เตรียมคลอดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังแถลงนโยบาย

ก.คลัง 19 ก.ค. – คลังเตรียมคลอดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังแถลงนโยบาย ยืนยันไม่แทรกแซงแบงก์ชาติคุมค่าเงิน


นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คลังจะให้ความสำคัญกับการดูแลเศรษฐกิจ โดยเศรษฐกิจที่มีความผันผวนจากภายนอก ดังนั้น รัฐบาลจะเร่งสร้างความเข้มแข็งจากภายในประเทศ ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะออกมานั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้ แต่เบื้องต้นยืนยันว่าจะมีออกมาแน่นอนภายหลังจากแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในช่วงปลายเดือนนี้

“ต้องสร้างความเข้มแข็งจากภายในช่วงที่ภายนอกผันผวน เพราะหากภายในไม่เข้มแข็งและภายนอกประเทศผันผวนจะไม่มีภูมิคุ้มกันในการดูแล และพร้อมรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย ทุกพรรค สำหรับนโยบายที่จะทำจะมุ่งเน้นการยะดับการพัฒนาไทยให้มีความสามารถในการแข่งขัน ก้าวทันโลก โดยเฉพาะภาคเกษตรจะต้องเริ่มนำเทคโนโลยีมาใช้ ด้านโชห่วยจะต้องติดอาวุธ โดยการนำอี-คอมเมิร์ซมาใช้ให้เป็นประโยชน์ และที่สำคัญ คือ งบประมาณ การสนับสนุนทางด้านการเงินจะต้องดูอย่างเหมาะสม” นายอุตตม กล่าว


ส่วนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยืนยันว่าจะขยายผลต่อแน่นอน เพราะถือว่าเป็นสวัสดิการขั้นพื้นฐานที่พี่น้องประชาชนควรเข้าถึง แต่จะออกมาในรูปแบบใดนั้น ขอพิจารณาก่อน สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ยืนยันว่าจะเสนอมาตรการอย่างเป็นรูปธรรมให้กับคณะรัฐมนตรีพิจารณา ภายหลังจากที่แถลงนโยบายรัฐบาลในวันที่ 25 กรกฎาคมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ สิ่งสำคัญ คือ การจัดสรรงบประมาณให้สอดรับกับยุทธศาสตร์ และยกระดับเศรษฐกิจฐานราก รวมถึงการดูแลวินัยการเงินการคลังอย่างต่อเนื่อง เพราะถือเป็นพื้นฐานสำคัญของการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์

สำหรับนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ประกาศลดภาษีบุคคลธรรมดาลงเหลือ 10% นั้น ยืนยันว่า พรรคไม่เคยเสนอการปรับลดโดยตรง ซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้มีโอกาสชี้เแจง ทำให้อาจเข้าใจไม่ตรงกัน โดยการดำเนินการด้านภาษีนั้น เป็นเพียงการทบทวนของโครงสร้างภาษีของประเทศ เพราะปัจจุบันมีความเหลื่อมล้ำระหว่างบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล แต่จะปรับอย่างไรนั้น คงยังต้องดูในรายละเอียด 


“การพิจารณาภาษีบุคคลธรรมดา ปัจจุบันเก็บเพดานสูงสุดอยู่ที่ 35% ส่วนนิติบุคคลเพดานสูงสุด 25% ก็ต้องมาดูให้เหมาะสม โดยจะมีการทบทวนใหม่ ซึ่งก็เป็นไปได้ที่จะมีทั้งปรับขึ้นและลดลง ขณะที่ระยะยาว สิ่งที่ต้องดู คือ การเพิ่มรายได้ให้ประเทศ การรักษาวินัยทางการเงินการคลังไม่ให้ได้รับผลกระทบ” นายอุตตม กล่าว 

ส่วนการพิจารณาเรื่องการต่อสิทธิ์ลดหย่อนภาษีจากการซื้อกองทุน LTF ที่จะหมดอายุสิ้นปีนั้น ยังไม่ได้ยืนยันในเรื่องดังกล่าวว่าจะไม่ต่อ เนื่องจากจะต้องหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจนทั้งตลาดทุนและส่วนงานอื่น ๆ โดยจะต้องพิจารณาว่าหากยังดำเนินการต่อจะมีประโยชน์และความจำเป็นมากน้อยเพียงใด ซึ่งจะต้องพิจารณาให้ครบถ้วน ด้านภาษีอีบิซซิเนทนั้น ยืนยันว่าจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบในเชิงลึก

นายอุตตม กล่าวถึงเงินบาทที่ปรับตัวแข็งค่าในช่วงที่ผ่านมาว่า ได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย แต่เชื่อว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำหน้าที่และดูแลให้ค่าเงินอยู่ในระดับที่เหมาะสม ส่วนการหารือร่วมกันระหว่าง ธปท.และกระทรวงการคลังนั้น เป็นเรื่องปกติที่ทำอยู่เสมอ และเชื่อว่าในอนาคตจะมีการหารือกันต่อไป ส่วนการจะให้ ธปท.ลดดอกเบี้ยนั้น ยืนยันว่าไม่มีการก้าวก่ายการทำงาน 

ส่วนกรณีที่ พปชร.มีกำหนดสัมมนา ส.ส.พรรค ในหัวข้อ “เสริมศักยภาพสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร” ที่ 88 การ์มองเต้ รีสอร์ท วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา วันที่ 21-22 กรกฎาคม โดยจะเป็นการซักซ้อมเตรียมความพร้อมการทำงานในสภาก่อนแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกลาโหม วันที่ 25 กรกฎาคมนี้นั้น ยังไม่สามารถระบุได้ว่า พลเอกประยุทธ์ และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะเข้าร่วมด้วยหรือไม่ แต่ยืนยันว่า ส.ส.ของพรรคจะไปอย่างพร้อมเพรียงกันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้โดยสารรถทัวร์สยอง นั่งร่วมกับศพจากโคราชถึงลำปาง

ลำปาง 17 มิ.ย. – ไม่รู้นั่งมากับศพทั้งคืน ผู้โดยสารรถทัวร์สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ ถึงขนส่งลำปาง ผวาทั้งคัน หลังรถเข้าจอดชานชาลาพบหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิต ตรวจสอบเบื้องต้นพบขามีรอยช้ำ เลือดไหล แพทย์คาดเสียชีวิตจากโรคประจำตัว ช่วง 05.30 น. วานนี้ (16 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลลำปาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างลำปาง รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตบนรถทัวร์โดยสาร สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ จอดอยู่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำปาง เทศบาลนครลำปาง ผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 38 ปี ชาว ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง นั่งมากับรถทัวร์โดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ชั้น 2 ฝั่งซ้ายโซนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่นั่งเดียว ขึ้นรถต้นทางจาก จ.นครราชสีมา ปลายทาง จ.ลำปาง โดยรถเข้าจอดที่ชานชาลา เจ้าหน้าที่ของบริษัททัวร์ได้เชิญผู้โดยสารทั้งหมดลงมาจากรถ จากนั้นแพทย์เวรโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัย ร่วมชันสูตรศพ ทำเอาผู้โดยสารที่นั่งมาในรถคันเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ที่นั่งด้านหน้าและหลัง ถึงกับสยอง […]

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย

ครูสาวเขียนจดหมายระบายความอัดอั้น ก่อนคิดสั้น-ศธ.สั่งสอบข้อเท็จจริง

บุรีรัมย์ 17 มิ.ย. – ครูสาวโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ เขียนจดหมายระบายความอัดอั้น “งานครูหนักและเครียดมากจนทนไม่ไหว” ก่อนตัดสินใจคิดสั้น ด้าน ศธ. สั่งสอบข้อเท็จจริง ยอมรับครูรับภาระหนัก ตำรวจพร้อมกู้ภัยได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตในบ้านหลังหนึ่ง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พบร่างของครูมัท วัย 39 ปี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ โดยครูตัดสินใจลาโลกด้วยตัวเอง ข้างร่างของครูมีจดหมายลาที่เขียนถึง 5 หน้ากระดาษ หน้าซองจดหมายเขียนไว้ว่า “จดหมายส่วนตัวถึงครอบครัวของฉัน” เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยหน้าที่ 1-4 ผู้ตายเขียนถึงพี่สาวซึ่งเป็นข้าราชการครู ลูกสาววัย 10 ขวบ และพ่อแม่ ส่วนหน้าที่ 5 เขียนถึงการทำงาน ถึงสาเหตุที่ลาโลกใบนี้ เพราะไม่สบายกายและไม่สบายใจ มีปัญหาเรื่องการทำงาน การเงิน การบัญชี ซึ่งพอกพูนจนแก้ไขได้ยาก ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพราะครูมัทเพียงคนเดียว เกิดจากกระบวนการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพภายในโรงเรียน ทำงานไม่เป็นระบบ ให้เบิกเงินก่อนเคลียร์เอกสารทีหลัง สุดท้ายนิ่งเฉย ไม่มีใครมาเคลียร์ให้ อันไหนเคลียร์เองได้ก็ดีไป แต่อันไหนเคลียร์ไม่ได้ก็ต้องมานั่งเครียดเองจนหัวจะระเบิด เป็นไมเกรนแทบทุกวัน […]

สาวโพสต์ถูกไฟดูดจากตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดัง

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – สาวโพสต์ถูกไฟตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดังดูดมือ ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายวัน ทำงานไม่ได้ กินข้าวไม่ได้ ชีวิตพัง ห้างโยนภาระให้เดินเอกสารเบิกกับโรงพยาบาลเอง สาวโพสต์ภาพพร้อมเล่าเรื่องราวเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา กำลังขับรถเข้าลานจอดรถห้างฯ แห่งหนึ่ง แล้วลดกระจกเอามือโบกระบบเซ็นเซอร์เพื่อรับบัตรจอด ปรากฏว่าถูกไฟดูดทั้งที่มือไม่ได้แตะโดนเครื่อง เพราะระบบเซ็นเซอร์ไม่ต้องสัมผัสโดน แค่โบกหน้าเครื่อง ตนเองรู้สึกไฟดูด แขนชา จี๊ดขึ้นหัว และชาลงไปถึงขา บัตรก็ไหลออกมาจากเครื่อง แต่ไม้กั้นรถไม่เปิด คาดว่าไฟฟ้าในเครื่องน่าจะขัดข้อง และไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณนั้นเลย จะกดปุ่ม SOS ขอความช่วยเหลือที่ตัวเครื่องก็ไม่กล้า เพราะกลัวถูกไฟดูดรอบ 2 จึงพยายามบีบแตรเรียกหลายครั้งกว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาหา พอเจ้าหน้าที่มาตนก็บอกว่าถูกไฟดูด แต่เจ้าหน้าที่มาเปิดไม้กั้นให้และไม่พูดอะไรต่อ เลยรีบเอารถเข้าไปในลานจอด จากนั้นรีบเดินไปที่จุดบริการลูกค้า เพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะตอนนั้นชาไปครึ่งตัว เจ้าหน้าที่พาไปห้องพยาบาล เอาเจลเย็นมาประคบอยู่นานก็ไม่รู้สึกดีขึ้น แขนเริ่มไม่มีแรงยก เจ้าหน้าที่เห็นอาการหนักเลยพาไปโรงพยาบาลที่มีสัญญากับห้าง หมอตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจกับตรวจเลือดแล้วค่าปกติดี หมอสั่งยาและให้กลับบ้าน ทั้งที่ยังไม่หายชา ถึงขนาดแขนไม่มีแรงแม้แต่จะเซ็นเอกสาร หมอบอกว่าคุณไม่เคยข้อศอกกระแทกโต๊ะเหรอ ชาๆ เหมือนกัน เดี๋ยวก็หายเอง ตนเองจึงตั้งคำถามว่าจะหายเองจริงเหรอ เพราะยังทำอะไรไม่ได้เลย ตอนกลางคืนลองยกแขนนิ้วยังสั่นอยู่เลย กินยาคลายกล้ามเนื้อก็ไม่มีอะไรดีขึ้น […]

ข่าวแนะนำ

วันแรกห้ามคนไทยไปทำงาน “กาสิโน-สถานบันเทิง” ปอยเปต

กัมพูชา 17 มิ.ย. – ติดตามบรรยากาศวันแรกของการยกระดับมาตรการคุมเข้มการเดินทางข้ามไปที่กาสิโนฝั่งกัมพูชา ที่ด่านคลองลึก จ.สระแก้ว ด่านที่มีมูลค่าการค้าสูงสุดระหว่างไทยและกัมพูชา สำหรับวันแรกของมาตรการยกระดับตามคำสั่งกองกำลังบูรพาที่ห้ามไม่ให้คนไทยข้ามไปบ่อนและคาสิโนฝั่งกัมพูชาทั้งคนที่จะข้ามไปทำงานและเล่นการพนัน ในช่วงเช้าก่อนที่จะทราบมาตรการ พบมีคนไทยจำนวนมากนั่งต่อแถวยาวเหยียดตั้งแต่หน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองยาวไปจนถึงตลาดโรงเกลือระยะทาง 2 กิโลเมตร แต่เมื่อมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบถึงมาตรการที่มีการยกระดับและให้คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินปรากฏว่าคนไทยที่นั่งต่อแถวได้แยกย้ายไปอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้หลังการยกระดับคำสั่งของกองกำลังบูรพาพบว่าจากเดิมที่มีคนไทยข้ามไปฝั่งปอยเปตเฉลี่ยวันละ 4,000-5,000 คน วันนี้ปรากฏว่าเป็นคนไทยเดินทางข้ามไปเป็นความบังเอิญที่ตัวเลขทั้งข้ามไปโดย Flowing Pass หรือบัตรผ่านแดนชั่วคราวและข้ามไปโดยพาสปอร์ตมีตัวเลขตรงกันคือมีข้ามไปเพียงอย่างละ 196 คนเท่านั้น โดยมีรายงานว่าสำหรับคนที่ไม่ได้ข้ามไป ถ้าเป็นคนในพื้นที่ที่เคยข้ามไปทำงาน บางส่วนก็กลับไปที่บ้านพัก แต่สำหรับคนไทยที่ต้องการเดินทางข้ามไปกาสิโนฝั่งกัมพูชา บางส่วนก็เดินทางกลับต้นทาง แต่บางส่วนที่หวังว่า อาจมีการผ่อนคลายมาตรการ ก็เปิดรีสอร์ตหรือห้องพักต่างๆ ใกล้เคียงด่านเป็นที่พำนัก ทำให้ขณะนี้รีสอร์ตและโรงแรมต่างๆ ในอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว มีผู้เข้าพักเต็มในหลายที่ด้วยกัน พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว เปิดเผยว่าได้รับคำสั่งจากกองกำลังบูรพาตั้งแต่ค่ำวานนี้และถือปฏิบัติตั้งแต่เวลา 08.00 น. ที่ผ่านมา ดังนั้นประชาสัมพันธ์ถึงคนไทยที่อยู่ในฝั่งปอยเปตให้รีบเดินทางกลับมายังฝั่งไทยส่วนคนไทยที่จะเดินทางข้ามไปอย่างกัมพูชาหากไม่จำเป็นขอให้งดการเดินทาง ทั้งนี้สำหรับการรองรับหลังมีการควบคุมบริเวณด่านพรมแดนไม่ข้ามไปยังบ่อนกาสิโนฝั่งกัมพูชา พบว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะตำรวจตระเวนชายแดนและทหารพรานคุมเข้มตั้งแต่ต้นน้ำ และมีรายงานว่ามีการวางกำลังตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาในเขตจังหวัดสระแก้วเช่น เพื่อป้องกันการลักลอบใช้ช่องทางธรรมชาติเพื่อเข้าไปยังประเทศกัมพูชา.-สำนักข่าวไทย

บอร์ดค่าจ้างเคาะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท กทม.-บางกิจการ ตจว.

