กทม. 18 ก.ค. – ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ สั่ง 2 จำเลยจ่าย ชดเชย ในคดี นรต.ฝึกโดดร่มเสียชีวิต เมื่อปี 2557 เป็นเงิน กว่า 4.8 ล้านบาท
ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก นัดอ่านคำพิพากษาอุทธรณ์ คดีที่ นายสาธร พุทธชัยยงค์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท การบินไทย จำกัด จำเลยที่ 1 บริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด และเจ้าหน้าที่จัดซื้อสายสลิงกระตุกร่ม เจ้าหน้าติดตั้งสายสลิง และซ่อมบำรุง รวม 11 ราย เป็นจำเลย เรื่องละเมิด เรียกค่าสินไหมทดแทน 40 ล้านบาท เป็นค่าจัดการศพและค่าขาดไร้อุปการะ ฯลฯ จากเหตุการณ์นักเรียนนายร้อยตำรวจชยากร พุทธชัยยงค์ หรือ น้องโย่โย่ เสียชีวิต จากการฝึกกระโดดร่ม ที่จังหวัดเพชรบุรี เมื่อปี 2557
โดยคดีนี้ ศาลแพ่งมีคำพิพากษาให้ บริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด และ นายตรวจอากาศยานศูนย์ซ่อม มีความผิดให้ชดใช้ค่าเสียหายกว่า 2.7 ล้านบาท แก่ นายสาธร บิดาของ นรต.ชยากร ส่วนจำเลยอื่นยกฟ้อง ต่อมาโจทก์และจำเลยได้ยื่นอุทธรณ์
เมื่อถึงเวลา นายสาธร บิดา นรต.ชยากร ได้เดินทางมาที่ศาล เพื่อฟังคำพิพากษาอุทธรณ์ โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐาน เห็นว่าค่าปลงศพ ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาไว้ 2.5 แสนบาท น้อยเกินไป จึงให้เพิ่ม 3.2 แสนบาท เนื่องจากในการจัดการงานศพเป็นพระราชทานเพลิงศพและยังมีค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งจำเลยที่ 2 และ 9 ได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ที่ 1 นั้น จะต้องชดใช้ค่าสินไหมเต็มจำนวน ส่วนค่าขาดไร้อุปการะ ที่จะต้องชดใช้ให้โจทก์ที่ 1 นั้น เมื่อ ได้พิจารณาจากการศึกษาของผู้เสียชีวิตและรายได้ที่จะมีในอนาคตแล้วเห็นว่า ที่กำหนดไว้ 2.5ล้านบาทนั้น ยังน้อยเกินไป โดยเห็นสมควร เพิ่มให้เป็นเดือนละ 2.5 หมื่นบาท เป็นเวลา 15 ปี รวมเป็นเงิน 4.5 ล้านบาท จึงพิพากษาแก้ ให้จำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 9 ร่วมกันชดใช้ค่าจัดการศพ และค่าขาดอุปการะให้กับนายสาคร บิดา นรต.ชยากร โจทก์ที่ 1 เป็นเงิน 4.82 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้อง เมื่อ 21 มกราคม 2559 จนกว่าจะชำระเสร็จ รวมทั้งชำระค่าทนายความแทนโจทก์ที่ 1 เป็นเงิน 1 หมื่นบาท
ด้าน นายสาธร บิดา นรต. ชยากร เปิดเผยว่า ในการอุทธรณ์ตนได้ยกประเด็นที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า เหตุจากการสูญเสียส่วนหนึ่งเกิดจากลูกชายตนไม่ได้ดึงร่มช่วย ซึ่งศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยในประเด็นนี้แล้วว่าบุตรชายของตนได้ทำการดึงร่มช่วยแล้ว กรณีละเมิดจึงเกิดจากการกระทำของจำเลยที่ 2 และ 9 ศาลจึงให้ชดใช้เพิ่มกว่า 4.8 ล้านบาท ส่วนจะฎีกาหรือไม่ สำหรับตนผลคดีอาญาสำคัญกว่าทางแพ่ง เพราะจะทำให้ไม่เกิดการทุจริต หรือความเสียหายเกิดขึ้น โดยสำนวนคดีอาญาพนักงานสอบสวนภูธร ภาค 7 ได้ส่งมาให้สำนักงานอัยการสูงสุด ตั้งแต่เดือนมกราคม 2561 แล้ว แต่เวลาผ่านมาปีกว่า ยังไม่มีความคืบหน้า ทั้งนี้พอใจที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยประเด็นเกี่ยวกับลูกชายตนแล้ว
ส่วนนายจตุรงค์ ติรสุวรรณสุข บิดาของ นรต. ณัฐวุฒิ โจทก์ที่ 2 เปิดเผยว่า ได้เดินทางมาฟังการอุทธรณ์นั้น เป็นส่วนที่ยื่นฟ้องบริษัทการบินไทย จำเลยที่ 1 และพนักงานการบินไทย จำเลยที่ 10 ซึ่งศาลพิพากษายกฟ้อง โดยทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ได้พิพากษายืนให้ยกฟ้อง แต่ยังติดใจบริษัทการบินไทย ซึ่งเป็นคู่สัญญารับรู้รับทราบในการซ่อมอุปกรณ์กระโดดร่ม และหากได้ท้วงติงแต่แรก อาจไม่เกิดความสูญเสีย โดยก่อนหน้านี้ คดีในศาลปกครอง ศาลได้ชี้ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติละเมิดอย่างร้ายแรงแก่ครอบครัวผู้สูญเสีย และคดีแพ่งนี้ จำเลยที่ 2 และ 9 ได้ชดใช้เงินเยียวยาให้ครอบครัว 5 ล้านบาท แต่คดีในส่วนของการบินไทยกลับไม่พบความผิด -สำนักข่าวไทย
