วัณโรครักษาหาย ไอติดต่อกันเกิน 2 สัปดาห์ให้พบแพทย์

สธ.4 ก.ค.-แพทย์เตือนไอติดต่อกันเกิน 2 สัปดาห์ ไอมีเสมหะปนเลือด เจ็บหน้าอก น้ำหนักลด เบื่ออาหาร เสี่ยงติดเชื้อวัณโรคควรรีบพบแพทย์รักษา ซึ่งหายได้ หากพบตั้งแต่ระยะแรก


นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์และโฆษกกรมการแพทย์ กล่าวว่า วัณโรคเป็นโรคติดต่อจากคนสู่คนผ่านทางอากาศ เมื่อผู้ป่วยวัณโรค ไอ จาม จะทำให้เกิดละอองฝอยฟุ้งกระจายในอากาศ ซึ่งผู้ที่สูดหายใจเอาละอองฝอยที่มีเชื้อวัณโรคเข้าสู่ร่างกาย อนุภาคที่มีขนาดใหญ่จะติดอยู่ที่จมูกหรือลำคอ ซึ่งสามารถก่อโรคตำแหน่งที่สัมผัสได้ แต่อนุภาคที่มีขนาดเล็กจะเข้าไปสู่ถุงลมในปอด หากภูมิคุ้มกันของร่างกายไม่แข็งแรงจะไม่สามารถควบคุมและป้องกันไม่ให้เกิดโรคได้ทำให้เกิดการติดเชื้อ 


วัณโรคสามารถเกิดได้ในอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย ส่วนใหญ่มักเกิดที่ปอด (ร้อยละ 80) ซึ่งสามารถแพร่เชื้อได้ง่าย วัณโรคนอกปอดอาจพบได้ในอวัยวะอื่นๆ ได้แก่ ต่อมน้ำเหลือง กระดูก (มักพบที่กระดูกสันหลัง) เยื่อหุ้มปอด ระบบทางเดินปัสสาวะ ลำไส้ เยื่อหุ้มสมอง เยื่อหุ้มหัวใจ ผิวหนัง เป็นต้น สำหรับวัณโรคหลังโพรงจมูกมักเป็นเฉพาะตัวและมีโอกาสเจอได้น้อย โดยจะเกิดจากปอดก่อนแล้วขึ้นไปที่โพรงจมูก พบได้น้อยกว่าร้อยละ 1 ของวัณโรคที่พบนอกปอด ซึ่งถือเป็นกรณีที่พบได้ค่อนข้างยาก โดยทั่วไปอาการของวัณโรคหลังโพรงจมูกผู้ป่วย 1 ใน 3 อาจไม่มีอาการใดๆ อาจจะเจอต่อมน้ำเหลืองที่คอโต หรือ มีก้อนบริเวณหลังโพรงจมูก การวินิจฉัยวัณโรคหลังโพรงจมูกจึงมักได้จากการตรวจชิ้นเนื้อที่ก้อนหรือต่อมน้ำเหลือง 


นพ.สมเกียรติ ลลิตวงศา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากพบว่ามีอาการไอเรื้อรังติดต่อกันเกิน 2 สัปดาห์ หรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย ได้แก่ ไอแห้ง ไอมีเสมหะ ไอมีเสมหะปนเลือด เจ็บหน้าอก เหนื่อยหอบ มีไข้ต่ำ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด อ่อนเพลีย เหงื่อออกผิดปกติตอนกลางคืน ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษา เนื่องจากวัณโรคปอดและนอกปอดเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกเพศ และทุกวัย อย่างไรก็ตามสามารถป้องกันได้โดยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีผู้คนแออัด หากจำเป็นควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันเชื้อโรคที่กระจายอยู่ในอากาศ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคในเด็ก รักษาร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ หากภูมิต้านทานของร่างกายทำงานได้ดี ความเสี่ยงในการติดเชื้อวัณโรคจะลดลง 

ทั้งนี้ วัณโรคเป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายได้หากพบตั้งแต่ระยะแรก ดังนั้น ควรหมั่นสังเกตความผิดปกติของร่างกาย และที่สำคัญควรรับการตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงมีสุขอนามัยที่ดีอยู่เสมอ.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล