บล.ไอร่าลุ้นดัชนีเดือน ก.ค.ทดสอบนิวไฮเดิม 1,852 จุด

กรุงเทพ 3 ก.ค. – บล.ไอร่าลุ้นดัชนีไปทดสอบนิวไฮเดิม 1,852 จุด ที่เคยทำไว้เดือน ก.พ. 61 หลังสถานการณ์การเมืองเริ่มเห็นแสงสว่างการจัดตั้งรัฐบาลมากขึ้น และปัจจัยต่างประเทศเริ่มมีทิศทางดีขึ้น


ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ไอร่า จำกัด (มหาชน) หรือ AIRA ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงเดือนกรกฎาคมว่า ดัชนีมีโอกาสปรับขึ้นได้ต่อ หลังการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ซึ่งมาจากการเลือกตั้ง พร้อมคาดได้รับ Sentiment บวก จากช่วง Honeymoon Period คาดมีการเร่งออกมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มความเชื่อมั่นในการลงทุน และยังได้รับปัจจัยหนุนจากกระแส Fund Flow ที่ยังคงไหลเข้า Emerging Market รวมถึงไทย นอกจากนี้ คาดมีแรงเก็งกำไรจากการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2562  และการจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีแรกจนถึงกลางเดือนสิงหาคม 2562

ส่วนประเด็นต่างประเทศ ยังคงต้องจับตาประเด็นสงครามการค้าสหรัฐและจีน หลังส่งสัญญาณในทิศทางที่ดีขึ้น คาดจะกลับมาเป็นปัจจัยบวกภาพรวมตลาดทั่วโลก และการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงสินค้าในกลุ่ม Commodity ที่คาดว่าจะช่วยลดความกังวลต่อความต้องการที่ชะลอตัวหลังได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าในช่วงที่ผ่านมา


สำหรับการประชุมกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันเป็นไปตามคาดขยายระยะเวลาการปรับลดการผลิตออกไปอีก 9 เดือน โดยลดปริมาณการผลิตลงจากเดิม 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ และจับตาการประชุมเฟดวันที่ 30-31 กรกฎาคม 2562 คาดว่ามีโอกาสสูงที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ถือว่าเป็นปัจจัยหนุน Fund Flow อย่างไรก็ตาม ทำให้เงินบาทยังมีแนวโน้มแข็งค่าจากเงินสหรัฐที่อ่อนค่าลง คาดกดดันกลุ่มส่งออก 

ดังนั้น ประเมินแนวโน้มการเคลื่อนไหวของดัชนีฯ ตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มเข้าสู่ทิศทางขาขึ้น (Bullish) ขนาดใหญ่ หลังเดือนที่ผ่านมาดัชนีสามารถ Break Downtrend Line ขึ้นมาด้วย Volume ถึง 100,000 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งเป็นการ Confirm สัญญาณซื้อที่แข็งแกร่งมากในครั้งนี้ หลังปรับฐานมากว่าปีครึ่ง นับจากทำ All Time High ที่ 1,852 จุด เมื่อกุมภาพันธ์ 2561 และรอบนี้มีโอกาสจะทำ All Time High ใหม่ จาก Volume ของสัญญาณซื้อครั้งนี้ที่มีความแข็งแกร่งมาก

อย่างไรก็ตาม ประเมินกลยุทธ์การลงทุน โดยแนะนำหุ้นเด่นประจำเดือนกรกฎาคม ได้แก่ BGRIM, CPF, CPN, SEAFCO, SPA และ TSR เป็นต้น และหุ้นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากรัฐบาลชุดใหม่ที่คาดดำเนินนโยบายลงทุนภาครัฐต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุนภาคเอกชน เช่น กลุ่มธนาคาร กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง กลุ่มวัสดุก่อสร้าง และกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม เป็นต้น รวมทั้งหุ้นบลูชิพ (Blue Chip) ที่เป็นเป้าหมายของนักลงทุนต่างชาติ เช่น PTT, PTTEP, INTUCH, SCB และ OSP เป็นต้น และหุ้นกลุ่มพลังงาน รวมถึงกลุ่มโรงกลั่น ภายใต้ราคาน้ำมัน โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบดูไบ ที่ปรับเพิ่มขึ้นมาใกล้ราคาเฉลี่ยมีนาคมประมาณ 66 ดอลลาร์/บาร์เรล คาดช่วยลดความกังวลต่อ Stock Loss ในไตรมาส 2/2562.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง