ผู้เชี่ยวชาญชี้ติดเชื้อปรสิตจากผัดไทย แทบเป็นไปไม่ได้

กรุงเทพฯ 10 ก.ค.- ผู้เชี่ยวชาญด้านพยาธิโปรโตซัว ชี้แทบไม่มีโอกาสเป็นไปได้ที่ชาวออสเตรเลียจะติดเชื้อปรสิตจากผัดไทย ระบุเชื้อนี้โดนความร้อน 60 องศาฯ ก็ตายหมดแล้ว ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข ยืนยัน 2 ปีมานี้ ไม่เคยพบผู้ป่วยจากเชื้อ “Dientamoeba Fragilis”


หลังสามีภรรยาชาวออสเตรเลียอ้างว่าล้มป่วยนานร่วม 2 ปี จากการกินผัดไทยที่ศูนย์อาหารแห่งหนึ่งในภูเก็ต เมื่อปี 60 รู้สึกไม่สบาย อ่อนล้า มึนงง จนไม่สามารถทำงานได้ ซึ่งแพทย์ตรวจพบว่าพวกเขาได้รับเชื้อปรสิต “Dientamoeba Fragilis” ในลำไส้ จึงรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ 4 สัปดาห์ จนหายดี


กระทรวงสาธารณสุขส่งทีมสอบสวนโรคไปตรวจสอบร้านผัดไทยและโรงพยาบาลใน จ.ภูเก็ต พบว่า 3 ปีมานี้ ไม่เคยมีผู้ป่วยด้วยเชื้อ “Dientamoeba Fragilis” ซึ่งมักเป็นเชื้อที่พบในน้ำจืด ดินโคลน พืชและสัตว์ที่เน่าเปื่อย ไม่ก่อโรคในผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่ทนต่อความร้อนและกรดในกระเพาะอาหาร โอกาสที่จะปนเปื้อนในผัดไทยจึงมีน้อยมาก เนื่องจากเป็นอาหารจานร้อน ส่วนข้อกังวลเรื่องการปนเปื้อนในส่วนผสมอื่น เช่น กุ้ง หรือผักสด เช่น ถั่วงอก ใบกุยช่าย และหัวปลีก ก็มีโอกาสน้อยมากเช่นกัน


ขณะที่ รศ.ดร.องอาจ มหิทธิกร หัวหน้าภาควิชาพยาธิโปรโตซัว คณะเวชศาสตร์เขตร้อน ม.มหิดล ระบุเชื้อปรสิตดังกล่าวเจอความร้อนเพียง 60 องศาเซลเซียสก็ตายแล้ว การระบุว่าเจอเชื้อในผัดไทยแทบไม่มีโอกาสเป็นไปได้  เพราะเส้น ไข่ เต้าหู้ ใบกุยช่าย ล้วนถูกผัดปรุงให้สุก หากมีจริงก็อาจอยู่ในเครื่องเคียง ผักแนมมากกว่า

เช่นเดียวกับ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งมีห้องปฏิบัติการและผู้เชี่ยวชาญในการตรวจวิเคราะห์เชื้อปนเปื้อนในอาหาร ยืนยันที่ผ่านมาไม่เคยตรวจพบเชื้อปรสิต “Dientamoeba Fragilis” ปนเปื้อนในอาหาร

การจะระบุว่า สามีภรรยาชาวออสเตรเลียติดเชื้อปรสิตมาจาการทานผัดไทยเมื่อปี 60 หรือไม่ จึงเป็นเรื่องที่พิสูจน์ยาก เพราะผ่านมาแล้ว 2 ปี อีกทั้งเชื้อนี้ยังติดต่อได้จากการสัมผัสสัตว์ เช่น หนู และหมู และหากเชื้อนี้อยู่ในร่างกาย แค่เพียง 1 สัปดาห์ก็ขับถ่ายออกมาหมดแล้ว.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย