สมุทรสงคราม 18 ก.ค. – จ.สมุทรสงคราม และวัดเพชรสมุทรวรวิหาร พร้อมเยียวยาผู้บาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุศาลาริมน้ำถล่ม ส่วนศาลาใกล้เคียง วิศวกรรมสถานฯ แนะรื้อทิ้ง หวั่นเกิดเหตุซ้ำ
กว่า 2 วันเต็ม ที่เจ้าหน้าที่ระดมทีมกว่า 270 คน ค้นหาผู้สูญหายจากเหตุศาลาไทยริมน้ำแม่กลอง จ.สมุทรสงคราม ถล่ม เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา ในที่สุดสิ่งที่หลายคนรอคอยและส่งกำลังใจให้ภารกิจบรรลุเป้าหมายก็เป็นจริง เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถกู้ร่างของผู้สูญหายคนสุดท้ายได้สำเร็จ เมื่อเวลา 01.01 น. วันนี้ (18 ก.ค.)
หนึ่งในผู้รอดชีวิตเป็นแม่ค้าบนศาลาดังกล่าว เล่าว่า เหตุเกิดประมาณเที่ยงเศษๆ ของวันที่ 16 กรกฎาคม ได้ยินเสียงแกร็กๆ 2 ครั้ง แล้วศาลาก็พังลงไป
วันนี้เจ้าหน้าที่ระดมกำลังเก็บอุปกรณ์ ซากปรักหักพังขึ้นจากน้ำ เพื่อเปิดพื้นที่ให้เทศบาลเมืองสมุทรสงครามเข้าบริหารจัดการ ขณะที่พื้นที่โดยรอบที่เกิดเหตุปิดประกาศเป็นพื้นที่อันตราย ห้ามเข้าพื้นที่ เพราะอาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้
เจ้าหน้าที่วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ (วสท.) ลงพื้นที่ตรวจสอบศาลาแฝดด้านข้าง พบศาลาสร้างมากว่า 50 ปีแล้ว คอนกรีต เสาเข็ม เสื่อมสภาพ มีความเสี่ยงมากที่จะเกิดการทรุดตัวซ้ำ แนะรื้อทิ้ง
ด้านแนวทางการเยียวยาผู้ประสบภัยและผู้เสียชีวิต รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด ในฐานะหัวหน้าส่วนปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหาย พร้อมตัวแทนจากวัดเพชรสมุทรวรวิหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมหาแนวทาง เบื้องต้นผู้เสียชีวิตได้รับค่าจัดการศพ รายละ 25,000 บาท ผู้บาดเจ็บที่รักษาตัวในโรงพยาบาลตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป รายละ 3,000 บาท และร้านค้า 4 รายที่ได้รับผลกระทบ ได้รายละ 11,000 บาท
ขณะที่ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเพชรสมุทรวรวิหาร ยืนยันศาลาอยู่ในพื้นที่การดูแลของวัด เบื้องต้นช่วยค่าทำศพ รายละ 50,000 บาท ส่วนผู้บาดเจ็บพร้อมเยียวยาและดูแลเต็มที่ จากนี้ทางวัดจะทำการรื้อถอนศาลาที่เหลือต่อไป สำหรับผู้บาดเจ็บที่ยังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลมี 3 ราย อีก 13 ราย แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านแล้ว ทางวัดเตรียมเยี่ยมผู้ประสบเหตุแบบเคาะประตูบ้านต่อไป. – สำนักข่าวไทย