BIG STORY : ไขข้อข้องใจเริ่มบังคับคดี “แพรวา” ได้เมื่อใด

กรุงเทพฯ 19 ก.ค. – คดีแพรวา 9 ศพ ไม่มีจำเลยไปฟังคำพิพากษา จึงต้องส่งหมายให้จำเลยรับทราบ ซึ่งขณะนี้มีเพียงจำเลยที่ 2 คือ บิดา น.ส.แพรวา ที่แจ้งรับทราบหมาย ขณะที่จำเลยอีก 3 คน ทั้ง น.ส.แพรวา มารดา และผู้ครอบครองรถฮอนด้าซีวิคคันที่พุ่งชนรถตู้ ยังไม่มีการแจ้งรับทราบหมาย ทำให้ยังไม่เริ่มนับเวลาชดใช้ค่าสินไหมทดแทนภายใน 30 วัน ตามคำสั่งศาล ส่งผลให้การที่ฝ่ายโจทก์จะยื่นขอบังคับคดี ยังทำไม่ได้ตามไปด้วย แล้วจะทำได้เมื่อไร ติดตามจากรายงาน


หลังศาลฎีกามีคำพิพากษาในคดีแพ่งให้ น.ส.แพรวา, บิดา, มารดา และผู้ครอบครองรถเก๋งซีวิคที่พุ่งชนรถตู้ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 คน บาดเจ็บอีก 4 คน ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทน 25 ล้านบาทเศษ พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี แต่จำเลยทั้ง 4 คน ไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษา ฝ่ายโจทก์จึงส่งคำบังคับให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาไปยังจำเลย ซึ่งจะต้องชดใช้ค่าเสียหายภายใน 30 วัน หลังทราบหมาย หากไม่ปฏิบัติตาม ฝ่ายโจทก์สามารถยื่นเรื่องขอหมายบังคับคดีได้


มีคำถามเกิดขึ้นว่า ระยะเวลา 30 วัน เริ่มนับตั้งแต่เมื่อใด ตอนนี้สิ้นสุดหรือยัง และสามารถเริ่มขั้นตอนบังคับคดีได้หรือยัง 

หัวหน้าทีมทนายโจทก์คดีนี้ ให้ข้อมูลว่า ศาลฎีกามีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา ฝ่ายโจทก์ส่งคำบังคับไปยังจำเลย เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ตามขั้นตอนกฎหมาย เจ้าหน้าที่ศาลจะนำหมายไปแจ้งแก่จำเลยตามภูมิลำเนา หากมีผู้รับ หากมีผู้เซ็นรับหมายด้วยตัวเองหรือครอบครัว ถือว่ารับทราบหมายแล้ว และเริ่มนับระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันที่รับหมาย แต่หากไม่มีผู้รับหมาย เจ้าหน้าที่จะปิดหมายไว้ในที่สังเกตเห็นได้ง่าย เช่น รั้วบ้าน ประตู โดยมีกำหนดว่า เมื่อปิดหมายครบ 15 วัน ให้ถือว่ารับทราบหมายโดยปริยาย และเริ่มนับระยะเวลาต่อไป 30 วัน เพื่อชดใช้ค่าเสียหายตามคำพิพากษา ทำให้มีเวลารวมเป็น 45 วัน


มีรายงานว่า ขณะนี้จำเลยที่ 2 คือ บิดา น.ส.แพรวา รับทราบหมายแล้ว เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา หากนับเวลาต่อไป 30 วัน จะสิ้นสุดวันที่ 4 สิงหาคม แต่คดีนี้ศาลให้ชดใช้ร่วมกัน จึงต้องรอให้จำเลยที่ 1, 3 และ 4 รับทราบหมายให้ครบ จึงจะเริ่มนับเวลา 30 วัน ซึ่งจำเลยทั้ง 3 คน มีภูมิลำเนาอยู่นอกเขตศาล จึงต้องส่งหมายข้ามเขต และขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งรับทราบหมาย ทำให้ยังไม่สามารถระบุวันที่แน่นอนได้ และจะเริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการบังคับคดีได้เมื่อใด แต่ทีมทนายยืนยันว่าจะไม่ปล่อยให้เวลาเนิ่นนาน

ส่วนกรณีที่มีผู้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า ตามกฎหมายฉบับใหม่ให้เริ่มนับเวลาชดใช้เยียวยาภายใน 30 วัน นับแต่วันที่มีคำพิพากษา แม้จำเลยไม่มาฟังคำพิพากษา ไม่จำเป็นต้องรอให้จำเลยรับหมายนั้น หัวหน้าทีมทนายฯ ชี้แจงว่า ในระหว่างการพิจารณาคดีนี้ จำเลยที่ 1 คือ น.ส.แพรวา และจำเลยที่ 3 คือ มารดา ไม่ได้ยื่นคำให้การภายในเวลาที่กำหนด ซึ่งตามกฎหมายระบุว่า หากจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ หรือขาดนัดพิจารณา จะต้องส่งคำบังคับนั้นให้แก่จำเลยด้วย และในวันอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในรายงานของศาลระบุให้มีการส่งคำบังคับให้แก่จำเลย

คดีนี้ศาลให้จำเลยทั้ง 4 คน ร่วมกันชดใช้เยียวยา 25 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ฟ้อง จนกว่าจะชดใช้แล้วเสร็จ หากนับถึงวันนี้เกือบ 9 ปีแล้ว ที่จำเลยสู้คดีจนถึงชั้นฎีกา ดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นทำให้ตัวเลขที่ต้องชำระขยับเพิ่มขึ้นไปที่ราว 43 ล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นจนกว่าจะชดใช้แล้วเสร็จ

แต่สิ่งที่สำคัญกว่าการชดใช้เยียวยา คือ ต้องการให้เป็นคดีตัวอย่างที่ศาลได้วินิจฉัยเป็นแนวทางให้เห็นว่า บิดามารดา ผู้ปกครอง ไม่ควรสนับสนุนการกระทำที่ไม่สมควร เช่น การปล่อยให้บุตรหลานขับรถ ทั้งที่ยังเป็นเยาวชน เมื่อเกิดเหตุโดยประมาท ศาลจึงวินิจฉัยให้ร่วมรับผิดด้วย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

พบสารก่อมะเร็ง จากเหตุไฟไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ฉลองกรุง

กรุงเทพฯ 13 พ.ค. – พบสารพิษบางตัวเป็นสารก่อมะเร็ง จากเหตุเพลิงไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ ย่านฉลองกรุง 55 แนะผู้สูดดมไปตรวจเลือดและตรวจปัสสาวะ.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กแจ๊ส” เผยไม่สนใจ-ไม่ให้ค่า ชี้มีหลาย “J”

13 พ.ค. – หลัง “สส.ฟลุ๊ค มนัสนันท์” จากพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความเดือดทางเฟซบุ๊ก “กูไม่กลัวมึง ไอ้ J” ล่าสุด “บิ๊กแจ๊ส” ออกมายืนยันไม่สนใจ พร้อมระบุลูกชายตนสอนมาดี รู้จักเด็ก รู้จักผู้ใหญ่ ไม่ก้าวร้าว ความคืบหน้าประเด็นร้อนการเมืองท้องถิ่น จ.ปทุมธานี หลังเพิ่งผ่านการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี 2568 เมื่อวันที่อาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่คล้อยหลังเพียง 1 วัน สส.พรรคใหญ่ในพื้นที่ปทุมธานี คือ นายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ หรือ ฟลุ๊ค สส.ปทุมธานี เขต 5 พรรคเพื่อไทย ลูกชายนายกฤษดา หลีนวรัตน์ เคลื่อนไหวทางเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยบางโพสต์มีความเกี่ยวข้องกับการจะฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ และบางโพสต์ได้ท้าทายว่าไม่กลัวบุคคลอักษรเจ (J) วันนี้ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เปิดใจกับทีมข่าวสำนักข่าวไทย ระบุว่า อย่าไปให้ค่า ตัวเจ (J ) […]

แจ้งข้อหาซ่องโจร “สจ.กอล์ฟ” และพวก เพิ่มอีก 1 ข้อหา

สงขลา 13 พ.ค. – ตำรวจแจ้งข้อหา “ซ่องโจร” เพิ่มอีก 1 ข้อหา แก๊ง “สจ.กอล์ฟ” คดีรุมทำร้ายตำรวจหน้าหน่วยเลือกตั้งตำบลพะวง จ.สงขลา เตรียมนำตัวส่งศาลวันพรุ่งนี้ (14 พ.ค.) ญาติขอค้านประกันตัว หวั่นอิทธิพล คดีนายสิรดนัย หรือ สจ.กอล์ฟ สจ.เขต 7 จ.สงขลา สั่งการให้ลูกน้องไปรุมทำร้ายร่างกาย ด.ต.นิสาธิต คงเทพ ตำรวจ ตชด. ประจำหน่วยเลือกตั้งเทศบาลตำบลพะวง อ.เมือง จ.สงขลา เหตุเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังไม่พอใจถูกห้ามถ่ายรูปในหน่วยเลือกตั้งขณะไปลงคะแนน ก่อนตำรวจรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับ และวานนี้ (12 พ.ค.) นายสมยศ หรือ โกถึก สส.เขต 3 จ.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพ่อ นำ สจ.กอล์ฟ เข้ามอบตัว ส่วนลูกน้องอีก 6 คน ถูกจับกุมตัวได้หมดแล้วเช่นกัน […]

“ปชน.” ไม่ขับ “สส.กฤษฎิ์” พ้นพรรค-ตัดสิทธิทุกอย่าง

รัฐสภา 13 พ.ค.- “เท้ง” ประกาศดอง “งูเห่า” ไม่ขับ “สส.กฤษฎิ์” พ้น ปชน.ตามต้องการ ส่งตีความหนังสือเข้าข่ายลาออก พ้น สส.หรือไม่ พร้อมตัดสิทธิทุกอย่างในโควตาพรรค นายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน และนายสหัสวัต คุ้มคง ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาชน ร่วมกันแถลงตอบโต้นางสาวกฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ พรรคประชาชน เขต 6 จังหวัดชลบุรี ทำหนังสือ ขอยุติบทบาทภายในพรรคและขอให้พรรคประชาชนขับออก นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่าได้รับฟังเหตุผล ที่น.ส.กฤษฎิ์แถลงต่อข้อกล่าวหาว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่ได้รับการผลักดันนโยบายจึงต้องการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ และอ้างว่าไม่เคยได้รับงบประมาณจากพรรคในการทำกิจกรรมนั้น ยืนยันว่าพรรคได้สนับสนุนการทำงานในพื้นที่มาโดยตลอด ฝ่ายนโยบายพรรคเคยอนุมัติงบในส่วนกลางเพื่อให้ไปทำกิจกรรมรับฟังความเห็นต่อการพัฒนานโยบายของพื้นที่ศรีราชาตามที่ได้ร้องขอเข้ามา ซึ่งสส. คนอื่นก็ทำงานได้อย่างราบรื่นและได้รับการสนับสนุน และที่บอกว่าการทำงานในคณะกรรมการธิการคมนาคม ไม่ได้รับการสนับสนุนนั้นนับตั้งแต่เริ่มเปิดสภา เราจะให้สส.ทุกคนได้เสนอมาว่าอยากได้ทำงานในกรรมาธิการฯในคณะใด แต่เป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะได้รับการเป็นกรรมาธิการในอันดับหนึ่งที่เลือก แต่น.ส.กฤษฎิ์ก็ได้ตามที่ต้องการและยังได้เป็นรองประธาน อนุกรรมาธิการ ฯ เรื่องงานก่อสร้างท่าเรือ และยังมีมติให้ศึกษาดูงานเพื่อรับฟังปัญหาทางต่าง ๆ จากประชาชนที่อยู่ในเขตท่าเรือแหลมฉบัง ส่วนเรื่องการไม่ได้รับความเคารพเรื่องสภานะทางเพศนั้น นายปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่า […]