ร้อยเอ็ด 12 ก.ค.-กองทุนยุติธรรมอนุมัติหลักทรัพย์ 1 ล้านบาท ยื่นประกันตัว “น้องปลา” นศ.เรียนดี ตกเป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติด ขณะที่ญาติพอใจแต่ยังติดใจกระบวนการดำเนินคดี จับคนบริสุทธิ์คุมขังในเรือนจำ
นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และโฆษกกระทรวงยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่าวันนี้กองทุนยุติธรรมได้อนุมัติเงินประกันตัว 1 ล้านบาทเพื่อช่วยเหลือในการปล่อยชั่วคราว น.ส.สุปราณี พลดอน หรือ น้องปลา นักศึกษาเรียนดีถูกจับกุมในคดียาเสพติดหลังมีกล่องพัสดุที่ส่งมาถึงบ้าน มียาไอซ์ 10.3 กรัมบรรจุอยู่ ขั้นตอนต่อไปเจ้าหน้าที่ของสำนักงานยุติธรรมจังหวัดร้อยเอ็ดจะทำหน้าที่เป็นนายประกัน เพื่อยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวจากศาลจังหวัดร้อยเอ็ดต่อไป
พ.ต.ท.สมศักดิ์ อาจหาญ สารวัตรสอบสวน สภ.สุวรรณภูมิ และร้อยเวรเจ้าของดคี กล่าวว่า สำนวนคดียังอยู่ในชั้นของพนักงานสอบสวน เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งว่า หากการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ร้อยละ 95 เหลือเพียงการจะเรียกสอบพยานสำคัญสุดท้าย อีก 2 ปาก ที่อยู่ในเหตุการณ์วันรับพัสดุ เพื่อสรุปสำนวน และพบหากพบว่าน้องลูกปลาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆพนักงานสอบสวนจึงจะเสนอความคิดเห็นไปยังอัยการว่า พิจารณาเห็นสมควรสั่งฟ้องน้องปลาหรือไม่ต่อไป จากนั้นจะอยู่ในกระบวนการดำเนินการ ขึ้นอยู่กับทางอัยการว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ หรืออัยการต้องการ จะสั่งให้สอบสวนพยานแวดล้อมเพิ่มเติมอย่างไร
ส่วนเรื่องการประกันตัว ทางด้านยุติธรรมจังหวัดร้อยเอ็ด แจ้งว่าขณะนี้รอขั้นตอนการโอนเงินจากยุติธรรมกลาง มาที่ยุติธรรมจังหวัดเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ญาติของน.ส.สุปราณี มาทำสัญญาค้ำประกันเงินเรียบร้อยแล้ว เมื่อได้เงินมาก็เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ยุติธรรมจะ รวบรวมเอกสาร หลักฐาน และนำเช็คหรือเงินสดไปวางต่อศาล เพื่อเป็นหลักประกันในการขออนุญาต ปล่อยตัวชั่วคราวน.ส.สุปราณี ซึ่งในขั้นตอนนี้ หากได้ยื่นหลักทรัพย์ไปแล้วก็อยู่ในดุลพินิจของศาลท่านว่าจะอนุญาตหรือไม่ต่อไป
ทางด้านน.ส.ขนิษฐา สีกู่กา ญาติของน้องปลา ที่นำตัวพยาน 2 ปากสุดท้าย มาพบพนักงานจสอบสวนกล่าวว่านับเป็นความพึงพอใจในระดับหนึ่งที่จับกุมผู้ก่อเหตุได้ แม้เจ้าตัวจะยังปฏิเสธ และว่าเป็นการถูกกลั่นแกล้ง แต่ขั้นตอนต่อไปก็เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวน และกระบวนการยุติธรรมจะดำเนินการต่อไปเพื่อให้ความจริงปรากฏ ซึ่งถือว่าไม่เกี่ยวข้องกับพวกตนแล้ว ดีใจที่ได้รับความเป็นธรรมในระดับหนึ่งจนได้รับการปล่อยตัว เพราะไม่ได้มีความผิด ขอฝากขอบคุณไปยังเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ช่วยคลี่คลายคดีจนความจริงปรากฏ ตามที่ยืนยันตลอดมาว่า “น้องปลา” ไม่มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องที่เกิดขึ้น ที่ติดใจในเรื่องนี้ คือ กระบวนการยุติธรรมที่จับคนบริสุทธิ์ โดยที่ไม่มีความผิด แต่กลับดำเนินคดี และจับกุมคุมขังในเรือนจำ ทำให้สูญเสียอิสรภาพ ควรที่จะมีการปรับเปลี่ยนวิธีการด้านการสอบสวนให้ชัดเจนก่อนว่ามีความผิดจริงจึงค่อยดำเนินคดี ซึ่งกรณี “น้องปลา” ถือได้ว่าคือคดีต้นแบบในการพิจารณณากระบวนการทางกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมให้มีการปรับเปลี่ยนให้รัดกุมชัดเจน ป้องกันการที่จะจับใคร ยัดเข้าห้องขังก็ได้ ซึ่งถือว่าไม่ให้ความยุติธรรม ส่วนจะฟ้องกลับหรือไม่เป็นเรื่องที่จะคุยกันอีกต่อไปภายหลัง.-สำนักข่าวไทย