ก.คลัง 19 ก.ค. – คลังเตรียมคลอดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังแถลงนโยบาย ยืนยันไม่แทรกแซงแบงก์ชาติคุมค่าเงิน
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คลังจะให้ความสำคัญกับการดูแลเศรษฐกิจ โดยเศรษฐกิจที่มีความผันผวนจากภายนอก ดังนั้น รัฐบาลจะเร่งสร้างความเข้มแข็งจากภายในประเทศ ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะออกมานั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้ แต่เบื้องต้นยืนยันว่าจะมีออกมาแน่นอนภายหลังจากแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในช่วงปลายเดือนนี้
“ต้องสร้างความเข้มแข็งจากภายในช่วงที่ภายนอกผันผวน เพราะหากภายในไม่เข้มแข็งและภายนอกประเทศผันผวนจะไม่มีภูมิคุ้มกันในการดูแล และพร้อมรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย ทุกพรรค สำหรับนโยบายที่จะทำจะมุ่งเน้นการยะดับการพัฒนาไทยให้มีความสามารถในการแข่งขัน ก้าวทันโลก โดยเฉพาะภาคเกษตรจะต้องเริ่มนำเทคโนโลยีมาใช้ ด้านโชห่วยจะต้องติดอาวุธ โดยการนำอี-คอมเมิร์ซมาใช้ให้เป็นประโยชน์ และที่สำคัญ คือ งบประมาณ การสนับสนุนทางด้านการเงินจะต้องดูอย่างเหมาะสม” นายอุตตม กล่าว
ส่วนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยืนยันว่าจะขยายผลต่อแน่นอน เพราะถือว่าเป็นสวัสดิการขั้นพื้นฐานที่พี่น้องประชาชนควรเข้าถึง แต่จะออกมาในรูปแบบใดนั้น ขอพิจารณาก่อน สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ยืนยันว่าจะเสนอมาตรการอย่างเป็นรูปธรรมให้กับคณะรัฐมนตรีพิจารณา ภายหลังจากที่แถลงนโยบายรัฐบาลในวันที่ 25 กรกฎาคมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ สิ่งสำคัญ คือ การจัดสรรงบประมาณให้สอดรับกับยุทธศาสตร์ และยกระดับเศรษฐกิจฐานราก รวมถึงการดูแลวินัยการเงินการคลังอย่างต่อเนื่อง เพราะถือเป็นพื้นฐานสำคัญของการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์
สำหรับนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ประกาศลดภาษีบุคคลธรรมดาลงเหลือ 10% นั้น ยืนยันว่า พรรคไม่เคยเสนอการปรับลดโดยตรง ซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้มีโอกาสชี้เแจง ทำให้อาจเข้าใจไม่ตรงกัน โดยการดำเนินการด้านภาษีนั้น เป็นเพียงการทบทวนของโครงสร้างภาษีของประเทศ เพราะปัจจุบันมีความเหลื่อมล้ำระหว่างบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล แต่จะปรับอย่างไรนั้น คงยังต้องดูในรายละเอียด
“การพิจารณาภาษีบุคคลธรรมดา ปัจจุบันเก็บเพดานสูงสุดอยู่ที่ 35% ส่วนนิติบุคคลเพดานสูงสุด 25% ก็ต้องมาดูให้เหมาะสม โดยจะมีการทบทวนใหม่ ซึ่งก็เป็นไปได้ที่จะมีทั้งปรับขึ้นและลดลง ขณะที่ระยะยาว สิ่งที่ต้องดู คือ การเพิ่มรายได้ให้ประเทศ การรักษาวินัยทางการเงินการคลังไม่ให้ได้รับผลกระทบ” นายอุตตม กล่าว
ส่วนการพิจารณาเรื่องการต่อสิทธิ์ลดหย่อนภาษีจากการซื้อกองทุน LTF ที่จะหมดอายุสิ้นปีนั้น ยังไม่ได้ยืนยันในเรื่องดังกล่าวว่าจะไม่ต่อ เนื่องจากจะต้องหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจนทั้งตลาดทุนและส่วนงานอื่น ๆ โดยจะต้องพิจารณาว่าหากยังดำเนินการต่อจะมีประโยชน์และความจำเป็นมากน้อยเพียงใด ซึ่งจะต้องพิจารณาให้ครบถ้วน ด้านภาษีอีบิซซิเนทนั้น ยืนยันว่าจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบในเชิงลึก
นายอุตตม กล่าวถึงเงินบาทที่ปรับตัวแข็งค่าในช่วงที่ผ่านมาว่า ได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย แต่เชื่อว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำหน้าที่และดูแลให้ค่าเงินอยู่ในระดับที่เหมาะสม ส่วนการหารือร่วมกันระหว่าง ธปท.และกระทรวงการคลังนั้น เป็นเรื่องปกติที่ทำอยู่เสมอ และเชื่อว่าในอนาคตจะมีการหารือกันต่อไป ส่วนการจะให้ ธปท.ลดดอกเบี้ยนั้น ยืนยันว่าไม่มีการก้าวก่ายการทำงาน
ส่วนกรณีที่ พปชร.มีกำหนดสัมมนา ส.ส.พรรค ในหัวข้อ “เสริมศักยภาพสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร” ที่ 88 การ์มองเต้ รีสอร์ท วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา วันที่ 21-22 กรกฎาคม โดยจะเป็นการซักซ้อมเตรียมความพร้อมการทำงานในสภาก่อนแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกลาโหม วันที่ 25 กรกฎาคมนี้นั้น ยังไม่สามารถระบุได้ว่า พลเอกประยุทธ์ และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะเข้าร่วมด้วยหรือไม่ แต่ยืนยันว่า ส.ส.ของพรรคจะไปอย่างพร้อมเพรียงกันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย