ทีโอที 26 มิ.ย.-ฝ่ายค้านจวกรายงานแผนปฏิรูปล้มเหลว ทำแต่เรื่องเล็ก ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ทำลายระบบปฏิรูปการเมือง จี้ส่งรายงานล่วงหน้า ไม่ใช่เห็นตอนเข้าประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในช่วงเย็นวันนี้ (26 มิ.ย.) มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม โดยที่ประชุมได้รับทราบรายงานควมคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนปฏิรูปประเทศ มาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญ ที่ต้องมีการรายงานต่อสภาผู้แทนราษฎรทุก 3 เดือน (ม.ค.-มี.ค. 2562) ซึ่งวิปทั้งสองฝ่ายได้ตกลงแบ่งเวลาการอภิปราย 5 ชั่วโมง พรรคเพื่อไทยได้ 150 นาที พรรคอนาคตใหม่ 100 นาที ส่วนที่เหลือ 50 นาที เป็นของพรรคร่วมรัฐบาล
นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ชี้แจงรายงานว่า การดำเนินตามแผนปฏิรูปในช่วงแรกพบปัญหาว่ามีหลายหน่วยงานทำงานซ้ำซ้อนกัน รวมถึงแผนที่ทำมาบางส่วนยังไม่สอดคล้องกับการปฏิรูปประเทศ ดังนั้นเมื่อประกาศใช้แผนแม่บทตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ จึงต้องปรับแผนให้เหมาะสม อย่างไรก็ตามส่วนที่ปฏิรูปและดำเนินการไปแล้ว คือการรับเรื่องราวร้องทุกข์ คือขณะนี้มีทนายความทุกสถานี และมีสายด่วน 191 แจ้งเหตุฉุกเฉิน
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายตั้งข้อสังเกตว่า รู้สึกกังวลที่ความตั้งใจของรัฐบาล ไม่สอดคล้องกับวิธีการดำเนินงาน ตามทีนายทศพรพยายามบอกว่าแผนปฏิรูปต้องสอดคล้องตามยุทธศาสตร์ชาติ แต่ในความเป็นจริงไม่ทราบว่าแผนใดเป็นแผนหลัก เพราะแผนปฏิรูปเกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม 2560 แต่แผนยุทธศาสตร์ชาติมีขึ้นในเดือนมีนาคม 2562 และเมื่ออ่านรายละเอียดของแผนทั้งหมดพบว่า มีแต่การปฏิรูปเพียงเรื่องเล็ก ๆ เท่านั้น และส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่หน่วยงานราชการดำเนินการอยู่แล้ว จึงมองว่าเป็นการล้มเหลวของการปฏิรูปตามแผนที่กำหนดไว้ เช่น มีเรื่องการปฏิรูปการเมือง แต่กลับไม่เคารพหลักประชาธิปไตย และมีการเลือกตั้งมานานแล้ว จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการตั้งรัฐบาลใหม่ จึงทำให้นายกรัฐมนตรียังมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด และแม้จะมีครม.ใหม่ แต่ผลพวงของม.44 ก็ยังคงอยู่ และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ไม่ใช่ยุทธศาสตร์ชาติ แต่เป็นเรื่องของการสร้างความชอบธรรมของกลุ่มคนที่ต้องการให้ตัวเองกลับเข้าสู่อำนาจอย่างน้อยอีก 5 ปี
“ส่วนตัวหดหู่ใจกับการเลือกตั้ง และขอเรียกร้องให้มีการตรวจสอบ แค่บัตรเลือกตั้ง ต้นขั้วบัตรเลือกตั้งยังไม่ตรงกันและมีบัตรเขย่ง เลือกตั้งมาตั้งนาน ยังไม่ได้ตั้งรัฐบาล และเป็นรัฐบาลที่มีพรรคร่วมถึง 26 พรรคแต่ยังเป็นสภาเสียงปริ่มน้ำ นี่คือตัวอย่างชัด ๆ เลยที่ทำให้เห็นว่าการปฏิรูปการเมืองล้มเหลว”นพ.ชลน่าน กล่าว
นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ดูรายงานปฏิรูปแล้วเห็นว่า หลายเรื่องยิ่งถอยหลัง โดยเฉพาะการปฏิรูปการเมือง จะเห็นว่า รัฐธรรมนูญปี 2540 ประชาชนเลือกส.ว.เข้ามาทำงาน แต่รัฐธรรมนูญฉบับนี้กลับถอยหลัง ให้คสช.ตั้งส.ว. โดยที่ประชาชนไม่มีส่วน
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า ตนเป็นคนหนึ่งที่สนใจอยากเห็นประเทศนี้มีการปฏิรูปและเดินไปข้างหน้า แต่เห็นรายงานแล้วไม่เชื่อว่าจะเป็นการปฏิรูปประเทศได้เลยแม้แต่น้อย สิ่งแรกเห็นว่าเป็นความบกพร่องของสภา ที่เพิ่งได้รับรายงานฉบับนี้ในวันนี้ ทั้งที่มีถึง 20 หน้า ทั้งที่ควรจะส่งให้ส.ส.ได้อ่านล่วงหน้า จึงไม่มีเวลาในการอ่านและนำเสนอแนวทาง ดังนั้นในครั้งต่อไปขอให้ส่งรายงานล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน และการทำเช่นนี้แสดงให้เห็นว่า สภาเป็นเสมือน “ตรายาง” รับทราบเพียงอย่างเดียว และเท่าที่ดู ไม่เห็นอะไรที่ปฏิรูปเป็นชิ้นเป็นอัน มีเพียงตั้งสภาปฏิรูป และเขียนแผน และเท่าที่ดูเห็นว่าแผนนี้ไม่ได้กำหนดเพื่อทำอย่างจริงจัง ตนไม่เห็นว่าหลังจากปฏิรูปไปได้มีการประเมินแต่ละแผนหรือไม่ ว่าก้าวหน้าและสำเร็จอย่างไร อย่างเช่นแผนปฏิรูปด้านการเมือง โครงการและแผนคือปฏิรูปการเมืองให้มีการเลือกตั้งสุจริตและเที่ยงธรรม อยากถามว่า สุจริตมากน้อยแค่ไหน 3 เดือนเพิ่งได้ประกาศผลการเลือกตั้ง และที่บอกว่าสุจริต หมายความว่าไม่มีการซื้อเสียง แต่ตนคิดว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมา มีการซื้อเสียงมโหฬาร ถ้าพูดความจริงกัน
“เขียนมาเพื่อหลอกตัวเอง เขียนมาเพื่อสวยหรูหรือป่าว และผู้เขียนเอง เป็นผู้นำทุจริตเอง การเลือกตั้งที่ผ่านมานอกจากไม่สุจริตแล้ว ยังเป็นการใช้อำนาจของรัฐแบบที่ไม่อายชาวบ้านเลย เพื่อเอาชนะอย่างเดียว ศาลากลางบางแห่ง ในอำเภอหลายแห่ง ได้เอาเงินของบางพรรคไปแจกให้กำนันในสถานที่ราชการ ทำได้อย่างไร มันยิ่งกว่าถอยหลังเข้าคลอง ลงทะเลด้วยซ้ำ มันปฏิรูปตรงไหนครับ ประชาธิปไตย ถ้าเริ่มด้วยการเลือกตั้งที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรมแล้ว อย่าหวังว่าประชาธิปไตยจะดีขึ้น ที่เขียนว่าการเลือกตั้งสุจริตเป็นวาระแห่งชาติ ชาติไหนครับ”นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย