ศาลาว่าการ กทม. 20 มิ.ย.- ผู้ว่าฯกทม. ยอมรับกรณีเครนถล่มเจ้าหน้าที่บกพร่องเอง สั่งลงโทษวินัย รอสอบว่าจะโยงถึง ผอ.เขตบางรักด้วยหรือไม่
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) กล่าวถึงกรณีที่วานนี้ (19มิ.ย.) เครนก่อสร้างหักโค่น ภายในซอยเจริญกรุง 36 ถนนเจริญกรุง เขตบางรัก ส่งผลไห้นักเรียนโรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ ได้รับบาดเจ็บ และอาคารสถานที่เสียหาย ว่า ตอนนี้ได้กำชับเขตบางรัก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำนักงานโยธา สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ให้เร่งนำอุปกรณ์ก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นเครนที่หักค้าง หรือนั่งร้านที่ห้อยอยู่ออกให้หมดภายในวันนี้ เพื่อความปลอดภัย เพราะในพื้นที่นอกจากโรงเรียนแล้ว ยังมีวัดอยู่ใกล้ๆด้วย
รวมถึงให้ประสานไปยังสถานีตำรวจนครบาล (สน.) บางรัก ว่าจะสามารถดำเนินคดีผู้รับเหมาในข้อหาใดบ้าง เนื่องจากเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของกทม.ที่เดิมอาคารดังกล่าวเดิมเป็นคอนโดมิเนียม ต่อมาได้ยื่นขอใบ อนุญาตปรับปรุงอาคาร เมื่อเจ้าหน้าที่กองควบคุมอาคาร สำนักการโยธา และฝ่ายโยธา สำนักงานเขตบางรัก ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่ามีการดัดแปลงอาคารคอนโดมิเนียมเป็นโรงแรม ดังนั้นเขตบางรัก จึงออกคำสั่งระงับการก่อสร้าง ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร รวมถึงไม่มีวิศวกรควบคุมดูแล ถือว่าผิดทุกอย่าง
ผู้ว่าฯกทม.กล่าวยืนยันด้วยว่า กทม.จะดำเนินคดีทุกข้อหา ทั้งข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นและขออนุญาตก่อสร้างอาคารไม่ถูกต้อง โดยจะรวบรวมหลักฐาน ส่งพนักงานสอบสวน สน.บางรัก ต่อไป และสั่งห้าม ห้ามก่อสร้างเด็ดขาด หากพบว่ามีการฝ่าฝืนจะดำเนินคดีถึงที่สุด
“ไม่ต้องสรุปหรอกว่าเกิดจากสาเหตุอะไร พูดง่ายคือเถื่อน ไม่ได้รับอนุญาต สั่งให้ยกเลิกไปตั้งแต่ 1 เมษายนก็ยังจะทำ แถมวิศวกรควบคุมคุมที่ถูกต้องก็ไม่มี ขนาดขับรถที่ไม่มีใบอนุญาตถูกต้อง ทุกคนยังบอกว่ารถเถื่อน นี่ก็เหมือนกัน เป็นการก่อสร้างเถื่อน” ผู้ว่าฯ กทม. กล่าว
ส่วนการลงโทษผู้เกี่ยวข้อง ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า วานนี้ (19มิ.ย.) ได้มีคำสั่งย้ายหัวหน้าฝ่ายโยธาเขตบางรักออกจากพื้นที่ เหตุปล่อยปละให้มีการลักลอบก่อสร้างผิดกฎหมาย จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ครั้งแรกที่มีวัสดุตกหล่นจนมีประชาชนได้รับอันตราย โดย ปลัด กทม.ได้ลงนามคำสั่งย้ายหัวหน้าฝ่ายโยธา เขตบางรัก ออกจากพื้นที่แล้ว มีผลบังคับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ส่วนจะผิดไปถึงระดับอื่นถึง ผอ.เขตบางรักหรือไม่นั้น ต้องขอตรวจสอบเอกสารหลักฐานและสอบปากคำทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องก่อน จึงจะบอกได้ แต่หากพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องรับรองว่าไม่ปกป้องเตรียมดำเนินการถึงที่สุด
“คำลั่งของ กทม.ไม่เหมือนของตำรวจ ได้ยินหลายคนพูดว่าย้ายไป 30 วันก็กลับมาที่เดิม คำสั่งกทม.ไม่เหมือนกันไปแล้วไปลับ ที่ย้ายก็เพราะว่า พูดตรงๆไม่ใช่แค่บกพร่อง คือไม่ใส่ใจเลยดีกว่า บริษัทบกพร่องหรือไม่เราไม่รู้ แต่ที่แน่ๆเจ้าหน้าที่เราบกพร่องแน่ๆ แบบนี้เรียกไม่ใส่ใจ เหมือนเด็กอะนะ คนไหนทำดีก็ให้ขนม ใครทำไม่ดีก็เอาไม้เฆี่ยน” ผู้ว่าฯกทม.
ส่วนในอนาคตหากบริษัทที่กระทำผิดได้รับการลงโทษ จะมีสิทธิ์กลับมาขอก่อสร้างใหม่อย่างถูกต้องได้หรือไม่ พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ก็มีโอกาสทำได้แต่คงต้องตรวจสอบอย่างละเอียด แต่ส่วนตัวคิดว่าคงยาก โดยเฉพาะหากจะกลับมาภายในปีนี้ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะการขออนุญาตจะต้องใช้เวลาตรวจสอบขั้ลตอนต่างๆไม่ต่ำกว่า 4-5 เดือน
ผู้ว่าฯกทม.กล่าวอีกว่า นอกจากนี้กำชับไป ทั้ง 50 เขต ให้ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรง ทั้งป้ายโฆษณา และเครนในพื้นที่ เนื่องจากเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งมีลมกรรโชกแรง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ขณะเดียวกันพื้นที่ก่อสร้างต่างๆ จะต้องมีวิศวกร เข้ามาควบคุมงาน
ไม่ใช่มีเฉพาะหัวหน้าคนงานเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย