กทม. 14 ก.ค.-แจ๊ส ชวนชื่น เข้าให้ปากคำ กรณีคนงานในบ้านถูกฆ่า พร้อมขอตำรวจเร่งจับผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี ตำรวจเผยได้เบาะแสแล้ว
นายผดุง ทรงแสง หรือ แจ๊ส ชวนชื่น พร้อมนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ เข้าให้ข้อมูลกับตำรวจ สน.มีนบุรี คดีนายพรชัย ดีเสือ คนงานในบ้านถูกทำร้ายโดยใช้กระถางต้นไม้ทุบใบหน้า เสียชีวิตอยู่ใกล้บ้านเลขที่ 41/39 หมู่บ้านคาซ่าลีน่า 1 ซอยนิมิตรใหม่ 14 แขวงทรายกองดิน เขตคลองสามวา หลังทะเลาะวิวาทกับคู่กรณี จากเหตุขับรถยนต์เฉี่ยวชนกัน
ภายหลังแจ้งความและให้ปากคำ แจ๊ส ชวนชื่น ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า หลังเกิดเหตุภรรยาโทรศัพท์มาบอกว่านายพรชัย ถูกคนข้างบ้านทำร้ายจนเสียชีวิต และว่าบ้านคู่กรณีเคยทะเลาะกับคนในบ้านของตนมานานและครั้งนี้ถือว่าโชคดีเพราะปกติลูกสาวจะอยู่ที่บ้านและใช้รถคันนี้ในการเดินทางไปกลับ ซึ่งเมื่อคืนลูกสาวได้ไปนอนคอนโดย่านเพชรบุรีตัดใหม่ ทำให้เหลือเพียงป้ากับคนที่บ้านอีกคนที่อยู่ในรถ ซึ่งพอผู้ต้องหารายนี้ทำร้ายนายพรชัย จนเสียชีวิต ก็พยายามทุบรถเพื่อเรียกให้คนในรถลงมาและพยายามจุดไฟจากขวดใส่น้ำมันขวางใส่รถสองครั้ง แต่ไม่สำเร็จ จึงหลบหนีไป ตนจึงต้องการให้ตำรวจจับผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ เพราะถือเป็นเรื่องโหดร้ายมาก อีกทั้งสงสารครอบครัวผู้เสียชีวิต เพราะมีลูกเล็ก หากยังจับตัวไม่ได้ รู้สึกไม่มั่นใจความปลอดภัยของคนในครอบครัวที่ยังต้องพักอาศัยอยู่บ้านหลังนั้น เพราะมีเด็ก ผู้หญิงและผู้สูงอายุ จึงได้ขอให้ตำรวจช่วยจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็วพร้อมทั้งขอตำรวจมาช่วยคุ้มกันความปลอดภัยช่วงนี้ด้วย
ด้านนายษิทรา ทนายความยืนยันว่า ผู้เสียชีวิต ไม่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุการเฉี่ยวชน แต่เข้าไปไกล่เกลี่ยให้เพื่อน ส่วนข้อมูลขณะนี้ พบผู้ก่อเหตุมีคนเดียว แต่มีคนช่วยเหลือในการเคลื่อนย้ายศพผู้เสียชีวิต มาวางไว้หน้าบ้านของแจ๊ส ชวนชื่น เบื้องต้นเชื่อว่า ผู้ก่อเหตุเข้าข่ายความผิดเจตนาฆ่า และทำให้เสียทรัพย์ กรณีมีการทำลายรถยนต์เสียหาย ส่วนการเคลื่อนย้ายศพอยู่ในดุลยพินิจ โดยจะขอกำลังตำรวจไปดูแลความปลอดภัยบริเวณบ้านแจ๊ส ชวนชื่น
ขณะเดียวกันวันนี้ ตำรวจได้เชิญตัวนายยศเฉลิม มณีคำ พยานบุคคล ที่เป็นเพื่อนกับนายพรชัย ผู้เสียชีวิตมาให้ข้อมูล เนื่องจากเป็นผู้ที่ขับรถยนต์เฉี่ยวชนกับนายเสฎฐวุฒิ จิรัฐยารังษี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกับบ้านแม่ภรรยาของแจ๊ส ชวนชื่น และเป็นคู่กรณีที่พยานแวดล้อมให้ปากคำกับตำรวจว่า ทำร้ายร่างกายนายพรชัย จนเสียชีวิต เพราะนายพรชัย รู้จักกับนายเสฎฐวุฒิ, นายยศเฉลิม จึงวานให้นายพรชัย มาช่วยเจรจา จนเกิดปากเสียงและลงมือทำร้ายร่างกายกันจนนายพรชัย เสียชีวิตในที่สุด
มีรายงานว่า นายเสฎฐวุฒิ มีประวัติหลบหนีคดีครอบครองยาเสพติด ในชั้นศาลของศาลจังหวัดมีนบุรี ซึ่งตำรวจทราบเบาะแสผู้ก่อเหตุ และอยู่ระหว่างสืบสวนติดตามจับกุมตัว.-สำนักข่าวไทย