กทม. 12 ก.ค.-ผู้ต้องสงสัยรายสุดท้ายเอี่ยวนำเข้า”ไซบูทรามีน” เข้าให้ปากคำกับตำรวจ ยันไม่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาลดความอ้วน
นางสาวอังคณา ก้อนจันทร์ เข้าให้ข้อมูลกับพลตำรวจเอกวิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. หลังวานนี้(11ก.ค.)ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ อย.เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งต้องสงสัยว่าลักลอบจำหน่ายสารไซบูทรามีน และผลิตยาลดน้ำหนักผิดกฎหมายในพื้นที่อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี และพบนางนิภาพร พวงมาลัย เจ้าของโรงงานที่รับว่าจำหน่ายสารไซบูทรามีน ให้ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในจังหวัดสมุทรปราการ ก่อนขายส่งเป็นทอดๆ ถึงโรงงานผลิตยาลดน้ำหนักในจังหวัดกาฬสินธุ์
นางนิภาพร ยังซัดทอดว่า สั่งซื้อสารไซบูทรามีนจากนางสาวอังคณา กิโลกรัมละ 18,000 บาท ตำรวจจึงขยายผลจากคำให้การ จนพบหญิงรายนี้ ซึ่งตำรวจมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการนำเข้าสารตั้งต้นดังกล่าว รวมถึงข้อมูลผู้จำหน่ายในต่างประเทศ คาดผู้ต้องสงสัยรายนี้ เป็นรายสุดท้ายที่เชื่อมโยงการสั่งนำเข้าสารตั้งต้นที่ใช้ในการผลิตสารไซบูทรามีน
นางสาวอังคณา ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาลดความอ้วน ที่ทำให้หญิงสาวชาวอ่างทองเสียชีวิต แต่ยอมรับว่านำสารไซบูทรา มีน 2 กิโลกรัม มาส่งให้นางนิภาพรจริง แต่ไม่ใช่ล็อตที่ส่งไปโรงงานใน จ.กาฬสินธุ์ เพราะช่วงเวลาที่มีการซื้อขายกัน เพิ่งเกิดขึ้นไม่กี่วันก่อนหน้านี้ โดยที่ผ่านมามีหน้าที่รับออเดอร์จากลูกค้าในการหาสินค้าต่างๆตามที่สั่งและไม่ได้ทำเป็นอาชีพ
พลตำรวจเอกวิระชัย กล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกที่สามารถสืบทราบการนำเข้าสารไซบูทรามีนได้ เบื้องต้นจะยังไม่แจ้งข้อหากับนางสาวอังคณา เพราะยังไม่พบของกลางเชื่อมโยงไปยังเครือข่ายยาลดความอ้วนซึ่งจากข้อมูลสืบสวน พบวิธีการลักลอบนำเข้า ส่วนใหญ่ใช้วิธีการบรรจุสารตั้งต้นมาในแคปซูลสำเร็จรูป เมื่อเข้ามาได้จะเทผงที่บรรจุอยู่ภายในออกมารวมกัน ก่อนส่งไปผลิตเป็นสารไซบูทรามีน เพื่อใช้ผลิตเป็นตัวยาต่อไป โดยพบว่าประเทศที่มีการผลิตสารตั้งต้นดังกล่าวคือประเทศจีนและอินเดีย ส่วนประเทศไทยได้กำหนดไม่ให้นำเข้าสารดังกล่าว เนื่องจากพบว่าเป็นสารอันตราย หลังจากนี้จะสั่งการให้สกัดจับตามแนวชายแดนเพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้ามาต่อไป.-สำนักข่าวไทย