แนะ 3 เมนูไล่หวัด ‘ส้มตำ-ต้มยำ-ผัดกระเพรา’

กทม.28 มิ.ย.-หน้าฝนนี้แพทย์แนะ 3 เมนูไล่หวัด ‘ส้มตำ–ต้มยำ- ผัดกระเพรา’ แต่ละเมนูล้วนมีเครื่องปรุง อุดมไปด้วยสมุนไพร เช่น พริก มะนาว ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หอมแดง  มะเขือเทศ มะละกอดิบ ฯลฯ


นพ.กฤษดา  ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ กล่าวว่า ฤดูฝนกับคนเป็นหวัดมักจะมาคู่กันเสมอ ปัจจัยสำคัญเกิดจาก อากาศที่เย็นชื้น ละอองน้ำปนเชื้อไวรัส (RSV ไรโนไวรัสและพาราอินฟลูเอนซ่า) การสัมผัสผ่านมือที่เปียกชื้น เรื่องของไข้หวัดจัดเป็นโรคน่ารำคาญซึ่งหลายคนทราบดีถึงการรักษา ส่วนการป้องกันด้วยอาหารนั้นมีแนวทางแบบเวชศาสตร์อายุรวัฒน์อยู่คือเน้นอาหารธรรมชาติ ได้แก่ ผักผลไม้และโปรตีนสุขภาพ 


นพ.กฤษดา กล่าวว่า เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้นขอแนะนำสำรับแบบไทยๆ เพราะทำง่ายหรืออย่างน้อยก็หารับประทานสะดวก ราคาไม่แพง หลัก ๆ มีอยู่ 3 เมนู เมนูแรก ‘ส้มตำ’ มีเครื่องปรุงช่วยต้านหวัดอยู่คือพริกสด มะนาว มะเขือเทศและมะละกอดิบ  ทั้งหมดนี้จัดเป็นวัตถุดิบเสริมภูมิแก้หวัดได้ทั้งสิ้น อย่างกินมะละกอดิบให้วิตามินซีถึงราว 62 มิลลิกรัมต่อมะละกอ 1 ขีดซึ่งเท่ากับ 75% ของที่ต้องการต่อวันเลย  ไม่เว้นแม้แต่กุ้งแห้งที่หลายคนชอบเคี้ยว ซึ่งมีทั้งแคลเซียมและโปรตีนที่เข้าไปรวมกับวิตามินซีช่วยสร้างคอลลาเจนให้หลอดเลือดแข็งแรง  ซึ่งในคนที่เป็นหวัดนี้หลายคนมีอาการจามแรงจนเลือดออกจากเยื่อบุโพรงจมูกอักเสบ

เมนูที่สองคือต้มยำ ทำให้ถึงเครื่องเพราะอุดมไปด้วยสมุนไพรแก้หวัดในต้มยำ คือพริก มะนาว ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดอีกทั้งหอมแดงที่จะกินก็ช่วยหรือสูดกลิ่มหอมของต้มยำก็ทำให้โล่งจมูกโล่งคอดีนักแล ลำพังน้ำมะนาวก็ให้วิตามินซีในการช่วยลดระยะเวลาการนอนซมจากหวัดลงได้  นอกจากนั้นในพริกที่ใส่ต้มยำก็ยังมีวิตามินซีเสริมอีก  ส่วนใบมะกรูดกับตะไคร้นั้นใช้แก้ไอและลดการอักเสบภายในได้


เมนูที่สามคือผัดกะเพรา เลือกเอาใบกะเพราที่สะอาดปราศจากยาฆ่าแมลงมา  เพราะว่าใบกะเพรามีฤทธิ์ขับเหงื่อ ขับพิษไข้และใช้ขับเสมหะได้  นอกจากนั้นกะเพรายังมีน้ำมันหอมระเหยอย่าง โอซิมอล, เมทิลชาวิคอลและยูจีนอลที่ช่วยลดอาการไม่สบายท้อง เบื่ออาหารได้  มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์และที่สำคัญคือกะเพราช่วยดับกลิ่นคาวของอาหารได้จึงช่วยให้คนไม่สบายที่เหม็นเบื่ออาหาร รับประทานได้ดีขึ้น

“สิทธิการิยะท่านว่าโภชนาเหล่านี้ถ้าเลือกกินให้เหมาะกับตัวได้จะดี ถ้ามีเจ็บคอก็อย่าให้เผ็ดนักหรือถ้ามีเสมหะมากอาจทำซุปต้มยำไก่ก็จะได้กรดอะมิโน “ซิสเทอีน” มาช่วยละลายเสมหะ หรือจะหา “เห็ด” ต่างๆ มาใส่แทนถ้าไม่อยากกินเนื้อสัตว์ก็ดีไม่น้อย  โดยเฉพาะ “เห็ดนางฟ้า” ที่มีวิตามินซีและแร่ธาตุซีลีเนียมสูง” นพ. กฤษดา กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ

ฝุ่น กทม.

แดงเกือบทั้งกรุง คุณภาพอากาศวิกฤติ ฝุ่น PM 2.5 กระทบต่อสุขภาพ

คุณภาพอากาศกรุงเทพฯ วิกฤติต่อเนื่อง เช้านี้ฝุ่น PM 2.5 อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 67 พื้นที่ คุณภาพอากาศจะแย่แบบนี้ไปถึงสัปดาห์หน้า

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน