แจ้งความรายการดังเกาหลี จับ “หอยมือเสือ” กิน

ตรัง 4 ก.ค.-หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง หอบหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีบริษัทถ่ายรายการเกาหลีใต้ จับ “หอยมือเสือ” ปรุงเมนูอาหาร


ที่ สภ.กันตัง อ.กันตัง จ.ตรัง นายณรงค์ คงเอียด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จังหวัดตรัง พร้อมหัวหน้าหน่วยเกาะกระดาน อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม นำหลักฐานเป็นข่าว, ภาพถ่าย และแผ่นซีดี เข้าแจ้งความ สภ.กันตัง เพื่อดำเนินคดีผู้ลักลอบจับ “หอยมือเสือ” มาปรุงเป็นเมนูอาหารรับประทาน เหตุเกิดในพื้นที่อ่าวโล๊ะอุดัง หมู่ 2 เกาะมุกด์ ทางด้านทิศเหนือของเกาะ โดยมีการเผยแพร่ข่าวและภาพผ่านสื่อโซเซียลฯ เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2562 


หลังจากนั้นอธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งให้อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมตรวจสอบแหล่งที่มา จึงทราบว่ารายการที่มาถ่ายทำคือ รายการ “The Law of Jungle” จากเกาหลีใต้ และมีการประสานบริษัทเอกชนไทยแห่งหนึ่งเข้ามาประสานงานการถ่ายทำของบริษัท SBS Broadcasting Center สาธารณรัฐเกาหลี โดยขออนุญาตกรมอุทยานแห่งชาติฯ ในวันที่ 29 มีนาคม และวันที่ 1-3 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่า การกระทำความผิดกฎหมายเกี่ยวกับสัตว์ป่า จากพฤติการณ์ที่ปรากฏเป็นการกระทำต่อหอยมือเสือ ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง จึงติดต่อไปยังผู้ประสานงานกองถ่าย เพื่อชี้แจงการกระทำดังกล่าวว่า เป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 และ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2535 จึงแจ้งให้บริษัท SBS Broadcasting Center ทราบ และจากการตรวจสอบพบว่าผู้ประสานการถ่ายทำ ได้ประสานอุทยานฯ ก่อนเข้าพื้นที่ว่า จะเข้ามาถ่ายทำบริเวณพื้นที่อ่าวสบาย แต่พื้นที่ที่ปรากฏในคลิปเป็นบริเวณพื้นที่อ่าวโล๊ะอุดัง หมู่ 2 เกาะมุกด์ทางด้านทางทิศเหนือของเกาะ ซึ่งไม่ใช่พื้นที่เดียวกัน

หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม กล่าวว่า จากพฤติการณ์พบความผิด จึงเข้าแจ้งความ เพื่อให้พนักงานสอบสวนเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบปากคำและดำเนินคดี และหลักฐานสำคัญ คือ ภาพบุคคลหรือกลุ่มบุคคลตามคลิปที่มีการเผยแพร่ รวมถึงเจ้าของเรือที่มีการเช่าเข้าไปทำรายการก็ต้องมีการเรียกตัวมาสอบปากคำว่ารู้เห็นการกระทำผิดหรือไม่


สำหรับความผิดฐาน “จับหอยมือเสือ” ประกอบด้วย พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 มาตรา 16 (3) นำสัตว์ออกไปหรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ และความผิด, พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 16 ห้ามมิให้ผู้ใดล่า หรือพยายามล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง, มาตรา 19 ห้ามมิให้ผู้ ใดมีไว้ครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน และมาตรา 21 ห้ามมิให้ผู้ใดเก็บ ทำอันตรายหรือมีไว้ครอบครองซึ่งรังของสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง 

กรมอุทยานฯ ประกาศให้ “หอยมือเสือ” เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ประเภท “สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังอื่นๆ” ลำดับที่ 11 และจัดให้อยู่ในบัญชีสัตว์สงวน หากใครล่า, มี หรือซื้อ-ขาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท

สารานุกรมออนไลน์ ระบุว่า “หอยมือเสือ” มีชื่อภาษาอังกฤษว่า “Giant clam” เป็นหอยที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อาจมีความยาวเปลือก 100-120 เซนติเมตร น้ำหนักอาจมากถึง 200 กิโลกรัม และมีอายุยาวได้ถึง 100 ปี หรือมากกว่า และในเขตน่านน้ำไทย มีแหล่งที่พบหอยมือเสือได้มากสุด คือ เกาะไข่ จ.ชุมพร.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

กกต.สั่งเอาผิดอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ

กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้งไม่ตรงความเป็นจริง โทษหนักทั้งจำคุก-ตัดสิทธิ 5 ปี

ข่าวแนะนำ

น้ำค้างแข็งดอยอินทนนท์

กิ่วแม่ปาน 3 องศาฯ เกิดน้ำค้างแข็งบนยอดหญ้า

ดอยอินทนนท์หนาวมาก อุณหภูมิลดลงอีก เช้านี้จุดชมวิวกิ่วแม่ปาน 3 องศาฯ เกิดน้ำค้างแข็งบนยอดหญ้าขาวโพลนไปทั่ว นักท่องเที่ยวสุดตื่นเต้น

เลี่ยงตอบกระทู้

นายกฯ เลี่ยงตอบกระทู้ในสภาฯ งงยุบสภา บอกไม่ได้ยินใครพูด

นายกฯ เลี่ยงตอบกระทู้ในสภาฯ บอก “เมอร์รี่คริสต์มาส” ไร้สัญญาณยุบสภา ลั่นยังไม่ได้ยินใครพูด ด้าน “มนพร” ยัน นายกฯ ไม่ทิ้งสภา มอบ รมต.เกี่ยวข้องแจง

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

สีสันคริสต์มาสอีฟ ย่านราชประสงค์

บรรยากาศเทศกาลคริสต์มาสอีฟ ย่านราชประสงค์ ท่ามกลางอากาศสบายๆ ยามเย็น อบอวลด้วยรอยยิ้มและความสุข ททท. มั่นใจตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2567 จนถึงวันที่ 1 มกราคม 2568 จะมีนักท่องเที่ยวร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ ทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ ทั่วไทย มากกว่า 1.5 ล้านคน สร้างเม็ดเงินกว่า 62,000 ล้านบาท