการยุติธรรมที่สาวไปไม่ถึงตัวผู้กระทำความผิด เป็นเรื่องที่สถาบันมักปิดข่าว ไม่ให้เผยแพร่ออกสู่พื้นที่สาธารณะ โดยส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้เกิดจากการเชื่อมโยงของ 5 ภาคส่วน ได้แก่ 1. ตัวมหาวิทยาลัยหรือสถาบัน 2. บุคลากรในสถาบัน 3. นักศึกษาทั่วไป(รุ่นพี่) 4. ผู้นำนักศึกษา และ 5. นักศึกษา ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดการปกปิดสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ให้เผยแพร่สู่พื้นที่สาธารณะ คือสถาบันพยายามที่จะปิดข่าว โดยมีบุคลากรในสถาบันเป็นผู้ดำเนินการปิดข่าว ขณะที่นักศึกษาทั่วไป (รุ่นพี่) และผู้นำนักศึกษาที่ทำการรับน้องของสถาบัน คนกลุ่มนี้จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับบุคลากรในสถาบัน เพราะถ้าหากสถาบันมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ต้องอาศัยนักศึกษานี้ในการเกณฑ์คนเข้ามาช่วยทำกิจรรมสถาบัน ส่วนตัวนักศึกษาเอง เมื่อเกิดเรื่องขึ้นก็ไม่อยากเอาความกับรุ่นพี่ จึงสรุปได้ว่า บุคลากรและสถาบันมีส่วนได้ส่วนเสียในเรื่องดังกล่าว จึงมีความพยายามที่จะไกล่เกลี่ยหรือปิดข่าวเมื่อเกิดเรื่องขึ้นมา

“สถาบันไม่ควรเห็นแก่ชื่อเสียงด้วยการปิดข่าว แต่ควรเปิดเผยข้อมูลอย่างตรงไปตรงมาและควรเป็นหน่วยงานที่จะช่วยหาตัวผู้กระทำความผิด หรือช่วยเหลือผู้เสียหายในการฟ้องร้อง เท่ากับเป็นการแสดงออกถึงความจริงใจ และอีกสาเหตุหนึ่งที่ไม่สามารถหาตัวผู้กระทำความผิดได้ เพราะมีความคิดว่าไม่อยากเอาเรื่องให้เด็กเสียอนาคตหรือหากจะเอาเรื่องกระบวนการทางกฎหมายก็ล่าช้า และมีค่าใช้จ่าย ซึ่งหากเกิดเหตุรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตหรือพิการ ผู้เสียหายก็ไม่อยากดำเนินคดี”นายกีรติ กล่าว

นายเอ (นามสมมติ) ตัวแทนเยาวชนที่เคยผ่านการรับน้องระบบอำนาจนิยม ใช้ความรุนแรง กล่าวว่า อดีตเคยเรียนอาชีวะศึกษา ปี 1ที่สถาบันแห่งหนึ่ง ก่อนที่รุ่นพี่จะจัดกิจกรรม รับน้องที่ต่าง จังหวัด รุ่นพี่จะทำการเทรนรับน้องเกือบทุกวันเพื่อล้างสมอง และปลูกฝังความคิดให้กับรุ่นน้อง เช่น พูดกล่อมให้รักสถาบัน และให้เกลียดสถาบันครู่อริ ส่วนวิธีปฏิบัติ รุ่นพี่จะทำการเตะหน้าอกรุ่นน้องและให้กินไข่ดิบ รวมถึงอาหารแปลกๆที่ไม่เคยกิน เมื่อถึงวันจริงรุ่นพี่ใช้วิธีรับน้อง เช่นเดียวกับ การเทรนแต่จะรุนแรงขึ้น เช่น ดื่มเหล้าแทนน้ำ ให้ยืนดิ่งล้มให้หน้าอกกระแทกพื้น หรือแม้กระทั่ง ใช้เท้าเตะหน้าหรือใช้มือตบหน้า แกล้งนำน้ำทะเลมาต้มข้าวให้กิน นำกะปิมาแทนยาสีฟัน และหลังผ่านการรับน้องก่อนกลับรุ่นพี่จะนำเหล็กรูปสัญลักษณ์บางอย่างมารนไฟเพื่อจี้หัวไหล่รุ่นน้องที่ผ่านการรับน้อง เหมือนเป็นการทำสัญลักษณ์ของรุ่น ส่วนคนที่ไม่เข้ารับการรับน้อง หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ไม่เอาระบบ ก็จะถูกรุ่นพี่บีบให้ออกจากสถาบันด้วยวิธีต่างๆ 

นายเอ กล่าวต่อว่า ความรู้สึกตอนโดนรับน้องไม่ได้รู้สึกอะไรมากเพราะคิดว่าต้องทำเพื่อให้ ได้มีสิทธิเรียนที่สถาบัน ต่อมาเมื่อขึ้นปี2 กลายเป็นรุ่นพี่ที่ต้องมารับน้องบ้าง ตนและรุ่นพี่คนอื่นๆยังคงใช้วิธีรับน้องแบบเดิม เหมือนเป็นวัฒนธรรมที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น แต่จะเลี่ยงการทำร้ายร่างกาย รุ่นน้องเพราะรู้สึกสงสาร จากนั้นไม่นานก็ก่อคดีจนต้องเข้ามาอยู่สถานพินิจและได้โอกาสเข้ามาอยู่ที่ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน(ชาย)บ้านกาญจนาภิเษกที่นี่สอนให้รู้จักเรื่องสิทธิมนุษยชน การเคารพในเนื้อตัวร่างกายผู้อื่น การไม่มีสิทธิไปทำร้ายร่างกายใคร และมีกิจกรรมที่กระตุ้นให้มีความคิด มีเหตุมีผล  ควบคุมอารมณ์ จนเข้าใจและตกผลึกมากพอ  อยากฝากไป ถึงรุ่นพี่ที่ยังใช้ความรุนแรงและใช้อำนาจ ว่าให้หยุดเถอะ อย่าทำอะไรที่ไร้เหตุผล  ขาดสติหรือลืมตัวเพื่อ ให้คนอื่นยอมรับ ต้องเปิดตามองว่าคุณไม่ได้ จมอยู่กับจุดจุดนี้ทั้งชีวิต 

ทั้งนี้ เครือข่ายเยาวชนปกป้องสิทธิและตัวแทนนักศึกษาในเครือข่ายมหา วิทยาลัยสร้างสุขจาก 60 สถาบันการศึกษา ได้ประกาศเจตนารมณ์การจัดกิจกรรมรับน้องอย่างสร้างสรรค์ ภายใต้สโลแกน “รับเพื่อนใหม่ เคารพสิทธิ  มิตรภาพ” ยึดมั่นในหลักการสำคัญดังนี้ 1.จะปรับรูปแบบการรับเพื่อนใหม่ให้เป็นกิจกรรมเชิงบวกและสร้างสรรค์ให้มากขึ้น 2.จะไม่ใช้ความรุนแรงทั้งร่างกาย และวาจาลดคุณค่าความเป็นมนุษย์และละเมิดสิทธิ 3.จะแสวง หาแนวทาง รูปแบบ กิจกรรมการรับเพื่อนใหม่ที่สื่อให้เห็นถึงคุณค่าในตนเอง เคารพตนเอง เห็นคุณค่าของผู้อื่น และเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ 4. จะไม่ให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์  การพนัน  ยาเสพติด  อบายมุขทุกชนิดเข้ามาเกี่ยวข้องในกิจกรรมรับเพื่อนใหม่ 5.ไม่เพิกเฉยต่อความไม่ถูกต้อง และการละเมิดสิทธิที่เกิดขึ้น โดยจะร่วมกันเป็นหูเป็นตา สอดส่องและแจ้งเหตุ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัท เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้าน

กทม. 18 พ.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัทชิปปิ้ง เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้านบาท พบก่อเหตุคล้ายกันในบริษัทฯ อีก 2 แห่ง รวมรัฐเสียหายกว่า 430 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) นำเจ้าหน้าเข้าจับกุม นางสมบุญ อายุ 54 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1051/2568 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์2568 ในความผิดฐาน “ร่วมกันเจตนาหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่มกระทำการใดๆ โดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน ที่ลานจอดรถหน้าอพาร์ทเมนต์ พื้นที่ ม.2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พฤติการณ์ ของ น.ส.สมบุญ ผู้ต้องหา ตรวจสอบพบว่า เป็นหนึ่งในกรรมการ บริษัท แห่งหนึ่งประกอบกิจการเป็นตัวแทนนำเข้าสินค้าและดำเนินพิธีการศุลกากรเพื่อนำสินค้าออกจากท่าเรือ แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่าบริษัทฯดังกล่าวมีพฤติการณ์ปิดบังซ่อนเร้นที่มาของรายได้ รวมถึงค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ โดย บริษัทมักจะไม่มีการออกใบกำกับภาษีขายและใบเสร็จรับเงินสำหรับค่าบริการให้แก่ลูกค้าแต่อย่างใด และการจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างของบริษัทฯ มักจะจ่ายเป็นเงินสดให้ลูกจ้างเป็นรายสัปดาห์ […]

สาวใจเด็ด โดดจยย.รับจ้าง วิ่งตามรถตัวเองหลังตามหา 1 ปี

กทม. 18 พ.ค. – สาวใจเด็ด โดดลงจากมอเตอร์ไซค์รับจ้าง วิ่งไล่รถตัวเอง หลังตามหาและผ่อนกุญแจเปล่ามานานกว่า 1 ปี พบเพื่อนสนิทนำรถไปค้ำประกันกับเจ้าหนี้ จากกรณีคลิปที่มีการแชร์ในโซเซียล ขณะผู้หญิงใส่เสื้อลายกำลังวิ่งไล่ตามรถเก๋งสีขาว พร้อมตะโกนให้คนช่วย จนพลเมืองดี ช่วยกันเข้ามารายล้อมรถและคนขับรถเก๋งต้องเลี้ยวเข้าซอย เพื่อลงมาเคลียร์ ก่อนเกิดเหตุชุลมุนขึ้น เมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) ล่าสุดทีมข่าวเปิดใจ สาวที่ปรากฏในคลิป เล่าถึงสาเหตุที่ต้องเข้าไปขวางรถยนต์คันนี้ เพราะว่าเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม ปี 2567 ตนเองได้ซื้อรถเก๋งคันนี้ ทะเบียนขอนแก่น และนำรถไปฝากจอดไว้ที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง ซึ่งเป็นห้องของแฟนเพื่อนสนิท แต่หลังจากที่นำรถไปฝาก ก็ไม่เคยได้พบรถตัวเองอีกเลย โดยเพื่อนสนิท อ้างว่าแฟนเอาไปขับ ทุกครั้งที่ทวงถามหารถ จะมีการบ่ายเบี่ยงต่างๆ นานา จนในที่สุด ตนเองก็เข้าแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.ห้วยขวาง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามหารถ เวลาผ่านไปประมาณ 1 ปี ก็ยังตามหาไม่ได้ ตนเองจึงต้องผ่อนกุญแจเปล่า มาเป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม […]

ข่าวแนะนำ

เร่งช่วยคนพลัดตกหลุมก่อสร้างรถไฟฟ้า ลึกกว่า 10 ม.

กทม. 19 พ.ค. – เร่งช่วยคนพลัดตกหลุมลึกกว่า 10 ม. โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม เกิดเหตุคนพลัดตกลงไปในหลุมซึ่งกำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า ใกล้เคียงซอยหลานหลวง 8 ขนาดความลึกประมาณ 15-19 เมตร ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างช่วยเหลือ โดยโรยตัวลงไปช่วยผู้ติดอยู่ภายในหลุม สำหรับโครงการดังกล่าว เป็นโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เบื้องต้นคาดว่าอุบัติเหตุน่าจะเกิดระหว่างขั้นตอนก่อสร้าง ซึ่งเป็นช่วงที่ดันปลอกเหล็กขึ้นลงเพื่อขุดดินก่อสร้างสถานีหลานหลวง ส่วนสาเหตุที่แน่ชัดต้องตรวจสอบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

คุมตัวกรรมการบริษัท ว. และสหายฯ ส่งศาลฝากขัง

บางซื่อ 19 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวกรรมการบริษัท ว. และสหายฯ ไปฝากขังศาลอาญาแล้ว พร้อมคัดค้านประกันตัว ส่วนนิติบุคคลบริษัท ตำรวจปล่อยตัวชั่วคราว ช่วงบ่ายวันนี้ (19 พ.ค.68) พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ควบคุมตัวนายพลเดช กรรมการบริษัท ว. และสหาย คอนซัลแตนส์ จำกัด ขึ้นรถตู้ตำรวจไปฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก บรรยากาศระหว่างเจ้าหน้าที่คุมตัวนายพลเดช ออกมาจากห้องสอบสวน บริเวณชั้น 1 ของโรงพัก เจ้าหน้าที่ได้พานายพลเดช เดินขึ้นไปยังชั้น 2 ก่อนจะพาเดินอ้อมไปอีกฝั่งหนึ่งของโรงพัก แล้วพาเดินลงมาขึ้นรถตู้ของ สน.บางซื่อ โดยระหว่างการควบคุมตัวขึ้นรถ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า กังวลหรือไม่เรื่องการยื่นขอประกันตัว และสอบถามอีกว่า ปฏิเสธข้อกล่าวหาหรือไม่ แต่นายพลเดช ไม่ได้ตอบคำถามของสื่อมวลชนแต่อย่างใด มีสีหน้าค่อนข้างกังวล ก่อนจะขึ้นรถตู้ของ สน.บางซื่อ ขณะที่นายพฤหัส มหาวรรณ ทนายความ เดินตามมาทีหลัง ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามว่า นายพลเดช ให้การว่าอย่างไรบ้าง ปฏิเสธหรือยอมรับข้อกล่าวหา […]

นายกฯ แพทองธาร เปิดทำเนียบต้อนรับ ปธน.อินโดนีเซีย

ทำเนียบ 19 พ.ค.- นายกฯ แพทองธาร เปิดทำเนียบต้อนรับประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย เดินทางเยือนประเทศไทยในรอบ 20 ปี พร้อมสานต่อความสัมพันธ์ 75 ปี ยกระดับความสัมพันธ์สู่การเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างกันในทุกมิติ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับ นายปราโบโว ซูบียันโต (H.E. Mr. Prabowo Subianto) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ในการเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล (Official Visit) ในรอบ 20 ปี ในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-อินโดนีเซีย นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ร่วมตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า และนายกรัฐมนตรี เชิญประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ถ่ายภาพร่วมกัน ณ บันไดโถงกลาง ตึกไทยคู่ฟ้า และประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ลงนามในสมุดเยี่ยมและชมของที่ระลึก ณ ห้องสีงาช้าง (ด้านนอก) ตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้นผู้นำทั้งสอง หารือข้อราชการเต็มคณะ ภายใต้กลไก Leaders’ Consultation ครั้งแรก […]

สภาพัฒน์ฯ แถลง GDP ไตรมาส 1/68 โต 3.1% ทั้งปีหั่นเหลือ 1.8%

กรุงเทพฯ 19 พ.ค. – สภาพัฒน์ฯ แถลง GDP ไตรมาส 1/68 โต 3.1% ขณะที่ทั้งปีหั่นเหลือ 1.8% ชี้มองตามสถานการณ์จริงไม่ได้มองในแง่ร้ายเกินไป ลุ้นเงินดิจิทัลเฟส 3 – มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวงประชุมวันนี้ พร้อมเตือนผู้ประกอบการฯ เตรียมรองรับความผันผวนทางการค้า ส่วนประชาชนใช้จ่ายให้มีความรอบคอบมากขึ้น นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงภาวะเศรษฐกิจไตรมาส 1/68 ขยายตัว 3.1% ต่อเนื่องจากร้อยละ 3.3 ในไตรมาส 4/2567 ปัจจัยหลักมาจากการผลิตภาคเอกชนชะลอลง ขณะที่ภาคเกษตรเร่งขึ้น ด้านการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคขั้นสุดท้ายของเอกชน และรัฐบาล การนำเข้าสินค้าและบริการ และการสะสมทุนถาวรเบื้องต้นชะลอลง ขณะที่การส่งออกสินค้าและบริการขยายตัวในเกณฑ์สูง 12.3% โดยเร่งขึ้น 11.5% จากไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม สภาพัฒน์ฯ ได้ปรับคาดการณ์ GDP ปี 68 ลงเหลือเติบโต 1.3-2.3% หรือช่วงกลางของคาดการณ์ที่ 1.8% […]