กทม. 17 มิ.ย.-แรงงานเฮ! ก.แรงงาน ขับเคลื่อนสำเร็จ “ปลัดบุญสงค์” เผยบอร์ดค่าจ้างเคาะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท พื้นที่กรุงเทพฯ และบางกิจการในต่างจังหวัด เริ่ม 1 ก.ค.นี้ นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง (ไตรภาคี) ชุดที่ 22 ครั้งที่ 6/2568 มีมติเห็นชอบให้ปรับขึ้น ค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท ในหลายพื้นที่และกลุ่มกิจการทั่วประเทศ โดยถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการยกระดับรายได้ให้กับแรงงานไทย ตามแนวทางนโยบายของรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ที่มุ่งให้แรงงานไทยมีค่าจ้างที่เป็นธรรม และสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน มติของที่ประชุมในวันนี้ ซึ่งประกอบด้วยกรรมการจากฝ่ายนายจ้าง ฝ่ายลูกจ้าง และฝ่ายรัฐบาล รวม 15 คน มีเสียงเห็นชอบ 2 ใน 3 โดยกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ ดังนี้•พื้นที่กรุงเทพมหานคร ปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาทต่อวัน ทั่วพื้นที่•ต่างจังหวัด ปรับค่าแรง 400 บาท […]

นายกฯ เผยพร้อมอพยพคนไทยออกจากกรุงเตหะราน

พรรคเพื่อไทย 17 มิ.ย.-นายกฯ ย้ำความพร้อมหลังสถานทูตฯ สั่งคนไทยอพยพออกจากกรุงเตหะราน ปัดตอบ “อนุทิน” เตรียมเป็นฝ่ายค้าน หากยึดมหาดไทยคืน เมื่อเวลา 16.45 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน ออกแถลงการณ์อพยพคนไทยออกจากกรุงเตหะราน หลังจากสถานการณ์ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้ง แต่เดี๋ยวจะเช็กเลย น่าจะอพยพแล้ว เพราะเตรียมการไว้แล้วตั้งแต่เมื่อเช้า นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ตอบคำถามถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า หากกระทรวงมหาดไทยไม่ได้อยู่กับพรรคภูมิใจไทย ก็พร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้าน โดยนายกรัฐมนตรีได้เดินทางกลับในทันที.-316.-สำนักข่าวไทย

pile of durians

กัมพูชาห้ามนำเข้าผัก-ผลไม้จากไทยแล้ว

พนมเปญ 17 มิ.ย.- มาตรการห้ามนำเข้าผักและผลไม้จากไทยเข้าไปในกัมพูชา เริ่มมีผลแล้วในวันนี้ หลังจากครบกำหนดเส้นตายที่รัฐบาลกัมพูชาประกาศไว้ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชา รายงานอ้าง พล.ท.สก เวสนะ อธิบดีกรมตรวจคนเข้าเมืองกัมพูชาว่า ขณะนี้จุดผ่านแดนทุกด่านในกัมพูชาได้ห้ามการนำเข้าผักและผลไม้ทุกชนิดจากประเทศไทยเข้ากัมพูชาแล้ว ด้านสำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานเนื้อหาเดียวกันตามที่ พล.ท.สก ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับซินหัว แขมร์ไทมส์ ระบุว่า การยื่นคำขาดของรัฐบาลกัมพูชาให้ไทยเปิดด่านภายในเวลา 24 ชั่วโมง ได้สิ้นสุดลงแล้ว ทำให้ผักและผลไม้ของไทยทั้งหมดไม่สามารถข้ามแดนเข้ามาในกัมพูชาได้ เป็นการเคลื่อนไหวเพื่อตอบโต้การคุกคามและดูหมิ่นของกองทัพไทย หลังจากสถานการณ์บริเวณชายแดน 2 ประเทศตึงเครียด โดยเกิดจากฝ่ายไทย.-814.-สำนักข่าวไทย