กทม. 27 มิ.ย.- ไทยเดินหน้าปลดล็อกมาตรฐานความปลอดภัยการบินเพิ่มมั่นใจปีนี้บรรลุผล ช่วยสายการบินของไทยบินตรงเข้าสหรัฐได้
มาตรฐานความปลอดภัยด้านการบิน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ และในปีนี้ไทยจะมีการประชุมใหญ่ระดับนานาชาติ ที่จัดร่วมกับองค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศไทย หรือ ICAO เป็นเวทีสำคัญที่เราจะเรียกความเชื่อมั่น ในอุตสาหกรรมการบินได้เพิ่มขึ้นอีกมาก
เมื่อปี 2558 หน่วยงานกำกับการบินของไทย คือกรมการบินพลเรือน ในขณะนั้น เกิดปัญหาได้รับธงแดง จากองค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ไอเคโอ แล้วไทยต้องแก้ไขปัญหาไปหลายด้านพร้อมๆ กัน จนสามารถปลดธงแดงสำเร็จ ทั้งการแก้ไขกฎหมายการบิน การแยกหน่วยงานกำกับดูแล ออกจากหน่วยงานที่บริหารสนามบิน คือสำนักงานการบินพลเรือน และกรมท่าอากาศยาน โดยช่วงที่โดนปัญหาธงแดงนั้น มีองค์กรด้านความปลอดภัยการบินในหลายภูมิภาค ได้ดำเนินมาตรการกับไทย ตามแนวทางของไอเคโอ
1 ในนั้น มีสำนักงานบริหารการบินของสหรัฐ หรือว่า FAA ซึ่งในขณะนั้น ได้ลดชั้นมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินของไทย จากชั้นที่ 1 หรือ Category 1 มาอยู่ชั้นที่ 2 ส่งผลให้สายการบินสัญชาติไทย ไม่สามารถบินตรงเข้าสหรัฐได้ แต่ถือว่าผลกระทบไม่รุนแรงมากนัก เนื่องจากขณะนั้น บมจ.การบินไทย สายการบินแห่งชาติ ได้ยกเลิกเส้นทางบินไปสหรัฐพอดี
อย่างไรก็ตามล่าสุด นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ระบุว่า มีแผนที่จะเชิญ FAA เข้ามาตรวจมาตรฐานซ้ำ และในครั้งนี้ กพท. มั่นใจว่าภายในปี 2562 สิ่งที่รัฐบาลไทย กระทรวงคมนาคม และ กพท. ร่วมกันทำมาตรการ ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยการบิน ในช่วงที่ผ่านมา เชื่อมั่นว่าไทย จะได้รับการยกระดับ กลับมาอยู่ใน ชั้นที่ 1 ซึ่งก็เป็นเป้าหมายสำคัญของรัฐบาลด้วย ที่ก่อนหน้านี้ ต้องการให้สายการบินไทย กลับมาบินตรงเข้าสหรัฐได้ ในตารางบินฤดูหนาวปีนี้
นอกจากนี้ ยังมีข่าวดีอีกเรื่อง โดยในเดือนกรกฎาคมนี้ ระหว่างวันที่ 21 ถึง 24 กรกฎาคม นี้ ผู้อำนวยการ กพท. บอกว่า กพท. จะร่วมกับไอเคโอ จัดการประชุม The Third Global Aviation Cooperation Symposium หรือ GACS/3 ที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งถือเป็นงานใหญ่ระดับนานาชาติ ที่จะมีผู้นำ ของไอเคโอ ประเทศสมาชิก และผู้บริหารหน่วยงานกำกับมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินทั่วโลกมาร่วม กว่า 300 คน ซึ่งงานนี้ ประเทศสมาชิก จะมีการแลกเปลี่ยน และสอบถามไอเคโอ เกี่ยวกับการแก้ปัญหา มาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินได้ นอกจากการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้แล้ว ไทยก็จะได้ประโยชน์ สามารถแสดงถึงแนวทางในการแก้ปัญหาปลดธงแดงในช่วงที่ผ่านมา เพื่อเรียกความเชื่อมั่นมาตรฐานความปลอดภัยการบินได้อีกมาก
นอกจากนี้ นายจุฬา กล่าวถึงทิศทางอุตสาหกรรมการบินของไทย หลังจากยกมาตรฐานความปลอดภัยแล้ว ในอนาคตเชื่อว่าการขยายการลงทุน ในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ซึ่งจะมีการลงทุนในเมืองการบิน อู่ตะเภาในส่วนของศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานในภูมิภาค โดยหลายคนอาจไม่รู้ว่า ที่ผ่านมาไทย มีศักยภาพ ในการผลิตชิ้นส่วน อะไหล่ อากาศยาน เพื่อส่งออก อยู่แล้ว แต่ละปีมีมูลค่าส่งออกกว่า 70,000 ล้านบาท และเชื่อว่า เมื่อมีการขยายลงทุนศูนย์ซ่อมอากาศยาน จะยิ่งทำให้ธุรกิจโตอย่างก้าวกระโดด ในส่วนของ กพท. ได้เห็นถึงความจำเป็นในการเร่งผลิต บุคลากร ช่างซ่อมอากาศยาน และได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมหลักสูตรและเพิ่มปริมาณนักศึกษาโดยเร็วให้ทันต่อการขยายตัวของอุตสาหกรรม ที่จะเกิดขึ้น 2-3 ปีข้างหน้า.-สำนักข่าวไทย
