ปตท.ปรับแผนสรรหานวัตกรรมป้องกันธุรกิจพลังงานขาลง

กรุงเทพฯ 18 ส.ค. – ปตท.เร่งจัดหาก๊าซแอลเอ็นจีรองรับหากรัฐต่ออายุสัมปทานปิโตรเลียมหมดอายุล่าช้า เจราจารายใหม่ทำสัญญาระยะยาว สรุปเข้าบอร์ดเดือนกันยายน พร้อมตั้งกองทุนร่วมทุนและหน่วยงานร่วมทุนนวัตกรรมรองรับก๊าซธรรมชาติในประเทศที่ลดลงและเทรนด์โลกที่ลดใช้น้ำมัน


นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า กลุ่ม ปตท.เตรียมแผนกรณีการประมูลแหล่งสัมปทานปิโตรเลียมที่หมดอายุปี 2565-2566 ล่าช้า กระทบต่อการผลิตไฟฟ้าของประเทศและกำลังผลิตปิโตรเคมี โดย ปตท.เร่งแผนการก่อสร้างสถานีรับก๊าซแอลเอ็นจี และเจรจาซื้อแอลเอ็นจีสัญญาระยะยาว  ซึ่งขณะนี้ตลาดเป็นของผู้ซื้อและกำลังเจรจาผู้ขายรายใหม่ได้เงื่อนไขที่ดี พร้อมกับการเจรจากับเชลล์และบีพี  โดยจะมีการซื้อรายละ 1-1.2 ล้านตัน/ปี รวมประมาณ 3 ล้านตัน/ปี จะนำเสนอเข้าบอร์ด ปตท.เดือนกันยายนนี้ หากได้ราคาแอลเอ็นจีที่ดีจะทำให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าต่ำลงด้วย

ขณะเดียวกันบริษัทในเครือ ปตท.กำลังปรับแผนการผลิต โดยโรงกลั่นไทยออยล์จะกลั่นน้ำมันเพื่อให้ได้แนฟทา และ บมจ.พีทีทีโกลบอลเคมิคอล หรือพีทีทีจีซี ก็ปรับการผลิตปิโตรเคมีจากการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติมาเป็นแนฟทาทดแทนมากขึ้น


“ปตท.วางแผนจะซื้อแอลเอ็นจีสัญญาระยะยาว 5 ล้านตัน/ปี ที่เหลือจะเป็นราคาสปอตหรือสัญญา 3-5 ปี โดยสัญญาระยะยาวขณะนี้มาจากกาตาร์ 2 ล้านตัน อีก 3 ล้านตันจะสรุปสัญญาและเสนอเข้าบอร์ดเดือนหน้า” นายเทวินทร์ กล่าว

ทั้งนี้ ไตรมาส  2 ปีนี้ ปตท.ทบทวนแผนการลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ราคาพลังงานที่เปลี่ยนแปลงไป โดยปรับลดแผนการลงทุนปี 2559 จาก 50,839 ล้านบาท ซึ่งตั้งไว้เมื่อราคาน้ำมันอยู่ที่ 54 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลงเหลือ 43,307 ล้านบาท เนื่องจากราคาน้ำมันปรับลดลงมาที่ระดับ 40 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยลดการลงทุนที่ไม่คุ้มทุนในสภาวะราคาน้ำมันตกต่ำ แต่ระยะต่อไป ปตท.เพิ่มแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ ท่าและคลังแอลเอ็นจี และระบบท่อส่งก๊าซฯ และน้ำมัน เป็นต้น เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศ ทำให้แผนลงทุน 5 ปี (2559 – 2563) ปตท. มีวงเงินเพิ่มขึ้นเป็นจาก 297,000 ล้านบาท เป็นประมาณ 300,000 ล้านบาท

สำหรับเงินลงทุนปี 2559 ที่ลดลง 7,532 ล้านบาท มีโครงการที่ยกเลิกการลงทุนเป็นโครงการที่จะผลิตแอลพีจีเพิ่มจากโรงแยกก๊าซวงเงิน 2,800 ล้านบาท  ส่วนวงเงินที่เหลืออีกกว่า 4,000 ล้านบาท  ส่วนใหญ่เป็นโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่ล่าช้าแต่จะมีการลงทุนแน่นอน ซึ่งจากนโยบายรัฐบาลให้เร่งการลงทุน ปตท.ก็เร่งแผนที่ลงทุนชัดเจนให้เร็วขึ้น เช่น โครงการขยายการลงทุนรับแอลเอ็นจีเฟส 2 สถานีที่ 1 เพิ่มอีก 1.5 ล้านตัน  จากเดิม 5 ล้านตัน/ปี วงเงินลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท ,โครงการขยายเครือข่ายท่อก๊าซเพิ่มอีก 1,000 ล้านบาท ,โครงการสร้างสถานีรับแอลแอ็นจีแห่งที่ 2 กำลังพิจารณาจะสร้างขนาด 5 ล้านตัน/ปี หรือ 7.5 ล้านตัน/ปี โครงการย้ายคลังและผลิตยางมะตอยน้ำอีกกว่า 1,000 ล้านบาท เป็นต้น


นายเทวินทร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ปตท.จากทรัพยากรในประเทศและปิโตรเลียม อย่างไรก็ตาม จากก๊าซธรรมชาติที่ลดน้อยลง รวมถึงทิศทางตลาดโลกที่เปลี่ยนไปใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น เช่น รถยนต์มุ่งไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า กลุ่ม ปตท.จึงปรับแผนได้กำหนดยุทธศาสตร์ เพื่อเติบโตในอนาคตรองรับทิศทางตลาดที่มีลูกค้าจะเป็นศูนย์กลางหลักและเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าและเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิต  (Disruptive technologies) โดยจะเสนอแผนที่ชัดเจนปลายปีนี้เน้นเรื่องประสริทธิภาพและนวัตกรรมภายใต้โครงการ “Make It Happen”  ประกอบด้วย การดำเนินการที่ทำทันที (Do Now)  โอกาสการลงทุนต่อเนื่องในธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ (Decide Now) และ การแสวงหาธุรกิจใหม่เพื่อความยั่งยืน (Shape Now)  กลยุทธ์ที่กลุ่ม ปตท.สามารถดำเนินการได้ทันที คือ การเพิ่มประสิทธิภาพและบริหารค่าใช้จ่ายให้เกิดประโยชน์สูงสุด (Productivity Improvement Program) ซึ่งได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ทั้งด้านการสร้างรายได้ การลดต้นทุน และการปรับโครงสร้างธุรกิจให้เกิดประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้น

สำหรับโอกาสการลงทุนต่อเนื่องในธุรกิจนั้น  กลุ่ม ปตท.ให้ความสำคัญกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ ได้แก่ ระบบท่อ คลังก๊าซฯ และน้ำมัน ขยายธุรกิจที่มีความเชียวชาญสู่ต่างประเทศ ,ลงทุนในสายโซ่อุปทานของแอลเอ็นจี  ที่คาดว่าประเทศไทยจะมีการนำเข้าแอลเอ็นจีมากขึ้นในอนาคต โดยจะร่วมศึกษากับ ปตท.สผ.ผลิตแอลเอ็นจีจากแหล่งปิโตรเลียมต่างประเทศ

นายเทวินทร์ กล่าวว่า ปตท.จัดตั้งหน่วยงาน ExpresSo (Express Solution) เพื่อเป็นศูนย์กลางในการวิเคราะห์ คัดเลือกแนวคิดธุรกิจใหม่ ๆ จัดทำเป็นโมเดลธุรกิจต้นแบบ ซึ่งหากมีความเป็นไปได้ก็จะนำมาต่อยอดขยายผลสู่การดำเนินการเชิงพาณิชย์ต่อไป และจัดตั้งกองทุนร่วมลงทุน (CVC;Corporate Venture Capital ) และด้านสังคม ปตท. มีแนวทางยกระดับการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) ให้มีความยั่งยืนขึ้นโดยการสนับสนุนจัดตั้งธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) แสวงหาการลงทุนที่สามารถเลี้ยงตนเองได้โดยให้ชุมชนมีส่วนร่วมและเป็นเจ้าของ ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษา เช่น โครงการปลูกไม้เมืองหนาวเพื่อช่วยพัฒนาวิถีเกษตรกร โครงการโรงไฟฟ้าขยะ และโครงการจัดหาเมล็ดกาแฟจากชุมชนสำหรับร้านคาเฟ่ อเมซอน เป็นต้น

นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน  ปตท. กล่าวว่า โครงการร่วมลงทุน CVC เบื้องต้นจะจัดตั้ง 50-100 ล้านบาท ซึ่งการลงร่วมลงทุนก็จะเหมือนบริษัทปิโตรเลียมทั่วโลกที่มีการตั้งกองทุนนี้เพื่อแสวงหาการลงทุนด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นหลัก โดยในต่างประเทศจะใช้เงินลงทุนประมาณร้อยละ 0.1 ถึง0.7 ของเม็ดเงินลงทุนแต่ละปี

ทั้งนี้  ปตท.แถลงผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2 ปี 2559 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 24,879 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1 จากไตรมาสแรกที่มีกำไรสุทธิ 23,669 ล้านบาท ส่งผลให้ภาพรวมงวดครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 48,548 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8  สาเหตุหลักจากราคาขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่ปรับเพิ่มขึ้น ประกอบกับ ต้นทุนค่าก๊าซธรรมชาติที่ทยอยปรับลดลงตามราคาน้ำมันที่ลด โดยครึ่งปีหลังคาดราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยจะปรับขึ้นจากครึ่งปีแรกที่ 37.1 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เป็น 42-46 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ค่าการกลั่นอาจอ่อนค่าลงจาก 6.37 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลเป็น 4.5 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ธุรกิจปิโตรเคมีแนวโน้มผลประกอบการลดลง อย่างไรก็ตาม จากที่ ปตท.มีธุรกิจจากต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ จึงคาดว่าผลประกอบการยังคงแข็งแกร่ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย

ตรวจสอบรายรับรายจ่ายวัดใหญ่จอมปราสาท

สมุทรสาคร 13 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาท นำมาเทียบกับเส้นเงินของของเจ้าอาวาสที่หนีไป หลังตรวจพบโอนเงินให้สีกา ก. กว่า 1 ล้านบาท ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำคณะเข้าพบ พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ระบบการเงินในวัดใหญ่จอมปราสาท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าได้โอนเงินกว่า 1 ล้านบาทไปให้สีกา ก. แต่ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติมคือ เงินที่โอนให้สีกาเป็นเงินส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดบ้าง มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึง เงินวัดนั้นเข้าบัญชีใคร มีไวยาวัจกรณ์เบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงว่า ทางวัดยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ส่วนเงินวัดนั้นเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเงินวัดก็จะมีรายรับมาจากให้ที่จอดเรือบริเวณหน้าวัด ประมาณเดือนละ […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]