“กฤษฎา” ประกาศแตกหัก 3 สารเคมีอันตราย

กรุงเทพฯ 8 ก.ค. – “กฤษฎา” ประกาศแตกหักสารเคมีทางการเกษตร 3 ชนิด พร้อมเร่งพิจารณากฎหมายห้ามนำเข้า ลั่นไม่ต้องการทำร้ายประชาชน


นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการด่วนที่สุดถึงปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และอธิบดีกรมวิชาการเกษตรให้เร่งดำเนินการพิจารณาข้อกฎหมายหรือผู้เกี่ยวข้องให้ไปช่วยกันพิจารณาหาข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงว่า 1.ปัจจุบันมีสารธรรมชาติหรือวิธีการกำจัดวัชพืช ศัตรูพืชอื่นใดที่สามารถใช้แทน 3 สารเคมีวัตถุอันตรายที่ใช้ในการเกษตร คือ พาราควอต ไกลโฟเซส คอร์ไพริฟอส ได้หรือยัง 2.ตามกฎหมายวัตถุอันตรายและหรือกฎหมายอื่น ๆ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ มีอำนาจออกคำสั่งห้ามใช้หรือห้ามนำเข้าสารเคมีทั้ง 3 ชนิดได้ทันทีหรือไม่  

นายกฤษฎา กล่าวว่า ได้ย้ำกับปลัดกระทรวงเกษตรฯ และอธิบดีกรมวิชาการเกษตรให้เวลาภายใน 7 วัน ต้องได้ข้อกฎหมายที่เป็นลายลักษณ์อักษร บันทึกผ่านปลัดกระทรวงเกษตรฯ ส่งมาถึง รมว.เกษตรฯ ถ้ากฎหมายเปิดช่องให้ทำได้ พร้อมจะลงนามก่อนออกจากตำแหน่ง เพราะขณะนี้แม้มีมาตรการจำกัดการใช้สารเคมี 3 ชนิด แต่กลับมีการร้องเรียนเข้ามาว่ายังมีการลักลอบนำเข้าสารเคมีมาในราชอาณาจักรและส่งผลการลดนำเข้าอาจไม่ได้ผลเป็นรูปธรรม หากหน่วยงานยังไม่เห็นด้วยกับการห้ามนำเข้าทันที จะมีมาตรการเข้มงวดที่ได้ผลมีประสิทธิภาพกว่าปัจจุบันได้หรือไม่ เป็นเรื่องจำเป็นที่หน่วยงงานที่รับผิดชอบต้องชี้แจงต่อสาธารณชนว่าจะป้องการลักลอบนำเข้าสารเคมีอย่างไร ถ้าจะยกเลิกใช้สารอีก 2 ปีข้างหน้าตามมติที่ประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย


“มาตรการทั้งหมดจะพยายามทำให้เป็นผลสำเร็จ เพราะหลายฝ่ายบอกว่ายกเลิกนำเข้าหรือขึ้นทะเบียนได้ จึงต้องให้ข้าราชการที่มีหน้าที่ไปตรวจสอบว่าสามารถทำได้หรือไม่ ถ้ามีครบทั้ง 2 ข้อดังกล่าว พร้อมจะสั่งยกเลิกใช้สารเคมีทั้ง 3  ชนิดทันที เพราะไม่ต้องการทำร้ายประชาชน” นายกฤษฎา กล่าว

รายงานข่าวกระทรวงเกษตรฯ เปิดเผยว่า มีเรื่องร้องเรียนจากหลายพื้นที่ถึงการลักลอบนำเข้าสารจากต่างประเทศจำนวนมาก และการจัดอบรมเจ้าหน้าที่ได้เรียกค่าอุปกรณ์การอบรมจากเกษตรกรและผู้รับจ้างพ่นยา รายละ 450-500 บาท เมื่อเรื่องร้องเรียนมาถึง รมว.เกษตรฯ ทำให้ไม่พอใจอย่างมาก จึงตัดสินใจที่จะหาช่องทางตามกฎหมายห้ามนำเข้า3 สาร เพราะก่อนหน้านี้มีการหารือถึงค่าใช้จ่ายอุปกรณ์ในการอบรมควรให้บริษัทเอกชน ห้างร้านต่าง ๆ ที่จำหน่ายสารเคมีออกค่าใช้จ่ายร่วมกับภาครัฐในการจำกัดการใช้สารด้วย นอกจากนี้ ตัวเลขการนำเข้ากลับไม่ได้ลดลงร้อยละ 50 ตามที่เสนอไว้ต่อคณะกรรมการวัตถุอันตราย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น