ตรัง 20 ก.ค. – ญาติผู้ป่วยวัย 68 ปี ร้องขอความเป็นธรรม หลังถูกงูเห่ากัด แต่ รพ.ห้วยยอด กลับให้ดูอาการถึง 3 วัน จึงให้เซรุ่มแก้พิษงู แต่ล่าช้าทำให้คนป่วยอาการทรุดหนัก ต้องส่ง รพ.ตรัง
ครอบครัวและญาติๆ ของ นายจำรัส ซุ่นสั่น อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 180 ม.7 ต.ทุ่งต่อ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.ตรัง กรณีที่ นายจำรัส ถูกงูเห่ากัดที่บริเวณตาตุ่มข้อเท้าด้านขวา เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะไปเก็บมะนาว อยู่บริเวณข้างบ้าน จากนั้นทางครอบครัวจึงได้ทุบตีงูเห่าตัวดังกล่าวจนตาย พร้อมกับนำผ้ารัดขาของ นายจำรัส บริเวณเหนือบาดแผล แล้วนำไปส่ง รพ.ห้วยยอด โดยแพทย์ได้ล้างบาดแผล พร้อมให้ยาฆ่าเชื้อและยาแก้ปวด ก่อนจะให้นอนพักที่ รพ.เพื่อดูอาการ แต่แพทย์กลับไม่ยอมฉีดเซรุ่มแก้พิษงูให้ โดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากผู้ป่วยไม่มีอาการบ่งชี้ว่าโดนงูกัด โดยไม่มีอาการง่วงซึม หรือ ตาเบลอ
ระหว่างที่นอนดูอาการที่ รพ.ห้วยยอด นั้น นายจำรัส มีอาการปวดท้องและแน่นหน้าอกอย่างรุนแรง ถึงขั้นนอนไม่หลับ พยาบาลได้ให้ยาธาตุน้ำขาวมาให้ดื่ม กระทั่งมาถึงวันที่ 4 ก.ค. นายจำรัส เริ่มมีอาการทรุดหนัก บาดแผลเริ่มเปื่อย และเนื้อรอบบาดแผลเริ่มตาย แพทย์จึงไปเบิกเซรุ่มแก้พิษงูมาฉีดให้ และนำตัวส่งต่อไปรักษาที่ รพ.ศูนย์ตรัง หลังจากนั้นได้มีการตัดแต่งเนื้อที่เน่าเปื่อยออกไป และทำการรักษามาโดยตลอด กระทั่งต่อมา นายจำรัส เริ่มมีอาการทรุด เหม่อลอย พูดคุยไม่รู้เรื่อง เจ็บปวดทั้งร่างกายตลอดเวลา และหายใจไม่ออก จนต้องเข้าห้องไอซียู เมื่อวันที่ 15 ก.ค. และขณะนี้ นายจำรัส ไม่รับรู้อะไรแล้ว
ทั้งนี้ แพทย์ รพ.ตรัง ระบุว่า นายจำรัส มีอาการติดเชื้อในกระแสเลือด ติดเชื้อในสมอง ปอดติดเชื้อ สมองเริ่มตายไปบางส่วน และกำลังจะเข้าสู่ภาวะไตวายให้ญาติทำใจ ซึ่งทางครอบครัวและญาติๆ ต่างก็ไม่ได้กล่าวโทษใดๆ ต่อ รพ.ศูนย์ตรัง สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเข้าใจว่าได้รักษาตามอาการของผู้ป่วยในระยะหลังแล้ว แต่ไม่เข้าใจว่าทำไม รพ.ห้วยยอด ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแรกที่ผู้ป่วยเข้ารับการรักษา ถึงไม่ได้ฉีดเซรุ่มแก้พิษงูให้ตั้งแต่เกิดเหตุ แต่กลับจะมาฉีดให้ในวันที่ 4 ไปแล้ว จึงจำต้องออกมาร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.ตรัง เพื่อขอให้ รพ.ห้วยยอด แสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมชี้แจงเหตุผล รวมทั้งวิธีการรักษา นายจำรัส อย่างชัดเจน
ล่าสุด นางสุพิศ ทองแท้ ลูกสาวของผู้ป่วย ได้กล่าวถึงอาการล่าสุดของคุณพ่อขณะที่ยังคงรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู รพ.ศูนย์ตรัง ว่า ต้องรอดูอาการของคุณพ่อต่อไปเรื่อยๆ และรู้สึกเสียใจมากๆ ต่อสิ่งที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเรื่อง น.พ.ปิยวิทย์ เนกขพัฒน์ ผอ.รพ.ห้วยยอด ได้เรียกครอบครัวและญาติๆ ของคุณพ่อไปพูดคุยแล้ว พร้อมขอแสดงความรับผิดชอบเต็มที่ต่อสิ่งที่เกิดขึ้น เช่น กรณีที่ทำไมถึงฉีดเซรุ่มให้กับคุณพ่อล่าช้า แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะเป็นยังไง เพราะต้องรอหารือกันก่อน .- สำนักข่าวไทย