การขับขี่บิ๊กไบค์อย่างถูกวิธี

กทม. 10 ก.ค.-กระแสความนิยมการขับขี่บิ๊กไบค์ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ความรู้และความเข้าใจวิธีการขับขี่ที่ถูกต้องยังมีน้อยมาก ผู้เชี่ยวชาญด้านการขับขี่บิ๊กไบค์เรียกร้องให้ภาครัฐแยกใบอนุญาตการขับขี่รถจักรยานยนต์และบิ๊กไบค์ เพื่อคัดกรองผู้ที่มีความสามารถในการขับขี่อย่างชัดเจน 


เสน่ห์ของการขับขี่รถจักรยานยนต์คันใหญ่ คือ ความเร็วที่สามารถเร่งเครื่องได้เร็วกว่ารถจักรยานยนต์ทั่วไป 3 เท่า  ปัจจุบันมีผู้ที่ชื่อชอบการขับขี่บิ๊กไบค์ 3 กลุ่มใหญ่  คือ ผู้ที่ต้องใช้งาน เช่น นักกีฬาแข่งรถ ผู้ขับขี่เพื่อการท่องเที่ยวเพราะใจรัก และผู้ขับขี่เกาะกระแสความนิยม ซึ่งกลุ่มสุดท้ายเป็นกลุ่มที่ขับขี่แล้วเกิดอุบัติเหตุมากที่สุด


ผู้เชี่ยวชาญด้านการขับขี่บิ๊กไบค์ บอกว่า บิ๊กไบค์ไม่เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน  เพราะมีขนาดความเร็วหรือซีซีมากเกินไป  และในการขับขี่ควรมีอุปกรณ์ป้องกัน ทั้งหมวกกันน็อค ชุดขับขี่ที่ป้องกันหลังและคอ  รองเท้าเต็มแข้งป้องกันข้อเท้า ที่สำคัญไม่ใช่ทุกคนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ได้ จะสามารถขับขี่บิ๊กไบค์ได้อย่างปลอดภัย เพราะการขับได้ กับการขับเป็น ไม่เหมือนกัน  ผู้ที่จะขับขี่บิ๊กไบค์ควรศึกษาสมรรถนะความเร็วของรถในแต่ละประเภท  ซึ่งบิ๊กไบค์มีอยู่หลายประเภท  ฝึกการควบคุมรถและการทรงตัว ซึ่งปัจจุบันมีโรงเรียนสอบขับบิ๊กไบค์หลายแห่ง การเรียนแยกเป็นขั้นพื้นฐานและขั้นสูงจนมีความชำนาญในการขับขี่ 

กรณีเด็กอายุ 13ปี ที่ขับขี่บิ๊กไบค์เชี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้ปกครองอ้างว่า เด็กอายุ 13 ปีเป็นนักแข่งบิ๊กไบค์ที่เคยคว้ารางวัลมาแล้วหลายสนามนั้น มีความเห็นว่าสิ่งสำคัญในการขับขี่บิ๊กไบค์ คือความสามารถในการควบคุมรถและวุฒิภาวะ เนื่องจากบิ๊กไบค์มีความแรงของเครื่องยนต์มาก สามารถทำความเร็วได้จาก 0–100 กม.ต่อ ชม. ในเวลาไม่กี่วินาที แม้เด็กอายุ 13 ปีจะเป็นนักแข่ง แต่ยังไม่มีวุฒิภาวะมากพอในการขับขี่บิ๊กไบค์บนถนนจริง ซึ่งมีสภาพแวดล้อมต่างจากในสนามแข่ง และเบื้องต้นไม่น่าจะเป็นนักแข่งมืออาชีพ เนื่องจากสมาพันธ์การแข่งขันจักรยานยนต์แห่งประเทศไทยมีข้อกำหนดว่า ผู้ที่จะขับขี่รถจักรยานยนต์ขนาด 1000 ซีซี เพื่อการแข่งขัน ต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันอุบัติเหตุบิ๊กไบค์ที่อาจเกิดขึ้นอีก ภาครัฐควรแยกใบอนุญาตการขับขี่ระหว่างรถจักรยานยนต์และบิ๊กไบค์ เพื่อคัดกรองผู้ที่มีความสามารถในการขับขี่อย่างชัดเจน


อุบัติเหตุป้องกันได้ หากทุกคนเคารพกฎจราจร มีความสามารถในการขับขี่ยานพาหนะในแต่ละประเภทอย่างชำนาญ มีมารยาทและมีวินัยในการใช้ถนนร่วมกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ก.อุตฯ เตรียมส่งตรวจเหล็กตึก สตง. เพิ่ม 21 เม.ย.

ก.อุตสาหกรรม กางผลตรวจเหล็กตึก สตง.ถล่ม รอบแรก ก่อนส่งตรวจเพิ่มอีก 40 ท่อน 21 เม.ย. ย้ำผิดคือผิด! ผู้ผลิต-จนท.มีเอี่ยว เตรียมปิดเทอม

พายุฝนพัดต้นยางอายุร่วม 100 ปี ทับโรงครัววัดพังราบ

พายุฝนลมกระโชกแรง ซัดต้นยางอายุร่วม 100 ปี วัดนางเหลียว ล้มทับโรงครัวพังเสียหาย ชาวบ้านในงานศพตื่นตระหนก วิ่งหนีกระเจิง

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง.ถล่ม เข้าสู่วันที่ 24 เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง